xs
xsm
sm
md
lg

ชาวจะนะ หันเลี้ยงจระเข้พันธุ์ไทยน้ำจืด สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เริ่มหันมาเลี้ยงจระเข้พันธุ์ไทยน้ำจืดเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ มีตลาดรองรับแน่นอน และสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำในระยะเวลาเพียง 2 ปี

วันนี้ (2 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จระเข้เป็นสัตว์เศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่กำลังมีผู้สนใจเลี้ยงกันมากขึ้น เพื่อเป็นอาชีพหลัก และอาชีพเสริม โดยเฉพาะในกลุ่มของชาวบ้าน และเกษตรกรรายย่อย ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ อย่างเช่น นายวัชรพงษ์ โพธิ อายุ 25 ปี และนายนัฐวุฒิ พรหมจิตร์ อายุ 26 ปี 2 หนุ่มแห่งบ้านประจ่า ม.6 ต.นาหว้า อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งได้ทดลองเลี้ยงจระเข้พันธุ์ไทยน้ำจืดจำนวน 60 ตัว โดยวิธีเลี้ยงขุนแบบบ่อเดี่ยว โดยใช้เงินลงทุนทั้งการสร้างบ่อ และซื้อลูกจระเข้จำนวน 350,000 บาท โดยลูกจระเข้ซื้อมาจากฟาร์มใน จ.ชลบุรี ราคาตัวละ 2,500 บาท

โดยนายวัชรพงษ์ และนายนัฐวุฒิ บอกว่า หลังจากที่เลี้ยงมา 6 เดือน ปรากฏว่า เริ่มเห็นผล จระเข้เจริญเติบโตดี จากเดิมขนาด 80 ซม.-1 เมตร เพิ่มเป็น 1.20-1.30 เมตร โดยเทคนิคการเลี้ยงจะให้อาหารซึ่งเป็นไก่สดแช่แข็ง 5 วันต่อครั้ง ครั้งละ 10 กิโลกรัม เฉลี่ยทั้ง 60 ตัว ตามด้วยอาหารเสริม เพื่อให้จระเข้ได้สารอาหารเพิ่มมากขึ้น และเปลี่ยนถ่ายน้ำเดือนละ 1 ครั้ง นอกจากนั้น ต้องให้จระเข้อยู่ในความสงบที่สุด ห้ามรบกวน โดยเฉพาะเสียงดังจากยวดยานพาหนะ และบุคคลภายนอก เพราะจระเข้จะไม่กินอาหาร และจะต้องสร้างพื้นที่ให้จระเข้ขยับตัวได้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้หนังมีรอยตำหนิ ซึ่งข้อดีของจระเข้เลี้ยงขุนแบบบ่อเดี่ยวตัวเดียว คือ ทำให้จระเข้โตเร็วกว่าการเลี้ยงรวมกันในบ่อเดียวขนาดใหญ่

สำหรับบ่อเลี้ยงจะมีความกว้าง 120 เซนติเมตร ยาว 180 เซนติเมตร และสูง 150 เซนติเมตร โดยภายในบ่อจะมีพื้นที่ทั้งบก และน้ำอย่างละครึ่ง และต้องใช้วัสดุปิดทับด้านบน ปกติจะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 2 ปี จึงจะจับขายได้ โดยราคาจระเข้ขนาดมาตรฐานเกรดเอต้องมีรอบอกขนาด 55 เซนติเมตรขึ้นไป และความยาวลำตัวประมาณ 2 เมตร โดยราคาขายจะคิดตามขนาดรอบอก ซึ่งวัดจากเกล็ดลำตัวชั้นที่ 4 นับจากหัว โดยราคาอยู่ที่เซนติเมตรละ 120 บาท หรือตกตัวละ 10,000-12,000บาท แต่ต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพของหนังด้วย หากเกรดต่ำลงไปก็จะอยู่ที่ตัวละ 6,000-9,000 บาท

นายวัชรพงษ์ และนายนัฐวุฒิ ยังบอกอีกว่า การเลี้ยงจระเข้อาจจะมีต้นทุนในช่วงแรกที่ค่อนข้างสูง แต่ในระยะยาวแล้วเชื่อว่า จระเข้จะเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า และความเสี่ยงน้อย เนื่องจากมีตลาดรองรับแน่นอน เพราะเมื่อได้ขนาดทางฟาร์มจะรับซื้อกลับไปในราคาประกัน และหากในระยะเวลา 6 เดือน จระเข้ตาย ไม่โต หรือเป็นโรค ก็จะส่งตัวใหม่มาให้แทน ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องรับภาระ คือ การสร้างบ่อเลี้ยงจระเข้ อาหาร และการดูแลเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ พวกตนเริ่มก่อสร้างบ่อเลี้ยงเพิ่มเติมอีกเท่าตัว เพื่อเตรียมนำจระเข้ชุดใหม่มาเลี้ยงให้ทันในช่วงปีนี้
นายวัชรพงษ์ โพธิ
กำลังโหลดความคิดเห็น