ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทยพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ย้ำให้ดูแลความปลอดภัย บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด ระบุ เหตุการณ์ทำร้ายนักท่องเที่ยวออสเตรเลียขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ยืนยันภูเก็ตยังเป็นเมืองที่น่าอยู่ และน่าประทับใจ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับ นายเจมส์ โจเซฟ ไวส์ (H.E. Mr. James Joseph Wise) เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย และคณะ ซึ่งเดินทางเข้าพบเพื่อหารือถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย
โดยนายเจมส์ โจเซฟ ไวส์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย กล่าวภายหลังหารือร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ว่า อยากให้จังหวัดภูเก็ตเน้นในเรื่องของการดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะการเพิ่มแสงสว่างในจุดเสี่ยงต่างๆ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียในครั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะคนออสเตรเลียเท่านั้นที่รู้สึกเสียใจ แต่คนไทยก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน และรู้สึกพอใจกับการจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้จังหวัดภูเก็ตเพิ่มความเข้มในเรื่องของการตรวจสอบการพกพาอาวุธและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เวลาตั้งด่านตรวจอย่ายึดอาวุธที่มีการพกพาไปเพียงอย่างเดียว แต่ขอให้ดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลที่พกพาด้วย โดยเฉพาะในส่วนของตุ๊กตุ๊ก ที่พบว่ามีการพกอาวุธเยอะมาก ซึ่งจริงแล้วคนเหล่านี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพกพาอาวุธเลย
ส่วนเรื่องของความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวนั้น ต้องยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบบ้าง ซึ่งเป็นปกติของคนทั่วไป เพราะขณะนี้ มีสื่อต่างประเทศโดยเฉพาะในออสเตรเลียลงข่าวนี้มาก แต่อย่างไรก็ตาม ภูเก็ตยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าอยู่ และน่าประทับใจ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนว่ายังอยากมาภูเก็ตอีกหรือไม่ และคิดว่าภูเก็ตมีปัญหาทางด้านการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก อยากจะให้จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งเร็วๆ นี้ตนจะร่วมประชุมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะนำปัญหาเหล่านี้เข้าหารือด้วยเพื่อที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาต่อไป
ขณะที่ที่น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเดินมายังจังหวัดภูเก็ตของเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทยในครั้งนี้ เพื่อมามอบรางวัลการให้แก่โรงแรมชวารีสอร์ท หาดสุรินทร์ ที่ได้รับรางวัลสำหรับการพักผ่อนของครอบครัว แล้วก็มาสอบถามเรื่องที่นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียถูกคนร้ายชิงทรัพย์ และใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิตด้วย ซึ่งจากการหารือร่วมกัน ทางเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ได้แนะนำวิธีแก้ปัญหาของจังหวัดภูเก็ตในหลายเรื่องด้วยกัน เช่น เรื่องรถแท็กซี่ ก็ได้ให้คำแนะนำว่าควรจะมีแท็กซี่มิเตอร์ให้หมด ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกเอารัดเอาเปรียบได้
ขณะที่ปัญหาในเรื่องของเจ็ตสกี ซึ่งทางจังหวัดก็ได้แจ้งให้ทราบว่า จังหวัดภูเก็ตมีเจ็ตสกี จำนวน 286 ลำ ที่ลงทะเบียนไว้ และได้มีการทำประกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้รับคำแนะนำว่า ควรจะใช้การประกันให้เกิดประโยชน์ ถ้านักท่องเที่ยวทำเจ็ตสกีเสียหายก็ใช้ประกันให้เป็นผล และที่สำคัญ เจ้าของเจ็ตสกีทุกลำจะต้องทำประกันให้หมด เพื่อที่จะให้ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขของประกัน
น.ส.สมหมาย กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ท่านทูตยังได้ขอให้ทางจังหวัดเน้นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะตำรวจ ในการตั้งจุดสกัด การที่รถมอเตอร์ไซค์ หรือรถตุ๊กตุ๊กมีอาวุธ มีมีด เมื่อตรวจพบแล้ว ไม่ควรที่จะริบไปเฉยๆ แต่จะต้องจับรถ แล้วก็ยึดรถไว้ด้วย แล้วก็ดำเนินขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งถ้าดำเนินการในลักษณะอย่างนี้เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างจริงจัง เพราะถ้าเพียงแค่ริบอาวุธไว้แล้วก็ปล่อยตัวไปก็ไม่ได้อะไร
น.ส.สมหมาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในการแก้ไขปัญหาเรื่องของความปลอดภัย ทางท่านทูต จะไปผลักดันผ่านทางสถานทูตถึงรัฐบาลไทยในการสนับสนุนและแก้ไขปัญหานี้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องของการเพิ่มกำลังตำรวจที่จังหวัดภูเก็ต อย่างไรก็ตาม การเข้าพบครั้งนี้ทางท่านทูตยังได้ขอบคุณที่ทางตำรวจจับผู้ร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ และฆ่านักท่องเที่ยวออสเตรเลีย ได้ในเวลาอันรวดเร็ว แล้วก็ไม่อยากให้เกิดปัญหานี้อีก ขอให้ช่วยแก้ปัญหาโดยการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้น นอกจากนั้น เป็นที่น่ายินดีที่ทางเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ยังยืนยันว่า ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียยังอยากเดินทางมา
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับ นายเจมส์ โจเซฟ ไวส์ (H.E. Mr. James Joseph Wise) เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย และคณะ ซึ่งเดินทางเข้าพบเพื่อหารือถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย
โดยนายเจมส์ โจเซฟ ไวส์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย กล่าวภายหลังหารือร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ว่า อยากให้จังหวัดภูเก็ตเน้นในเรื่องของการดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะการเพิ่มแสงสว่างในจุดเสี่ยงต่างๆ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียในครั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะคนออสเตรเลียเท่านั้นที่รู้สึกเสียใจ แต่คนไทยก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน และรู้สึกพอใจกับการจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้จังหวัดภูเก็ตเพิ่มความเข้มในเรื่องของการตรวจสอบการพกพาอาวุธและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เวลาตั้งด่านตรวจอย่ายึดอาวุธที่มีการพกพาไปเพียงอย่างเดียว แต่ขอให้ดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลที่พกพาด้วย โดยเฉพาะในส่วนของตุ๊กตุ๊ก ที่พบว่ามีการพกอาวุธเยอะมาก ซึ่งจริงแล้วคนเหล่านี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพกพาอาวุธเลย
ส่วนเรื่องของความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวนั้น ต้องยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบบ้าง ซึ่งเป็นปกติของคนทั่วไป เพราะขณะนี้ มีสื่อต่างประเทศโดยเฉพาะในออสเตรเลียลงข่าวนี้มาก แต่อย่างไรก็ตาม ภูเก็ตยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าอยู่ และน่าประทับใจ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนว่ายังอยากมาภูเก็ตอีกหรือไม่ และคิดว่าภูเก็ตมีปัญหาทางด้านการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก อยากจะให้จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งเร็วๆ นี้ตนจะร่วมประชุมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะนำปัญหาเหล่านี้เข้าหารือด้วยเพื่อที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาต่อไป
ขณะที่ที่น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเดินมายังจังหวัดภูเก็ตของเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทยในครั้งนี้ เพื่อมามอบรางวัลการให้แก่โรงแรมชวารีสอร์ท หาดสุรินทร์ ที่ได้รับรางวัลสำหรับการพักผ่อนของครอบครัว แล้วก็มาสอบถามเรื่องที่นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียถูกคนร้ายชิงทรัพย์ และใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิตด้วย ซึ่งจากการหารือร่วมกัน ทางเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ได้แนะนำวิธีแก้ปัญหาของจังหวัดภูเก็ตในหลายเรื่องด้วยกัน เช่น เรื่องรถแท็กซี่ ก็ได้ให้คำแนะนำว่าควรจะมีแท็กซี่มิเตอร์ให้หมด ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกเอารัดเอาเปรียบได้
ขณะที่ปัญหาในเรื่องของเจ็ตสกี ซึ่งทางจังหวัดก็ได้แจ้งให้ทราบว่า จังหวัดภูเก็ตมีเจ็ตสกี จำนวน 286 ลำ ที่ลงทะเบียนไว้ และได้มีการทำประกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้รับคำแนะนำว่า ควรจะใช้การประกันให้เกิดประโยชน์ ถ้านักท่องเที่ยวทำเจ็ตสกีเสียหายก็ใช้ประกันให้เป็นผล และที่สำคัญ เจ้าของเจ็ตสกีทุกลำจะต้องทำประกันให้หมด เพื่อที่จะให้ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขของประกัน
น.ส.สมหมาย กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ท่านทูตยังได้ขอให้ทางจังหวัดเน้นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะตำรวจ ในการตั้งจุดสกัด การที่รถมอเตอร์ไซค์ หรือรถตุ๊กตุ๊กมีอาวุธ มีมีด เมื่อตรวจพบแล้ว ไม่ควรที่จะริบไปเฉยๆ แต่จะต้องจับรถ แล้วก็ยึดรถไว้ด้วย แล้วก็ดำเนินขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งถ้าดำเนินการในลักษณะอย่างนี้เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างจริงจัง เพราะถ้าเพียงแค่ริบอาวุธไว้แล้วก็ปล่อยตัวไปก็ไม่ได้อะไร
น.ส.สมหมาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในการแก้ไขปัญหาเรื่องของความปลอดภัย ทางท่านทูต จะไปผลักดันผ่านทางสถานทูตถึงรัฐบาลไทยในการสนับสนุนและแก้ไขปัญหานี้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องของการเพิ่มกำลังตำรวจที่จังหวัดภูเก็ต อย่างไรก็ตาม การเข้าพบครั้งนี้ทางท่านทูตยังได้ขอบคุณที่ทางตำรวจจับผู้ร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ และฆ่านักท่องเที่ยวออสเตรเลีย ได้ในเวลาอันรวดเร็ว แล้วก็ไม่อยากให้เกิดปัญหานี้อีก ขอให้ช่วยแก้ปัญหาโดยการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้น นอกจากนั้น เป็นที่น่ายินดีที่ทางเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ยังยืนยันว่า ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียยังอยากเดินทางมา
