นราธิวาส - เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร นราธิวาส กว่า 50 นาย บุกทลายแหล่งประกอบระเบิดป่วนใต้ ในพื้นที่ ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ สามารถตรวจยึดอุปกรณ์ประกอบระเบิดได้ จำนวน 16 ลูก คาดคนร้ายเตรียมไว้ก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอน

วานนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.หน่วยนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส และ พ.ต.ท.ธนาธิป โสภาพ สว.สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ ได้ร่วมสนธิกำลัง จำนวน 50 นาย กระจายกำลังกันตรวจค้นบริเวณทุ่งนาร้างชายป่าหลังหมู่บ้านปะลุกาสาเมาะ ม.6 ต.ปะลุกาสาเมาะ หลังสืบทราบว่า นายอับดุลเลาะ โล๊ะมะ ซึ่งเป็นแกนนำกองกำลังติดอาวุธและพวกจำนวนหนึ่ง ได้แฝงตัวเคลื่อนไหวเพื่อจะทำการประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง เพื่อกระจายให้กลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ลักลอบก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ในช่วง 2-3 วันที่จะถึงนี้
เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้แยกย้ายกันเดินหน้ากระดานค้นหาอุปกรณ์ในการประกอบระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการค้นหานานกว่า 1 ชั่วโมง จนพบกระสอบใส่ปุ๋ยสีขาวจำนวน 15 กระสอบ ถูกวางซุกอยู่ในบริเวณกอหญ้าที่รกทึบ โดยกลุ่มคนร้ายได้ใช้ผ้าสีขาวตัดผูกไว้เป็นสัญลักษณ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแกะกระสอบปุ๋ยออกทีละกระสอบ พบว่า ภายในกระสอบได้แยกอุปกรณ์ประกอบระเบิดไว้ จำนวน 4 ส่วน คือ
1. ส่วนที่เป็นถังแก๊สปิกนิคและถังดับเพลิง รวม 11 ถัง ซึ่งแต่ละถังสามารถประกอบระเบิดได้ลูกละ 20 กก. รวมน้ำหนักทั้งหมด 220 กก.
2. ในส่วนของสะเก็ดระเบิด ที่คนร้ายได้ตัดเหล็กเส้นและลูกปลาย
3. ในส่วนของอุปกรณ์ที่ใช้จุดชนวนระเบิด เช่น สายไฟ วงจรจุดชนวนระเบิด แบตเตอรี่ และปุ๋ยยูเรีย
4. ในส่วนของเหล็กแผ่นที่คนร้ายใช้ประกอบเป็นภาชนะสี่เหลี่ยม จำนวน 27 แผ่น สามารถประกอบระเบิดได้ จำนวน 5 ลูก หนักลูกละ 5 กก. รวมน้ำหนัก 25 กก.
เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดไปทำการตรวจสอบเพื่อหาคราบลายนิ้วมือแฝง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับวัตถุพยาน ที่เคยตรวจสอบพบในที่เกิดเหตุต่างๆ ว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นใครบ้าง เพื่อขยายผลไปสู่การจับกลุ่มมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
แหล่งข่าวซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดเผยว่า ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ ของกลางทั้งหมดสามารถประกอบระเบิดได้ จำนวน 16 ลูก โดยแยกเป็นน้ำหนักลูกละ 20 กก.ได้จำนวน 11 ลูก และแยกเป็นน้ำหนักลูกละ 5 กก. ได้จำนวน 5 ลูก ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจยึดมาได้ ในช่วงเดือนรอมฎอนหรือเดือนถือศีลอดนี้ เจ้าหน้าที่กองกำลังในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จะถูกสังเวยชีวิตกับระเบิดแสวงเครื่องชุดนี้ จำนวนหลายสิบนาย เนื่องจากคาดว่าระเบิดชุดนี้จะนำไปใส่รถยนต์เก๋ง และรถยนต์กระบะที่คนร้ายได้ขโมยมาก่อนหน้านี้กว่า 10 คัน ซึ่ง 1 ในจำนวนนั้น ได้ใช้เป็นระเบิดคาร์บอมบ์หน้าบริษัทโปรคอมพิวเตอร์แอนด์โอเอไทยแลนด์จำกัด เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา
วานนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.หน่วยนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส และ พ.ต.ท.ธนาธิป โสภาพ สว.สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ ได้ร่วมสนธิกำลัง จำนวน 50 นาย กระจายกำลังกันตรวจค้นบริเวณทุ่งนาร้างชายป่าหลังหมู่บ้านปะลุกาสาเมาะ ม.6 ต.ปะลุกาสาเมาะ หลังสืบทราบว่า นายอับดุลเลาะ โล๊ะมะ ซึ่งเป็นแกนนำกองกำลังติดอาวุธและพวกจำนวนหนึ่ง ได้แฝงตัวเคลื่อนไหวเพื่อจะทำการประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง เพื่อกระจายให้กลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ลักลอบก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ในช่วง 2-3 วันที่จะถึงนี้
เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้แยกย้ายกันเดินหน้ากระดานค้นหาอุปกรณ์ในการประกอบระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการค้นหานานกว่า 1 ชั่วโมง จนพบกระสอบใส่ปุ๋ยสีขาวจำนวน 15 กระสอบ ถูกวางซุกอยู่ในบริเวณกอหญ้าที่รกทึบ โดยกลุ่มคนร้ายได้ใช้ผ้าสีขาวตัดผูกไว้เป็นสัญลักษณ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแกะกระสอบปุ๋ยออกทีละกระสอบ พบว่า ภายในกระสอบได้แยกอุปกรณ์ประกอบระเบิดไว้ จำนวน 4 ส่วน คือ
1. ส่วนที่เป็นถังแก๊สปิกนิคและถังดับเพลิง รวม 11 ถัง ซึ่งแต่ละถังสามารถประกอบระเบิดได้ลูกละ 20 กก. รวมน้ำหนักทั้งหมด 220 กก.
2. ในส่วนของสะเก็ดระเบิด ที่คนร้ายได้ตัดเหล็กเส้นและลูกปลาย
3. ในส่วนของอุปกรณ์ที่ใช้จุดชนวนระเบิด เช่น สายไฟ วงจรจุดชนวนระเบิด แบตเตอรี่ และปุ๋ยยูเรีย
4. ในส่วนของเหล็กแผ่นที่คนร้ายใช้ประกอบเป็นภาชนะสี่เหลี่ยม จำนวน 27 แผ่น สามารถประกอบระเบิดได้ จำนวน 5 ลูก หนักลูกละ 5 กก. รวมน้ำหนัก 25 กก.
เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดไปทำการตรวจสอบเพื่อหาคราบลายนิ้วมือแฝง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับวัตถุพยาน ที่เคยตรวจสอบพบในที่เกิดเหตุต่างๆ ว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นใครบ้าง เพื่อขยายผลไปสู่การจับกลุ่มมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
แหล่งข่าวซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดเผยว่า ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ ของกลางทั้งหมดสามารถประกอบระเบิดได้ จำนวน 16 ลูก โดยแยกเป็นน้ำหนักลูกละ 20 กก.ได้จำนวน 11 ลูก และแยกเป็นน้ำหนักลูกละ 5 กก. ได้จำนวน 5 ลูก ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจยึดมาได้ ในช่วงเดือนรอมฎอนหรือเดือนถือศีลอดนี้ เจ้าหน้าที่กองกำลังในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จะถูกสังเวยชีวิตกับระเบิดแสวงเครื่องชุดนี้ จำนวนหลายสิบนาย เนื่องจากคาดว่าระเบิดชุดนี้จะนำไปใส่รถยนต์เก๋ง และรถยนต์กระบะที่คนร้ายได้ขโมยมาก่อนหน้านี้กว่า 10 คัน ซึ่ง 1 ในจำนวนนั้น ได้ใช้เป็นระเบิดคาร์บอมบ์หน้าบริษัทโปรคอมพิวเตอร์แอนด์โอเอไทยแลนด์จำกัด เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา