แม่รับศพ “น้องเบิร์ด” ทั้งน้ำตา-ตร.ยันถูกฆาตกรรม

สุดอาลัยรับศพ “น้องเบิร์ด” จากสถาบันนิติเวช แม่เผยทั้งน้ำตา ลูกชายกำพร้าพ่อตั้งแต่อายุ 1 ขวบเศษ วอนตำรวจเร่งจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ด้าน รองผบช.น.ยัน “น้องเบิร์ด” ถูกคนร้ายฆาตกรรมอำพราง ส่วนสาเหตุคาดน่าจะมาจากการทะเลาะกัน  
     
วันนี้ (14 ก.ค.) ที่ สถาบันนิติเวช รพ.จุฬาฯ เมื่อเวลา 14.30 น.น.ส.วราภรณ์ คำแสน อายุ 38 ปี มารดาเด็กชายอรรถสิทธิ์  ลีเลิศยุทธ์ หรือ น้องเบิร์ด อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1/11 โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ที่ถูกคนร้ายฆ่าตาย พร้อมด้วย นางสมจิตร จำปาดี อายุ 55 ปี ผู้เป็นยาย และ นางนิด จำปาดี อายุ 50 ปี น้องสาวยาย เดินทางมารับศพน้องเบิร์ด พร้อมทั้งหลั่งน้ำตาอาลัยด้วยความโศกเศร้า

โดย น.ส.วราภรณ์ กล่าวว่า แพทย์นิติเวช ระบุสาเหตุการตายของลูกชาย ว่า สมองบวมฟกช้ำบาดเจ็บอย่างรุนแรง หลังจากนี้ จะนำศพลูกชายไปบำเพ็ญกุศลที่วัดต้นไทรย์ ซอยอ่อนนุช 29 เป็นเวลา 1 คืน จากนั้นจะทำพิธีฌาปนกิจในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) ส่วนความคืบหน้าของคดี ขณะนี้ตนไม่ได้สงสัยใคร เนื่องจากได้พูดคุยกับคู่กรณีที่ชกต่อยกับลูกชายแล้ว คาดว่า ไม่น่าเกี่ยวข้อง เด็กชกต่อยกัน เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่เดินชนและผลักกันตกบันไดที่โรงเรียนเท่านั้น
     
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจได้แจ้งความคืบหน้าด้านผลการสืบสวนสอบสวนให้ฟังหรือไม่ น.ส.วราภรณ์ ตอบว่า ตำรวจยังไม่ได้บอกข้อมูลอะไร แต่จะนัดหมายให้ตนไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งยังไม่ได้ระบุวันเวลาว่าจะต้องเดินทางไปที่โรงพักเมื่อไหร่ ตนมีลูกชายเพียงคนเดียว หนำซ้ำ น้องเบิร์ด ยังมีปมด้อยขาดความอบอุ่นต้องกำพร้าพ่อที่เสียชีวิตไปตั้งแต่อายุ 1 ขวบเศษ ดังนั้น ตนไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากอยากให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ และอยากขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงที่ช่วยติดตามข่าวสาร

วันเดียวกัน ที่ สน.พระโขนง  พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์  รองผบช.น.เรียกประชุมเจ้าหน้าที่สืบสวนเพื่อติดตามคดี พบศพ เด็กชาย อรรถสิทธิ์  ลีเลิศยุทธ์  หรือน้องเบิร์ด อายุ 13 ปี  โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

พล.ต.ต.พิสิฏฐ์  กล่าวภายหลังจากการประชุม ว่า ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง อยู่ระหว่างการติดตามตัวหาคนร้ายเพราะจากการตรวจพิสูจน์บาดแผลสันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะถูกฆาตกรรมอำพราง เพราะก่อนที่ผู้ตายจะออกจากห้องพักได้ใส่รองแตะมาด้วย แต่ที่พบศพไม่พบรองเท้าดังกล่าว และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านล่างอาคาร ก็พอจะมีความคืบหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบความชัดเจนว่าคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุนั้นเป็นคนนอกหรือไม่  หากเป็นคนในก็จะตรวจสอบผู้ที่พักอาศัยจำนวน 180 ห้อง แต่คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ส่วนสาเหตุวิเคราะห์ดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องการทะเลาะกัน