xs
xsm
sm
md
lg

แบะๆ..เรื่องแปลกปลายด้ามขวาน “เวียนเทียนแพะ” โครงการไทย(ใคร)เข้มแข็ง/ไชยยงค์ มณีพิลึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ : จุดคบไฟใต้
โดย...ไชยยงค์ มณีพิลึก

ความจริงวันนี้ ตั้งใจจะเขียนถึงเรื่องความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกคำรบหนึ่ง แต่เผอิญว่า ผมได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนใน อ.รามัน จ.ยะลา ให้ช่วยไปดูเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.รามัน และน่าจะหมายรวมถึงอำเภออื่นๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย และเรื่องประหลาดที่มีคนตามให้ผมไปดูคือ เรื่องการ “เวียนเทียนแพะ” ในโครงการไทยเข้มแข็ง และน่าจะเป็นโครงการ “ไทยเข้มแข็ง” เป็นโครงการในยุคของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นประชาธิปัตย์ในยุคสมัยที่มี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นนายกรัฐมนตรี
แฟ้มภาพประกอบ
โครงการไทยเข้มแข็ง นำเอาแพะพันธุ์ดีมาแจกให้แก่ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เลี้ยงนั้น เป็นโครงการที่มีกรมปศุสัตว์เป็นผู้รับผิดชอบ และในระดับพื้นที่เป็นหน้าที่ของปศุสัตว์จังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ และติดตามดูแล โดยโครงการนี้ ผ่านความเห็นของประชาคมหมู่บ้าน เพื่อให้ผู้ที่ประสงค์จะเลี้ยงแพะเข้าร่วมโครงการ ขั้นแรก มีงบประมาณทำคอกแพะในวงเงิน 10,000 บาท แต่ถ้าไปดูคอกแพะที่ทำขึ้นจะเห็นว่า มีการลงทุนไม่น่าจะเกิน 3,000 บาทต่อคอก

หลังจากที่สร้างคอกแพะแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ จะมีเจ้าหน้าที่นำแพะมาแจกให้ครอบครัวละ 8 ตัว ซึ่งมีการกำหนดสเปกว่า เป็นแพะพันธุ์ดี มีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม มีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ และหลังมอบแพะแล้ว เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ต้องติดตามดูแลให้คำแนะนำแก่ผู้เลี้ยง

แต่ปรากฏว่า ไม่ได้เป็นไปตามเช่นนั้น เพราะล่าสุด เมื่อถึงขั้นตอนการแจกแพะ เจ้าหน้าที่ไปซื้อแพะมาจาก จ.พัทลุง เป็นแพะที่รอการ “บูชายัญ” คือ ไม่แข็งแรง เมื่อนำมาถึงแทนที่จะมอบแพะให้แก่ชาวบ้านที่มีรายชื่อได้รับการแจกแพะ กลับเป็นว่า ให้ชาวบ้านเซ็นชื่อว่ารับแพะไปแล้ว ครัวเรือนละ 8 ตัว และมอบเงินให้ชาวบ้านแทนแพะ จำนวน 12,000 บาท

โดยวิธีนี้ เจ้าหน้าที่สามารถนำแพะ 8 ตัว มาเวียนเทียนได้ทั้งตำบล และสุดท้าย แพะเหล่านั้นก็ตาย เพราะทนการเวียนเทียนไม่ไหว ส่วนชาวบ้านก็ได้เงินครอบครัวละ 12,000 บาท โดยที่ไม่ต้องเลี้ยงแพะเพื่อขายแพะ และเพื่อที่จะได้ลูกแพะมาต่อยอดในการสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่ครอบครัวตามเจตนารมณ์ที่โครงการต้องการให้เป็น
แฟ้มภาพประกอบ
ผมมีเวลาลงพื้นที่เพียงสั้นๆ ที่ ต.อาซ่อง และ ต.บาลอ ของ อ.รามัน แต่ได้เห็นภาพคอกแพะจำนวนมากที่ไม่มีแพะ และจากการสอบถามชาวบ้าน พวกเขาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แพะที่เจ้าหน้าที่นำมาแจกเป็นแพะป่วยที่เลี้ยงไว้ก็ตายเปล่า จึงเซ็นชื่อรับแพะแต่แลกเป็นเงินสด และเอาเงินนั้นไปทำอย่างอื่นๆ ซึ่งง่ายดี เพราะไม่ต้องเสียเวลาในการเลี้ยง

ผมเคยพูดหลายเวที เคยเขียนหนังสือหลายสนามในเรื่องของปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า มีเรื่องให้พิจารณาอยู่ 2 ประการ นั่นคือ “กองทัพค้าสงคราม” และหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ “ค้ากำไร” และโครงการ “เวียนเทียนแพะ” ก็คือ โครงการหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนว่า หน่วยงานของรัฐในพื้นที่เอาโครงการดังกล่าวมาค้ากำไร มีการทำในส่วนที่ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ และเจตนารมณ์ ส่วนจะมีการทุจริตตรงไหน อย่างไร ผู้อ่านทุกท่านคงเห็นชัดแล้วว่า การเวียนเทียนแพะตามโครงการไทยเข้มแข็งทุจริตกันตรงไหน เพราะโดยข้อเท็จจริง ทุจริตกันตั้งแต่การสร้างคอกแพะแล้ว ส่วนใครจะเป็นผู้ทุจริต เอกชนผู้ร่วมโครงการ ชาวบ้านผู้รับแจกแพะ หรือเจ้าหน้าที่มี “เอี่ยว” ตรงไหน ก็ว่ากันไปตามระเบียบ

ผมเชื่อครับว่า โครงการไทยเข้มแข็งเป็นโครงการที่ดี รัฐบาลมีเจตนาดีที่ต้องการให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการเหล่านี้ โดยเฉพาะการแจกแพะให้แก่พี่น้องที่เป็นมุสลิมได้เป็นผู้เลี้ยงแพะทุกครัวเรือน เพื่อการต่อยอดให้ทุกครอบครัวได้รับประโยชน์ เพียงแต่รัฐคิดเอาเองว่าคนเหล่านี้ต้องการเลี้ยงแพะ ทั้งที่ความจริงเขาไม่ต้องการเลี้ยงแพะ แต่ต้องการเงินมาช่วยเหลือครอบครัวเท่านั้น

ดังนั้น จึงจะเห็นได้ว่า โครงการเลี้ยงแพะ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ปลูกผัก ไม่ว่าจะเป็นโครงการไทยเข้มแข็ง หรือโครงการของ กอ.รมน. โครงการของ ศอ.บต. ที่ทำกันมาหลายขวบปี จึงยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ประชาชนยังมีคุณภาพชีวิตที่ตกต่ำ ครอบครัวยังไม่เข้มแข็ง เช่นเดียวกับโครงการไทยเข้มแข็งหลายๆ โครงการ ที่สุดท้ายเมื่อทำเสร็จแล้วยังมีคำถามจากใครต่อใครว่า สุดท้ายแล้วใครเข้มแข็ง ชาวบ้าน หรือหน่วยงานของรัฐ
แฟ้มภาพประกอบ
ผมทราบว่า ขณะนี้เรื่องเวียนเทียนแพะไม่ได้มีที่ จ.ยะลาเพียงแห่งเดียว แต่มีเกิดขึ้นทุกพื้นที่ที่มีโครงการแจกแพะ ตามโครงการไทยเข้มแข็ง และที่เรื่องนี้ไม่อื้อฉาว เพราะเป็นเรื่อง “สมยอม” กันระหว่างหน่วยงานผู้รับผิดชอบกับประชาชนในพื้นที่ เพราะ วิน-วิน ทั้ง 2 ฝ่าย และผมทราบมาว่า ขณะนี้อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้เรียกให้หน่วยงานในพื้นที่ชี้แจงเรื่องเวียนเทียนแพะที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่เชื่อใจว่า จะได้ตัวผู้กระทำความผิดไปลงโทษ เพราะเรื่องนี้มีผลประโยชน์ที่ “ทับซ้อน” และผลประโยชน์ “รายทาง” ซึ่งเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ทุกฝ่ายต่างทำหน้าที่ “ซุกขยะไว้ใต้พรม” มาโดยตลอด

แต่ถึงจะหาคนผิดไม่ได้ หรือสุดท้ายแค่เป็นเรื่อง “บกพร่อง” ของเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย แต่อยากจะให้เรื่องแจกแพะ แจกเป็ด แจกปลาที่เกิดขึ้น เป็นอุทาหรณ์ให้แก่ทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลาง และพื้นที่ ว่าโครงการเหล่านี้มีแต่การทุจริตคอร์รัปชันไม่สามารถช่วยให้คนในพื้นที่เข้มแข็ง มีแต่ช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้มแข็ง

ดังนั้น ถ้าเป็นได้ เลิกเสียเถอะครับเรื่องแจกแพะ เลี้ยงแพะ เพราะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้วันนี้มีแพะมากพอเพียงแล้ว นั่นคือ แพะรับบาป และแพะบูชายัญไงครับท่าน
กำลังโหลดความคิดเห็น