นราธิวาส - กำลัง 3 ฝ่ายร่วมถกเพื่อขยายพื้นที่เซฟตี้โซนและออกมาตรการพิทักษ์เมืองโก-ลก ขณะที่มาเลย์ประกาศเตือนเข้าไทยต้องระวังตัว ด้านเจ้าของบริษัทที่ถูกระเบิดรอความช่วยเหลือจากรัฐ เผยหากได้เงินน้อยต้องปิดกิจการ
จากเหตุระเบิดใน อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา สำหรับการติดตามคลี่คลายคดีดังกล่าวนั้น นายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก และ พ.ท.วุทธนา จันทมาศ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 ได้ผสานกำลังกัน 60 นายใช้กฎอัยการศึกในการบุกจู่โจมตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัย 4 จุดในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้ายที่จุดชนวนระเบิดและทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะบรรทุกระเบิดมาจอดไว้ที่บริเวณหน้าบริษัท โปรคอมพิวเตอร์ แอนด์ โอเอ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 2-8 ถ.เจริญเขต ซอย 1 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 ก.ค. 55 ที่ผ่านมาจนทำให้อาคารของบริษัทได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 10 ราย ซึ่งผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบบุคคลตามเป้าหมายจึงคาดว่าไหวตัวหลบหนีเข้าไปในประเทศมาเลเซีย
ส่วนกรณีภาพวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายไว้ได้นั้น พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเชิด ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า ภาพวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายได้ชัดเจนคือ กลุ่มคนร้ายที่ทำหน้าที่ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาดูลาดเลาเพื่อให้คนร้ายอีกคนขับรถยนต์คาร์บอมบ์มาจอดนั้นเป็นกลุ่มคนร้ายที่มีลักษณะเหมือนกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลกเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 54 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน และคาดว่าจะสามารถออกหมายจับบุคคลดังกล่าวได้ในอีก 2 วัน
ในส่วนของการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำซ้อนขึ้นมาอีกนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 ฝ่ายได้ร่วมกันประชุมปรึกษาหารือและวางแผนเตรียมออกมาตรการในการป้องกันพิทักษ์ อ.สุไหงโก-ลกให้ปลอดการก่อวินาศกรรมด้วยการขยายพื้นที่เซฟตี้โซนให้กว้างขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายมักจะอาศัยช่องโหว่ของซอยต่างๆ ในเส้นทางสายรองเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่จนสามารถลอบเข้ามาก่อเหตุร้ายได้
ด้าน นายเจริญชัย อุดมเลิศสกุล อายุ 74 ปี เจ้าของบริษัทฯ ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า ความสูญเสียในครั้งนี้ทำให้ชีวิตแทบล่มสลายที่ต้องสูญเสียทรัพย์สินไปประมาณ 100 ล้านบาทโดยที่ไม่ได้มีการทำประกันภัย ต้องรอความช่วยเหลือจากทางการ หากให้ค่าตอบแทนน้อยตนก็จำเป็นต้องปิดกิจการไปโดยปริยาย
ในส่วนของหนังสือพิมพ์ประเทศมาเลเซียทุกฉบับมีการออกข่าวเรื่องนี้แพร่หลาย โดยเจ้าหน้าที่ทางการประเทศมาเลเซียไม่ได้สั่งห้ามประชาชนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่ขอให้ระมัดระวังตัวหากจำเป็นต้องเดินทางมาทำธุระหรือท่องเที่ยว เพราะขณะนี้ จ.นราธิวาสเกิดเหตุร้ายขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรง