สืบคลองตันรวบแท็กซี่หื่นกามข่มขืนผู้โดยหญิงภายในซอยพัฒนาการ 32 ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยว โดยทำทีหลอกเหยื่อว่าพาไปทางลัด ก่อนลงบังคับข่มขืนบริเวณกลางซอยแล้วหลบหนีไป ตำรวจตามรวบทันควันที่บ้านพักของพ่อคนร้าย ตรวจสอบพบเคยติดคุกคดีอนาจารชาวต่างชาติเพิ่งพ้นโทษเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่กลับมาก่อเหตุภายในซอยดังกล่าวอีก
วานนี้ (28 พ.ค.) ที่ สน.คลองตัน เมื่อเวลา 23.30 น. พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.คลองตัน พร้อมด้วย พ.ต.ท.อภิชาติ ทองจันดี พ.ต.ต.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ สว.สส.สน.คลองตัน ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายนภดล หรือเค ตะบ้านไร่ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 2 ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหากระทำชำเราผู้หญิง พร้อมรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง-ฟ้า หมายเลขทะเบียน ทน 5547 กทม. โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณกลางซอยอ่อนนุช 17 แยก 20 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.
พ.ต.อ.สิทธิภาพเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.คลองตัน ได้รับแจ้งเหตุมีแท็กซี่หลอกลวงผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 26 ปี ไปข่มขืนกระทำชำเราภายในซอยพัฒนาการ 32 แขวงและเขตสวนหลวง โดยผู้เสียหายสามารถจดจำลักษณะของรถแท็กซี่คันเกิดเหตุได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ออกสืบสวนหาข้อมูลและติดตาม จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายนภดล จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไปดักซุ่มบริเวณที่จับกุมตัวได้ในละแวกบ้านพักของบิดานายนภดล
พ.ต.อ.สิทธิภาพกล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยติดคุกที่เรือนจำ จ.พิษณุโลก ข้อหากระทำอนาจารหญิงสาวชาวฟิลิปปินส์ ตั้งแต่ปี 2550 และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อ ช่วงต้นปี 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ลงมือก่อเหตุภายในซอยพัฒนาการ 32 เช่นเดียวกัน ส่วนผู้เสียหายได้ส่งไปตรวจและรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจก่อนหน้านี้แล้ว
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ได้รับผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้หญิง บริเวณหน้าอาคารพัฒนาการไลท์คอมเพล็กซ์ ซอยพัฒนาการ 25 และจะไปส่งที่ โรงแรมคิงปาร์ค ย่านศรีนครินทร์ แต่ระหว่างทางที่จะไปส่งการจราจรติดขัด เลยบอกกับผู้โดยสารว่าจะหาไปทางลัด แล้วได้ขับเข้าไปยังปลายซอยพัฒนาการ 32 ซึ่งซอยดังกล่าวจะเป็นซอยเปลี่ยว ขณะนั้นรู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาจึงได้ใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขืนกระทำชำเราผู้โดยสารจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง บริเวณเบาะด้านหลังของรถแท็กซี่ ต่อมาได้ปล่อยให้ผู้โดยสารลงจากรถบริเวณกลางซอยพัฒนาการ 32 และได้ขับรถแท็กซี่หลบหนีไปจนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป