xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ภูเก็ตคุมผู้ต้องหาฆ่าสาว 17 แถลงข่าว ญาติฝ่าวงล้อมทั้งตบ-ทั้งถีบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.คุมตัวผู้ต้องหาฆ่าสาว 17 แถลงข่าว ญาติเห็นหน้าคนร้ายก่อเหตุทนไม่ไหว ฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปใช้รองเท้าตบหน้า/ถีบ ด่าคนร้าย “ชิงหมาเกิด”


เจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้ต้องหาฆ่าสาว 17 แถลงข่าว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (12 ก.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปะละวัน ผู้กำกับสอบสวนสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมชุดคลี่คลายคดี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายกิตติคุณ หรือเอก หรือแม็ค หรือกุ้ง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/22 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ถ.โกมารภัทร อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ และผู้ต้องหาคดีฆ่า น.ส.สุนิศา ไทรย้อย อายุ 17 ปี ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา
ญาติผู้เสียชีวิตที่ถูกผู้ต้องหาฆ่าทนไม่ไหวใช้เท้าถีบผู้ต้องหาอย่างจัง
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวนอนเสียชีวิตบนเตียงนอนภายในห้องนอน บ้านเลขที่ 40/27 หมู่บ้านชนกานต์ ซ.นากก ม.5 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ทราบว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.สุนิศา ไทรย้อย อายุ 17 ปี หรือน้องส้ม สภาพศพท่อนล่างเปลือย สวมเสื้อแขนกุดสีขาว มีรอยเลือดไหลออกมากมาจากอวัยวะเพศ และใกล้กับศพผู้ตาย พบเทียนไขเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1 นิ้ว ตกอยู่บริเวณข้างเตียงนอน จากการตรวจสอบภายในห้องพบร่องรอยการงัดหน้าต่างห้องนอน และร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินกระจัดกระจาย
ญาติฝ่าวงล้อมเข้าไปถีบผู้ต้องหา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ จนกระทั่งเมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายกิตติคุณ ได้ที่บริเวณ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในข้อหาก่อเหตุลักทรัพย์ของผู้อื่น หลังจากจับกุม เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวนขยายผล และตรวจค้นที่ห้องพักของผู้ต้องหา และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพบว่า รองเท้าที่นายกิตติคุณสวมใส่นั้นมีลายที่พื้นรองเท้าเหมือนกับรองรองเท้าของคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ ฆ่า และกระทำชำเราน.ส.สุนิศา จึงนำตัวมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม พร้อมแจ้งให้เจ้าของบ้านซึ่งเป็นน้าของผู้ตาย และบิดามาตรวจสอบทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้ ซึ่งทั้ง 2 ยืนยันทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาบางส่วนเป็นของบิดา และน้าสาวของผู้ตาย
ขออีกทีน้าสาวของผู้เสียชีวิตทนไม่ไหวแหวกวงล้มตำรวจเข้าไปใช้รองเท้าตกหัวผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าได้งัดเข้าไปในบ้านดังกล่าวและรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน จากนั้นได้งัดหน้าต่างเข้าไปในห้องนอนผู้ตาย พบผู้ตายอยู่ภายในห้อง และร้องเอะอะขอความช่วยเหลือ จึงได้วิ่งเข้าไปทำร้ายผู้ตายโดยการตบ และจับผู้ตายกดไว้กับที่นอนจนแน่นิ่งไป หลังจากนั้น จึงถอดกางเกง และถอดเสื้อผ้าผู้ตายออกหวังจะมีเพศสัมพันธ์ แต่ปรากฏว่า ไม่เกิดอารมณ์ จึงได้รื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระเลี่ยมทอง จากนั้นหลบหนีออกไป โดยขับขี่รถจักรยานยนต์สีแดงดำ ป้ายทะเบียน ขธจ 443 ภูเก็ต จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุม
ผู้ต้องหาชี้ของกลางทรัพย์สินที่นำมาจากบ้านผู้เสียชีวิต
พล.ต.ต.พิสัณห์ กล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนั้น หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ก็เร่งสืบสวนสอบสวนโดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนร้ายที่เคยก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ และการจับกุมในครั้งนี้ก็เนื่องจากไหวพริบของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สังเกตเห็นรอยรองเท้าของผู้ต้องหาเหมือนกับรอยรองเท้าของคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่า น.ส.สุนิศา จึงนำตัวมาสอบสวน และรับสารภาพว่าเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์จริง โดยทำเพียงคนเดียว

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการแถลงข่าว ทางญาติของผู้เสียชีวิต ทั้งพ่อ และน้าสาว รวมทั้งญาติพี่น้องได้เดินทางไปร่วมฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาเข้ามาภายในห้องแถลงข่าว ต่างก็ด่าทอผู้ต้องหา รวมทั้งถามว่าทำทำไม ฆ่าได้แม้กระทั่งเด็ก ชิงหมาเกิด ชั่วโดยสันดาน บางคนถึงกับทนไม่ไหว แหวกวงล้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตบหน้า กระโดดถีบผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้น นอกจากนั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาเดินทางกลับ น้าสาวของผู้เสียชีวิตได้ใช้รองเท้าเข้าไปตบผู้ต้องหาอีกหลายครั้งแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันตัวออกมา
ญาติของผู้เสียชีวิตร้องให้ด้วยความเสียใจและพยายามที่จะเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหา
นายคะนึง ไทรย้อย อายุ 62 ปี บิดาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ทุกวันตนจะออกไปขายผลไม้ และจะพาลูกสาวไปด้วย แต่วันเกิดเหตุลูกสาวอยู่บ้านคนเดียวเพราะไม่สบาย เนื่องจากมีโรคประจำตัวน้ำในสมองไม่เท่ากัน จึงให้ลูกนอนพักกลับมาตอนเย็นก็ทราบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งน้องส้มลูกสาวคนสุดท้อง ตนมีลูก 2 คน อีกคนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราภัฎเพชรบูรณ์ปี 4 ทุกคนไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับครอบครัวตน

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว ส่วนศพของน้องส้มนั้น กำหนดฌาปนกิจในวันที่ 14 ก.ค. นี้ ที่วัดลัฐิวนาราม หรือวัดใต้ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีการเปลี่ยนแปลงเพราะได้รับแจ้งจากทางตำรวจว่าจะมีการนำศพไปตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม
กำลังโหลดความคิดเห็น