ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจฉลองคุมผู้ต้องหาคดีฆ่า กระทำชำเราหญิงสาว วัย 17 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางญาติ ประชาชนบุกเข้ารุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่ผู้กำกับ จนถึงชุดสืบสวนโดนทั่วหน้า ดาบตำรวจคุมตัวผู้ต้องหานิ้วมือหัก
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 ก.ค.) พ.ต.อ.สิริศักดิ์ วาสะศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบ เช้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัย(ชรบ.) หมู่บ้าน กว่า 60 นาย คุมตัวนายกิตติคุณ วงศ์หาจักร อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่า และกระทำชำเรา น.ส.สุนิศา ไทรย้อย อายุ 17 เสียชีวิตคาห้องนอน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 40 /27 หมู่บ้านชนกานต์ เชิงเขา ซอยนากก ม.5 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยที่บ้านที่เกิดเหตุ มีประชาชนในพื้นที่ และญาติของผู้เสียชีวิตประมาณ 300 กว่าคน เดินทางมารอเพื่อดูคนร้ายที่เดินทางมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทันทีที่ผู้ต้องหาซึ่งนั่งมาในรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีรถตำรวจ นปพ.วิ่งนำเข้ามายังบ้านที่เกิดเหตุ ประชาชนที่มารอดูต่างกรูกันเข้ามาที่ผู้ต้องหาเพื่อรุมทำร้าย พร้อมกันตะโกนด่าตลอดเวลา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเข้าไปในบ้านหลังที่เกิดเหตุทันที พร้อมกับกันประชาชนที่พยายามจะเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหาออกไป
เมื่อผู้ต้องหาเข้าไปอยู่ภายในบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้ขอความร่วมมือญาติผู้ตาย และชาวบ้านให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย เพื่อให้การทำแผนดำเนินต่อไปได้ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการนำผู้ต้องหาทำแผนแต่ละขั้นตอน ที่ผู้ต้องหาเข้าไปก่อเหตุฆ่า และกระทำชำเราผู้ตาย รวมถึงรื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในบ้านก่อนหลบหนีไป
หลังการทำแผนจบลง เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบได้รีบนำตัวผู้ต้องหาออกมาจากบ้านเพื่อขึ้นรถยนต์กระบะ ซึ่งจอดรออยู่ภายในรั้วบริเวณหน้าบ้าน แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นรถ ฝูงชนที่รออยู่ภายในบริเวณบ้าน และที่อยู่นอกรั้วบ้านทั้งหญิง ชายได้ปีนรั้วบ้านกรูกันเข้ามารุมชกต่อยผู้ต้องหาจำนวนมาก จนทำให้บานประตูกระจกของบ้านหลังที่เกิดเหตุพังลงมาทั้งบาน
จากสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น มีประชาชนจำนวนมากที่พยายามจะเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องรีบพาผู้ต้องหาฝ่าวงล้อมกลับเข้าไปภายในบ้านอีกครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้กันฝูงชนทั้งหมดออกไปจากบริเวณบ้าน ขณะที่ผู้ต้องหาอยู่ในอาการตื่นตกใจอย่างมาก จากนั้นประมาณ 5 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พยายามนำตัวผู้ต้องหาออกมาจากบ้านเพื่อกลับขึ้นรถอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถพาผู้ต้องหาฝ่าวงล้อมฝูงชนออกจากพื้นที่เกิดเหตุทันที
สำหรับเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประชาชนเข้ารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหานั้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ รวมทั้งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง รองผู้กำกับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งสื่อมวลชนโดนลูกหลงทั้งหมัด และเท้ากันไปจำนวนมาก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน โดย ด.ต.บุญเลิศ เผือกผ่อง เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาเพื่อพาออกจากบ้านหลังที่เกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด นิ้วมือด้านขวาหัก 1 นิ้ว เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษา และเข้าเฝือกพร้อมให้กลับมารักษาต่อที่บ้านได้
พ.ต.อ.สิริศักดิ์ วาสะศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังไว้ก่อน ขณะที่ศพผู้ตายได้นำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ที่วัดลัฎฐิวนาราม หรือวัดใต้ ต.ฉลอง อ.เมือง ภูเก็ต และจะมีการฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) หลังจากนำศพกลับจากการส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงที่สถาบันติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนผลการชันสูตรนั้น ถ้าตามระเบียบจริงๆ แล้วเราต้องให้เวลาเขา 45 วัน แต่ก็จะพยายามเร่งขอความกรุณาเขาให้เร็วที่สุด
ขณะที่การดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ ทำให้ผู้ถูกชิงทรัพย์ถึงแก่ความตาย และข้อหากระทำชำเรา ซึ่งเป็นโทษถึงขั้นประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม นำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ ถึงแม้จะมีปัญหาอุปสรรค แต่ก็ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนครบถ้วน ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำแผนใหม่อีก
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 ก.ค.) พ.ต.อ.สิริศักดิ์ วาสะศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบ เช้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัย(ชรบ.) หมู่บ้าน กว่า 60 นาย คุมตัวนายกิตติคุณ วงศ์หาจักร อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่า และกระทำชำเรา น.ส.สุนิศา ไทรย้อย อายุ 17 เสียชีวิตคาห้องนอน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 40 /27 หมู่บ้านชนกานต์ เชิงเขา ซอยนากก ม.5 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยที่บ้านที่เกิดเหตุ มีประชาชนในพื้นที่ และญาติของผู้เสียชีวิตประมาณ 300 กว่าคน เดินทางมารอเพื่อดูคนร้ายที่เดินทางมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทันทีที่ผู้ต้องหาซึ่งนั่งมาในรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีรถตำรวจ นปพ.วิ่งนำเข้ามายังบ้านที่เกิดเหตุ ประชาชนที่มารอดูต่างกรูกันเข้ามาที่ผู้ต้องหาเพื่อรุมทำร้าย พร้อมกันตะโกนด่าตลอดเวลา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเข้าไปในบ้านหลังที่เกิดเหตุทันที พร้อมกับกันประชาชนที่พยายามจะเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหาออกไป
เมื่อผู้ต้องหาเข้าไปอยู่ภายในบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้ขอความร่วมมือญาติผู้ตาย และชาวบ้านให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย เพื่อให้การทำแผนดำเนินต่อไปได้ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการนำผู้ต้องหาทำแผนแต่ละขั้นตอน ที่ผู้ต้องหาเข้าไปก่อเหตุฆ่า และกระทำชำเราผู้ตาย รวมถึงรื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในบ้านก่อนหลบหนีไป
หลังการทำแผนจบลง เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบได้รีบนำตัวผู้ต้องหาออกมาจากบ้านเพื่อขึ้นรถยนต์กระบะ ซึ่งจอดรออยู่ภายในรั้วบริเวณหน้าบ้าน แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นรถ ฝูงชนที่รออยู่ภายในบริเวณบ้าน และที่อยู่นอกรั้วบ้านทั้งหญิง ชายได้ปีนรั้วบ้านกรูกันเข้ามารุมชกต่อยผู้ต้องหาจำนวนมาก จนทำให้บานประตูกระจกของบ้านหลังที่เกิดเหตุพังลงมาทั้งบาน
จากสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น มีประชาชนจำนวนมากที่พยายามจะเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องรีบพาผู้ต้องหาฝ่าวงล้อมกลับเข้าไปภายในบ้านอีกครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้กันฝูงชนทั้งหมดออกไปจากบริเวณบ้าน ขณะที่ผู้ต้องหาอยู่ในอาการตื่นตกใจอย่างมาก จากนั้นประมาณ 5 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พยายามนำตัวผู้ต้องหาออกมาจากบ้านเพื่อกลับขึ้นรถอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถพาผู้ต้องหาฝ่าวงล้อมฝูงชนออกจากพื้นที่เกิดเหตุทันที
สำหรับเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประชาชนเข้ารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหานั้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ รวมทั้งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง รองผู้กำกับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งสื่อมวลชนโดนลูกหลงทั้งหมัด และเท้ากันไปจำนวนมาก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน โดย ด.ต.บุญเลิศ เผือกผ่อง เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาเพื่อพาออกจากบ้านหลังที่เกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด นิ้วมือด้านขวาหัก 1 นิ้ว เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษา และเข้าเฝือกพร้อมให้กลับมารักษาต่อที่บ้านได้
พ.ต.อ.สิริศักดิ์ วาสะศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังไว้ก่อน ขณะที่ศพผู้ตายได้นำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ที่วัดลัฎฐิวนาราม หรือวัดใต้ ต.ฉลอง อ.เมือง ภูเก็ต และจะมีการฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) หลังจากนำศพกลับจากการส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงที่สถาบันติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนผลการชันสูตรนั้น ถ้าตามระเบียบจริงๆ แล้วเราต้องให้เวลาเขา 45 วัน แต่ก็จะพยายามเร่งขอความกรุณาเขาให้เร็วที่สุด
ขณะที่การดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ ทำให้ผู้ถูกชิงทรัพย์ถึงแก่ความตาย และข้อหากระทำชำเรา ซึ่งเป็นโทษถึงขั้นประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม นำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ ถึงแม้จะมีปัญหาอุปสรรค แต่ก็ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนครบถ้วน ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำแผนใหม่อีก