xs
xsm
sm
md
lg

เผาแล้วศพสาว 17 เหยื่อฆาตกรโหดฆ่าเสียชีวิตในบ้านที่ภูเก็ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เผาแล้วศพสาว 17 เหยื่อฆาตกรโหดที่จังหวัดภูเก็ต บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด ครอบครัว ญาติ และเพื่อนร่วมชั้นเรียนเข้าร่วมอาลัย
เผาแล้วศพเหยื่อฆาตกรโหดฆ่าเสียชีวิต
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (15 ก.ค.) ที่วัดลัฎฐิวนาราม หรือวัดใต้ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ตได้มีพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.สุนิศา ไทรย้อย อายุ 17 ปี เหยื่อสาวซึ่งถูกนายกิตติคุณ วงศ์หาจักร อายุ 28 ฆ่าเสียชีวิตคาห้องนอนเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 40 /27 หมู่บ้านชนกานต์ เชิงเขา ซอยนากก ม.5 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยเศร้าสลด พ่อแม่ ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตต่างก็ร้องให้ด้วยความเสียใจ ทั้งนี้ มีนายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง รองนายกเทศมนตรีตำบลฉลอง เจ้าหน้าที่พนักงานเทศบาล และเพื่อนนักเรียนร่วมรุ่นศิษย์เก่าโรงเรียนวิชิตสงคราม ร่วมพิธีฌาปนกิจด้วย

นายคะนึง ไทรย้อย บิดาของน.ส.สุนิสา ผู้ตายกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้รวดเร็ว ในการติดตามจับกุมคนร้าย และขอขอบคุณไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และนายกเทศมนตรีตำบลฉลอง ที่ช่วยดูแลเป็นอย่างดี ขณะนี้ ยังเสียใจมากที่สูญเสียลูกสาวไปในแบบนี้ และอยากฝากเตือนให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ อย่างไว้วางใจใคร หรือสิ่งใดทั้งสิ้น พยายามดูแลบุตรหลานอย่าให้อยู่ลำพังคนเดียว หรือบ้านช่องก็หมั่นตรวจตราป้องกันให้ดีกว่านี้

ส่วนเพื่อนร่วมชั้นศิษย์เก่าโรงเรียนวิชิตสงคราม ก็กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่เสียเพื่อนคนนี้ไป อยู่ที่โรงเรียน น.ส.สุนิศาจะเป็นคนอยู่เงียบๆ แต่นิสัยดี สามารถเข้ากับทุกคนได้ วันนี้มาขออโหสิกรรมให้แก่เพื่อนๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เพื่อนจากไป เพราะถ้าขาดเพื่อนไปสักคนรู้สึกว่ามันแย่
นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลฉลองร่วมพืธีเผาศพนางสาวสุนิศาเหยื่อฆาตกรโหด
ขณะที่การดำเนินคดี พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รอง ผกก.ป.สภ.ฉลอง กล่าวว่า ขณะนี้ตัวผู้ต้องหาคือ นายกิตติคุณ วงศ์หาจักร ขณะนี้ถูกนำตัวฝากขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นาย จากเหตุชุลมุนขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) อาการไม่น่ากังวล สอบถามไปยัง ด.ต.บุญเลิศ เผือกผ่อง ผู้ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด ที่นิ้วมือด้านขวาหัก 2 นิ้ว เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ตโดยแพทย์ได้ทำการรักษา และเข้าเฝือกพร้อมให้กลับมารักษาต่อที่บ้านได้ และยังได้รับการยืนยันจาก ด.ต.บุญเลิศ ว่า ขณะชุลมุนไม่ได้ถูกทำร้ายจากชาวบ้าน เพียงแต่เสียหลักหกล้มนิ้วมือไปติดกับประตูเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่มีการแจ้งดำเนินคดีแต่อย่างใด

พ.ต.ท.ณรงค์กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดความชุลมุนระหว่างนำตัวผู้ต้องหาออกจากสถานที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อวานนี้ เกิดจากระยะเวลาที่ทำแผนฯ มีความล่าช้า โดยช่วงแรก ได้มีการประเมินสถานการณ์ก่อนนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนฯ แล้ว พบว่า มีชาวบ้านและญาติผู้เสียงหายเพียง 100 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มีชายฉกรรจ์เพียงไม่กี่คน จึงได้สั่งการร่วมกับ ผกก.สภฉลอง ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยของจังหวัด (นปภ.) ร่วม 80 นาย มาดูแลความปลอดภัย

แต่เมื่อนำตัวผู้ต้องหามาถึง และเข้าไปทำแผนฯ อยู่ภายในบ้าน พบว่า ชาวบ้านมีการระดมกันมาเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว และมีจำนวนชายฉกรรจ์จำนวนมากได้ส่งเสียงด่าทอ บางส่วนเริ่มปีนกำแพงบ้านเข้ามา เมื่อจึงเห็นท่าไม่ดีจึงรีบนำตัวผู้ต้องหาออกมาเพื่อขึ้นรถในครั้งแรก และเกิดเหตุชุลมุนดังกล่าว จน จนท.ต้องกันตัวผู้ต้องหากลับเข้าไปภายในบ้านอีกครั้ง พร้อมทั้งผลักดันตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ออกจากบ้าน ก่อนรีบนำตัวผู้ต้องหากลับมาขึ้นรถอีกครั้ง และออกจากสถานที่ดังกล่าวได้สำเร็จ โดยทางเจ้าหน้าที่ทุกนายได้ป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว

พ.ต.ท.ณรงค์ ยังกล่าวต่อว่า โดยปกติในช่วงเวลาก่อนทำแผน เจ้าหน้าที่จะมีการประเมินสถานการณ์ก่อนทุกครั้ง หากมีกำลังของผู้ร่วมดูการทำแผนฯ เกิน 200 หรือ 300 คนก็จะมีการยกเลิกการทำแผนเพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องหา แต่ครั้งนี้ ช่วงเวลาที่ผู้ต้องหามาถึง และกำลังดำเนินการทำแผนนั้น พบว่า ตัวเลขของผู้มาร่วมก็เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มมีการเคลื่อนไหวจนยากที่จะควบคุม ดังนั้น ในครั้งต่อๆ ไปมีความจำเป็นที่จะต้องทบทวนวิธีการใหม่ไว้เพื่อรับมือ หรือหลีกเลี่ยงการปะทะ หากมีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก
กำลังโหลดความคิดเห็น