นราธิวาส - รอง ผบ.ตร.ลงนราธิวาสจี้ติดตามความคืบหน้าทางคดีเหตุคาร์บอมบ์โก-ลก ขณะตำรวจเผยภาพ 5 ผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์โก-ลก ที่เจ้าหน้าที่กำลังแกะรอยเพื่อขยายผลในการจับกุมคนร้าย และออกหมายจับ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (22 ก.ค.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางไปยังห้องประชุมปาหนัน กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และได้เรียกประชุมผู้กำกับการ รองผู้กำกับการ และสารวัตรใหญ่ประจำสถานีตำรวจภูธรทั้ง 19 สถานีในพื้นที่ จ.นราธิวาส รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการคลี่คลายคดีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าบริษัทโปรคอมพิวเตอร์แอนด์โอเอ ไทยแลนด์ จำกัด เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 55 ที่ผ่านมา เพื่อรับทราบความคืบหน้าทางคดี และรวมไปถึงการวางมาตรการไม่ให้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่อีก
ซึ่งการเข้าประชุมในครั้งนี้ พ.ต.อ.สมบัติ หวังดี รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ได้เป็นผู้กล่าวรายงานสรุปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนทุกแขนงเข้ารับฟังเนื่องจากเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายไหวตัวในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีกำลังรวบรวมประจักษ์พยานหลักฐาน ซึ่งคดีได้มีความคืบหน้าไประดับหนึ่ง และหลังจากประชุมแล้วเสร็จ รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะกลับกรุงเทพฯ เพื่อรายงานข้อมูลความคืบหน้าทั้งหมดทางคดีต่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ทราบ
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับกลุ่มคนร้ายที่เจ้าหน้าที่ได้แกะรอยจากภาพวงจรปิด และเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 54 ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีการประเมินร่วมกันกับชุดคลี่คลายคดี จนทราบเบาะแสว่าผู้ที่ร่วมก่อเหตุคาร์บอมบ์ในครั้งนี้มีอย่างน้อย 5 คน ซึ่งประกอบด้วย 1. นายนัสรี มือลี 2. นายมูฮำหมัดสักรี ไซซิง 3. นายบูดีมาน มะสาและ 4. นายอับดุลอาซิ มะแซ และ 5. นายอาแว ยา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการแกะรอยความคืบหน้าทางคดี และได้มีการแจกจ่ายภาพถ่ายและประวัติของบุคคลทั้ง 5 ให้บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นสายข่าวให้ทางราชการ ในการติดตามเบาะแส และพฤติกรรมในอีกทางหนึ่ง เพื่อรายงานให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับทราบในทางลับ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าบางคนยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของสมาชิกแนวร่วมพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งของ จ.นราธิวาส ที่เจ้าหน้าที่กำลังแกะรอย และรวบรวบข้อมูลเพื่อออกหมายจับในลำดับต่อไป