xs
xsm
sm
md
lg

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าโต้ใบปลิวนักรบฟาตอนี ระบุไม่มีไทยพุทธย้ายถิ่นหนีไฟใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ใบปลิวที่มีผู้อ้างตัวเป็น นักรบฟาตอนี พิมพ์แจกจ่ายในพื้นที่
ยะลา - กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงปล่อยใบปลิวเพื่อสร้างความแตกแยกให้แก่พี่น้องประชาชน ระบุ ไม่มีคนไทยพุทธย้ายถิ่นฐานหนีเหตุการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลา ว่า วานนี้ (16 ก.ค.) พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์กลุ่มผู้ไม่หวังดีปล่อยใบปลิวขับไล่ราษฎรไทยพุทธนั้น การกระทำดังกล่าว เป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่กลุ่มขบวนการฯ นิยมใช้อยู่เสมอ นั่นคือ การข่มขู่ และสร้างความแตกแยกให้แก่พี่น้องประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธ พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน และพี่น้องประชาชนนับถือศาสนาอิสลาม เพื่อให้เกิดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน

ทั้งยังข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว โดยอาศัยเงื่อนไขทางอัตลักษณ์ ทางด้านศาสนาและเชื้อชาติ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความขัดแย้งตั้งแต่อดีต โดยมุ่งประสงค์ให้การก่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่เป็นความขัดแย้งของประชาชนในเรื่องศาสนา ซึ่งแท้จริงแล้ว เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของกลุ่มขบวนการที่แสวงหาอำนาจเพื่อปกครองดินแดนที่สงบสุขของพี่น้องประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา

ทั้งนี้ ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า เพื่อเป็นการหยุดยั้งเงื่อนไขในเรื่องการพยายามสร้างความแตกแยกของกลุ่มขบวนการต่อพี่น้องประชาชนไทยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการนับถือศาสนาที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเข้าใจ และต่อต้านการสร้างสถานการณ์ ยั่วยุ โฆษณาชวนเชื่อจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี

ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนได้ช่วยเหลือทางราชการในการรักษาความสงบสุขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ให้เกิดความสงบสุขเช่นในอดีต โดยร่วมกันสร้างความเข้าใจ และชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนได้รับทราบ ดังนี้

1.สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มขบวนการยังคงใช้เงื่อนไขทางอัตลักษณ์ในเรื่องของเชื้อชาติ ศาสนาเป็นแรงขับเคลื่อน เพื่อให้ประชาชนเกิดความแตกแยก และผลักดันให้เป็นเงื่อนไขสู่เวทีโลก แต่แท้จริงแล้ว ปัจจุบัน ประชาคมโลก เช่น องค์การสหประชาชาติ (UN), องค์การความร่วมมืออิสลม (OIC) ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มขบวนการ ทั้งยังไม่สนับสนุนให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน และประกาศว่า สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยไม่ใช่เงื่อนไขทางศาสนา

2.ปัจจุบัน ในหลายประเทศที่เป็นสังคมมุสลิม เช่น อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, บรูไน แม้แต่โลกอาหรับเอง เช่น ตุรกี, ซาอุดีอาระเบีย, อียิปต์ ล้วนต่างมีการพัฒนาถึงความสัมพันธ์กับประชาชาติอื่นๆ โดยมุ่งสู่ความเจริญ และความสุขของประชาชนเป็นส่วนรวม ทุกชาติ ทุกภาษา และศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

โดยเฉพาะประชาคมอาเซียน ที่มีวิถีชีวิตที่หลากหลาย ประชาชนในภูมิภาคนี้มีโอกาสที่ได้เรียนรู้ เสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ และโลกทัศน์ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะมีโอกาสที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นสื่อกลางติดต่อสัมพันธ์กับประเทศมุสลิม

3.ดินแดน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส และสงขลา ตั้งแต่ในอดีตนับเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว มีประชาชนที่อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู, พุทธ และอิสลาม ติดต่อค้าขาย และเป็นญาติมิตรพี่น้องกันอย่างสงบสุข ดังเช่นหลักฐานที่สำคัญคือ พระพุทธรูปปางไสยาตสน์ สร้างขึ้นสมัยศรีวิชัย พ.ศ.1300 ภายในวัดถ้ำคูหาภิมุข (วัดหน้าถ้ำ) ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งปัจจุบัน หลายพื้นที่พี่น้องประชาชนทั้งสองศาสนาก็ยังอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขถึงปัจจุบัน

4.จากการตรวจสอบข้อมูลราษฎรไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำเดือน มิ.ย. 2555 พบว่า มีราษฎรไทยพุทธในพื้นที่ต่างๆ ประกอบด้วย จ.ยะลา 103,775 คน (19,000 คน) จ.ปัตตานี 95,020 คน (17,902คน) และ จ.นราธิวาส 73,753 คน (13,905 คน)

จากข้อมูลเชิงประจักษ์ดังกล่าว จึงเห็นได้ว่า ไม่มีการย้ายถิ่นฐาน หรืออพยพออกจากพื้นที่ของราษฎรไทยพุทธเป็นจำนวนมากดังที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด (หมายเหตุ จำนวนในวงเล็บเป็นข้อมูลที่ปรากฏในแผ่นปลิว)

5.เพื่อเป็นการป้องกันมิให้พี่น้องที่นับถือศาสนาพุทธ และพี่น้องที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งสาธารณชนทั่วไป หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อ การยั่วยุข่มขู่ของขบวนการในการสร้างความแตกแยก ขอให้มีความสามัคคี ยึดมั่นในความเป็นพี่น้องกัน ความผูกพัน และความสงบสุขนับตั้งแต่อดีต และมีความหวงแหนในแผ่นดินถิ่นเกิดที่หลายครอบครัวได้ตั้งรกราก ถิ่นฐาน เกิด อาศัย และทำมาหากินในพื้นที่นี้ ให้เชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของรัฐในการดูแลป้องกันชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนทุกคน โดยไม่มีการแบ่งแยก ทั้งนี้ ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคนจะนำมาซึ่งความสงบสุขในที่สุด

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มีความประสงค์ให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และนำความเจริญการพัฒนามาสูจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558 และระงับยับยั้งการสร้างความแตกแยกของกลุ่มขบวนการ โดยพบเห็นผู้กระทำผิด บุคคล/กลุ่มบุคคลต้องสงสัย หรือมีพฤติกรรมในการสนับสนุนการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ โดยแจ้งที่สายด่วนความมั่นคง หมายเลข 1341 และ 1881 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสงบสุขแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ใบปลิวที่มีผู้อ้างตัวเป็น นักรบฟาตอนี พิมพ์แจกจ่ายในพื้นที่
กำลังโหลดความคิดเห็น