ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรชาวจะนะประสบความสำเร็จกับอาชีพใหม่ โดยการปลูกหญ้าหวายข้อสำหรับเลี้ยงวัวชน ชี้ลงแรงครั้งเดียว แต่สามารถตัดขายได้ชั่วชีวิต และมีกำไรหลักแสนต่อเดือน
การปลูกหญ้าหวายข้อสำหรับเลี้ยงวัวชน เป็นอาชีพใหม่ที่น่าสนใจ เนื่องจากทำง่าย และมีรายได้ดี ที่สำคัญ ปลูกครั้งเดียวสามารถตัดขายได้ตลอดชีวิต และยึดเป็นอาชีพหลัก และอาชีพเสริมสำหรับผู้ที่ต้องการหาลู่ทางสร้างรายได้
โดยตัวอย่างของผู้ที่ปลูกหญ้าหวายข้อจนประสบความสำเร็จ คือ นายจีรพัทธิ์ ภาวิไล อายุ 33 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 บ้านขุนทอง ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งมีรายได้จากการปลูกหญ้าหวายข้อขายให้แก่ซุ้มวัวชน ทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียงในเนื้อที่ 20 ไร่ มีกำไรเดือนละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท
นายจีรพัทธิ์ บอกว่า หันมาปลูกหญ้าหวายมา 3 ปีแล้ว โดยใช้พื้นที่ในสวนยางพาราอ่อน 20 ไร่แบ่งเป็นร่องขนาดความกว้าง 4 เมตร ยาว 40 เมตร จำนวน 100 ร่อง ซึ่งการปลูกไม่ยุ่งยากเริ่มจากการเตรียมแปลงกำจัดวัชพืชต่างๆ ออกให้หมด จากนั้น จึงนำพันธุ์หญ้าหวายข้อที่สับเป็นท่อนประมาณ 1 คืบ มาโปรยลงในแปลง ช่วง 15 วันแรกรดน้ำให้ชุ่ม วันละ 4 ครั้ง หลังจากนั้น ลดเหลือวันละครั้งในช่วงเย็น ใช้เวลาราว 3 เดือนจึงตัดขายได้
โดยเคล็ดลับสำคัญที่จะทำให้ได้หญ้าข้อหวายที่มีคุณภาพทั่วทั้งแปลง คือ ช่วงที่หญ้าหวายข้อแตกกอรุ่นแรกหลังปลูกราว 1 เดือน ให้ตัดทิ้ง และโรยปุ๋ยขี้ไก่แกลบให้ทั่วแปลง ให้น้ำสม่ำเสมอ รอให้แตกกอในรุ่นที่ 2 ซึ่งใช้เวลาอีกประมาณ 15 วัน จึงเริ่มลงมือตัดขายได้ แต่จะให้ผลผลิตเต็มที่ทั่วทั้งแปลงในรุ่นที่ 3 หลังปลูก 3 เดือน จากนั้นก็จะหมุนเวียนตัดขายได้ต่อเนื่อง
นายจีรพัทธิ์ บอกว่า ข้อดีของการปลูกหญ้าหวายข้อคือ ลงแรงเพียงแค่ครั้งเดียวสามารถตัดขายได้ต่อเนื่องตลอดชีวิต เพราะหญ้าหวายข้อจะเหมือนกับหญ้าทั่วไปที่เมื่อตัดแล้วจะงอกขึ้นมาใหม่ภายเวลา 18 วัน แต่ต้องคอยปรับสภาพดินให้ดี โดยใช้ขี้เถ้า รวมทั้งใส่ปุ๋ย และให้น้ำต่อเนื่องเพื่อบำรุงดิน และทำให้หญ้าโตเร็ว สำหรับหญ้าหวายข้อที่ตนปลูกทั้ง 20 ไร่นั้น จะแบ่งเป็น 100 ไร่ ขายล็อกละ 1,500 บาท และบรรดาซุ้มวัวชนแต่ละแห่งจะส่งคนมาตัดเอง ซึ่งการปลูกหญ้าหวายข้อเป็นพืชเศรษฐกิจทำเงินอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ โดยตนจะมีกำไรจากการขายหญ้าแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ซึ่งผู้ที่สนใจก็สามารถนำไปทำเป็นอาชีพหลัก หรืออาชีพเสริมได้อย่างสบาย ซึ่งรายได้จะขึ้นอยู่กับว่าใช้พื้นที่ปลูกมากน้อยแค่ไหน แต่ตลาดยังเปิดกว้าง โดยเฉพาะในซุ้มของวัวชนซึ่งมีทั่วทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้