ตรัง - จังหวัดตรัง และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน หารือแก้ปัญหาการจราจรติดขัดหน้าสถานศึกษา เนื่องจากมีตำรวจน้อย แต่มีผู้ใช้ถนน และจำนวนรถมากขึ้น เร่งกำหนดเส้นทางหลัก พร้อมทำป้ายจราจรให้ชัดเจนขึ้น
นายไชยยศ ธงไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สภ.เมืองตรัง เทศบาลนครตรัง และโรงเรียนเอกชน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาการจราจรหน้าสถานศึกษา เนื่องจากประสบปัญหาติดขัดอย่างยิ่ง ใน 2 ช่วงเวลาเร่งด่วน คือ เวลา 07.00-08.00 น. และเวลา 15.30-17.30 น.
โดยมีสาเหตุมาจากการที่ผู้ปกครองมาจอดรถรับ-ส่งนักเรียน นักศึกษาบนถนน ประกอบกับสถานศึกษาต่างๆ เหล่านั้น ไม่มีสถานที่จอดรถให้แก่ผู้ปกครอง จึงทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการจัดระบบการจราจรในตัวเมืองตรังด้วย
พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ สุวรรณมาศ สารวัตรจราจร สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า ปัจจุบัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร จำนวนกว่า 20 คนเท่านั้น แต่ต้องรับภาระในการดูแลความปลอดภัยด้านการจราจรให้แก่ประชาชนในเขตอำเภอเมืองตรังทั้งหมดกว่า 10,000 คน ขณะที่ปริมาณรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ก็มีเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ถนนยังมีเท่าเดิม และปัญหาการจราจรที่ติดขัดบริเวณหน้าสถานศึกษาส่วนใหญ่นั้น เกิดมาจากการที่ผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร และการไม่มีเครื่องหมายจราจรที่ชัดเจน
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาก็คือ การจัดทำเครื่องหมายจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษาให้ชัดเจนมากขึ้น มีการกำหนดเขตห้ามจอด ทั้งช่วงเช้า และช่วงเย็น ซึ่งเป็นชั่วโมงเร่งด่วน ให้ออกห่างจากประตูหน้าสถานศึกษา ในระยะ 100-200 เมตร ทั้งซ้าย และขวา มีการขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของบริเวณหน้าสถานศึกษาให้ย้ายไปยังสถานที่ใหม่ที่ได้จัดเตรียมไว้รองรับแล้ว
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือผู้ปกครอง อย่าให้บุตรหลานซื้อของจากพ่อค้าแม่ค้าบริเวณหน้าสถานศึกษา และมีการขอความร่วมมือเจ้าของบ้านซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสถานศึกษา ห้ามนำรถมาจอดในบริเวณใกล้เคียงในช่วงเวลาเร่งด่วน
นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง กล่าวว่า เทศบาลนครตรัง ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันระดมความคิดเห็นในการจัดทำป้ายบอกทางจราจร เช่น แขวงการทาง ทางหลวงชนบท การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเส้นทางในเขตเทศบาลที่ไม่ชัดเจน จนทำให้ผู้ที่เดินทางมาหลงทาง และเสียเวลา
ทั้งนี้ ได้ร่วมกันกำหนดเส้นทางหลัก จำนวน 2 แนว โดยยึดโครงข่ายถนนของกรมทางหลวง คือ จากทิศเหนือสู่ทิศใต้ และจากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก พร้อมกำหนดสีของป้ายให้ชัดเจนเพื่อให้เข้าใจง่าย และรื้อถอนป้ายที่ไม่จำเป็นออก รวมทั้งเสนอจัดทำป้ายแนะนำแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมด้วย
นายไชยยศ ธงไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สภ.เมืองตรัง เทศบาลนครตรัง และโรงเรียนเอกชน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาการจราจรหน้าสถานศึกษา เนื่องจากประสบปัญหาติดขัดอย่างยิ่ง ใน 2 ช่วงเวลาเร่งด่วน คือ เวลา 07.00-08.00 น. และเวลา 15.30-17.30 น.
โดยมีสาเหตุมาจากการที่ผู้ปกครองมาจอดรถรับ-ส่งนักเรียน นักศึกษาบนถนน ประกอบกับสถานศึกษาต่างๆ เหล่านั้น ไม่มีสถานที่จอดรถให้แก่ผู้ปกครอง จึงทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการจัดระบบการจราจรในตัวเมืองตรังด้วย
พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ สุวรรณมาศ สารวัตรจราจร สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า ปัจจุบัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร จำนวนกว่า 20 คนเท่านั้น แต่ต้องรับภาระในการดูแลความปลอดภัยด้านการจราจรให้แก่ประชาชนในเขตอำเภอเมืองตรังทั้งหมดกว่า 10,000 คน ขณะที่ปริมาณรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ก็มีเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ถนนยังมีเท่าเดิม และปัญหาการจราจรที่ติดขัดบริเวณหน้าสถานศึกษาส่วนใหญ่นั้น เกิดมาจากการที่ผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร และการไม่มีเครื่องหมายจราจรที่ชัดเจน
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาก็คือ การจัดทำเครื่องหมายจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษาให้ชัดเจนมากขึ้น มีการกำหนดเขตห้ามจอด ทั้งช่วงเช้า และช่วงเย็น ซึ่งเป็นชั่วโมงเร่งด่วน ให้ออกห่างจากประตูหน้าสถานศึกษา ในระยะ 100-200 เมตร ทั้งซ้าย และขวา มีการขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของบริเวณหน้าสถานศึกษาให้ย้ายไปยังสถานที่ใหม่ที่ได้จัดเตรียมไว้รองรับแล้ว
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือผู้ปกครอง อย่าให้บุตรหลานซื้อของจากพ่อค้าแม่ค้าบริเวณหน้าสถานศึกษา และมีการขอความร่วมมือเจ้าของบ้านซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสถานศึกษา ห้ามนำรถมาจอดในบริเวณใกล้เคียงในช่วงเวลาเร่งด่วน
นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง กล่าวว่า เทศบาลนครตรัง ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันระดมความคิดเห็นในการจัดทำป้ายบอกทางจราจร เช่น แขวงการทาง ทางหลวงชนบท การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเส้นทางในเขตเทศบาลที่ไม่ชัดเจน จนทำให้ผู้ที่เดินทางมาหลงทาง และเสียเวลา
ทั้งนี้ ได้ร่วมกันกำหนดเส้นทางหลัก จำนวน 2 แนว โดยยึดโครงข่ายถนนของกรมทางหลวง คือ จากทิศเหนือสู่ทิศใต้ และจากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก พร้อมกำหนดสีของป้ายให้ชัดเจนเพื่อให้เข้าใจง่าย และรื้อถอนป้ายที่ไม่จำเป็นออก รวมทั้งเสนอจัดทำป้ายแนะนำแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมด้วย
