xs
xsm
sm
md
lg

“นครบาล” แนะหลีกเลี่ยงจราจรงานพระราชพิธี-งานกาชาด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ
โฆษกนครบาล แจ้งปิดการจราจรซ้อมริ้วขบวนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ สิริโสภาพัณณวดี วันที่ 25 มี.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 00.01-13.00 น.รอบบริเวณท้องสนามหลวง ส่วนในวันซ้อมใหญ่วันที่ 31 มี.ค.จะมีการปิดถนน 16 เส้น ขณะที่งานกาชาดที่จะเริ่มวันที่ 30 มี.ค.จะปิดการจราจร 2 ช่วงเวลา คือ วันราชการจะปิด เวลา 14.00-23.00 น.ของทุกวัน และวันหยุดราชการ จะปิดเวลา 10.00-23.00 น.มีเพียงวันสุดท้ายปิดเวลา 24.00 น.

วันนี้ (13 มี.ค.) เวลา 11.00 น.ที่ห้องประชุม อก.กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.ปรีดา สถาวร โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวการปิดการจราจรการซ้อมริ้วขบวนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ สิริโสภาพัณณวดี วันที่ 25 มี.ค.2555 ตั้งแต่เวลา 00.01-13.00 น.และแผนการปิดการจราจรในงานกาชาด ประจำปี พ.ศ.2555 ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-7 เม.ย.2555

พ.ต.อ.ปรีดา กล่าวว่า เรื่องแรกจะเป็นการจัดการจราจรซ้อมริ้วขบวนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเจพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ สิริโสภาพัณณวดี โดยทางรัฐบาลจะมีการจัดงาน เริ่มตั้งแต่ 8 เมษายน จนถึงวันที่ 12 เมษายน 2555 มีการกำหนดให้ซ้อมที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 11 มี.ค.แล้ว ซึ่งจะมีการซ้อมอีกครั้งวันที่ 25 มี.ค.จะปิดการจราจรตั้งแต่ เวลา 00.01-13.00 น.โดยรอบบริเวณท้องสนามหลวง และจะมีการซ้อมใหญ่อีกครั้งวันที่ 31 มี.ค.55 นี้ ในวันซ้อมจะมีการปิดถนน จำนวน 16 เส้นทาง ดังนี้ 1.ถนนราชดำเนิน 2.ถนนราชินี 3.ถนนหน้าพระธาตุ 4.ถนนพระจันทร์ 5.ถนนมหาราช 6.ถนนหน้าพระลาน 7.ถนนหน้าหับเผย 8.ถนนหลักเมือง 9.ถนนสนามไชย 10.ถนนกัลป์ญาณไมตรี 11.ถนนสราญรมย์ 12.ถนนท้ายวัง 13.ถนนพระพิพิธ 14.ถนนเจริญกรุง (ถ.สนามไชย-ถ.อัษฎางค์) 15.ถนนเชตุพน 16.ซอยเศรษฐการ ซึ่งพื้นที่ที่ใช้ประกอบพระราชพิธีจะเป็นภายในบริเวณพระบรมมหาราชวัง และบริเวณท้องสนามหลวง ถนนที่ปิดทั้งหมดจะเรียกว่า เกาะรัตนโกสินทร์ โดยฝั่งขวาหรือทิศตะวันออกจะปิดถนนราชินีเป็นหลัก ส่วนทิศตะวันตกจะปิดถนนมหาราช ทางด้านทิศใต้จะปิดไปถึง สน.พระราชวัง และด้านทิศเหนือจะปิดถนนราชดำเนินใน จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนหลีกเลี่ยงการจราจรในเส้นทางดังกล่าว และอยากฝากไปถึงบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่อยากจะเข้ามาชมพระบรมมหาราชวัง ยังสามารถเดินทางเข้ามาได้ตามปกติ แต่การจราจรจะปิดในช่วงดังกล่าว ถ้าต้องการความสะดวกให้เดินทางมาเที่ยวชมหลังจากเวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ถ้าหากต้องการมาในช่วงเช้าจะต้องลงรถบริเวณรอบนอกแล้วเดินเท้าเข้ามา พอเวลามีการซ้อมริ้วขบวนจะไม่สามารถผ่านได้ต้องเดินอ้อม ส่วนวันที่ 31 มี.ค.เป็นวันซ้อมใหญ่ จะปิดการจราจรเช่นเดียวกัน แต่วันงานพระราชพิธีจริง จะมีการปิดการจราจรเพิ่มเติมอีก ซึ่งเมื่อใกล้ถึงวันซ้อมใหญ่จะมีการแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง

พ.ต.อ.ปรีดา กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่สอง คือ เรื่องปิดการจราจรงานกาชาด ประจำปี พ.ศ.2555 ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-7 เม.ย.2555 รวมทั้งสิ้น 9 วัน บริเวณสวนอัมพร พระราชวังดุสิต จะมีการปิดการจราจร 2 ช่วงเวลา คือ วันราชการจะปิดการจราจร เวลา 14.00-23.00 น.ของทุกวัน และวันหยุดราชการ จะปิดเวลา 10.00-23.00 น.มีเพียงวันสุดท้ายเท่านั้นที่จะปิดเวลา 24.00 น.สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย จะมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่แรก ภายในสวนอัมพรทั้งหมด และถนนศรีอยุธยา จากแยกพล 1 ถึงแยกพระรูปฯ พื้นที่ที่ 2 ลานพระราชวังดุสิตทั้งหมด พื้นที่ที่ 3 ภายในสนามเสือป่าทั้งหมด และถนนศรีอยุธยา จากแยกวัดเบญจฯ ถึงแยกพระรูปทรงม้า และพื้นที่สุดท้าย ถนนราชดำเนินนอก จากแยกมิสกวัน ถึงแยกพระรูปฯ ซึ่งพื้นที่ต่างๆ จะมีการตั้งกองอำนวยการร่วม ตั้งกองรักษาการณ์ส่วนแยก มีการตั้งจุดตรวจค้นโดยบริเวณรอบเพื่อป้องกันการเกิดเหตุระเบิดต่างๆ ส่วนการวางกำลังกองอำนวยการร่วมจะเป็นผู้ควบคุมพื้นที่ทั้งหมด โดยมอบหมายให้กองรักษาการณ์ส่วนแยกควบคุมพื้นที่ดังต่อไปนี้ ส่วนแยกที่ 1.รับผิดชอบพื้นที่ 1 ส่วนแยกที่ 2 รับผิดชอบพื้นที่ 2 ส่วนแยกที่ 3 รับผิดชอบพื้นที่ 3 ส่วนแยกที่ 4 รับผิดชอบพื้นที่ 4 ซึ่งพื้นที่ที่ 1 ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 400 นาย ประกอบกับกำลังรักษาความปลอดภัยแต่ละพื้นที่ ปจ.บก.น.1 (1 หมวด) รับผิดชอบพื้นที่ 1 ปจ.บก.2-9 (1 กองร้อย) รับผิดชอบพื้นที่ 2-4 พื้นที่ละ 1 หมวด และ ปจ.ตปพ.100 นาย ทำหน้าที่ รปภ.ป้องกันเหตุร้านค้าประจำ กอ.ร่วม และสนับสนุนการปฎิบัติฯ

พ.ต.อ.ปรีดา กล่าวอีกว่า สำหรับด้านการจราจร จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคอยให้ข้อมูลเรื่องการจอดรถและประชาสัมพันธ์ให้ใช้รถของขนส่งมวลชนเพื่อความสะดวก นอกจากนี้ ยังมีรถยกจำนวน 4 คัน ประจำแยกต่างๆ ดังนี้ แยกอู่ทองใน แยกพล 1 แยกสวนมิสกวัน และแยกวัดเบญจฯ ส่วนพื้นที่ปลอดภัยในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน ได้มีการจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ในแผนการรักษาความปลอดภัย สำหรับด้านโรงพยาบาลบริเวณใกล้เคียงหากเกิดเหตุฉุกเฉินมีผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ โรงพยาบาลวชิระ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลพระมงกุฎ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การรักษาความปลอดภัยหลังจากเกิดเหตุระเบิดที่ผ่านมานั้น รวมถึงการป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพด้วย พ.ต.อ.ปรีดา กล่าวว่า ส่วนของพื้นที่ที่เคยเกิดเหตุลักทรัพย์และล้วงกระเป๋ามีการทำสถิติไว้แล้วว่ามีจุดใดบ้าง เพื่อขึ้นบัญชีกลุ่มต้องสงสัยเอาไว้แล้ว ทั้งยังได้ประสานงานทางการข่าวร่วมกับทหาร เพื่อมีการตั้งด่านตรวจร่วมระหว่างทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ และพลเรือน มีแผนรองรับเอาไว้แล้วจึงไม่น่าเป็นห่วง
กำลังโหลดความคิดเห็น