ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศาลภูเก็ตพิพากษากักขัง 15 วัน แหม่มออสซี่ กุข่าวตุ๊กตุ๊กรุมโทรมที่ภูเก็ต เจ้าหน้าที่สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยมาประกันตัว และรับตัวกลับประเทศไปแล้ว
ความคืบหน้า นางสาวแบมฟอร์ด สเทวีโรเซลเล นักท่องเที่ยวสาวชาวออสเตรเลีย วัย 21 ปี เข้าแจ้งความกลางดึก วันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน ร่วมกันรุมข่มขืนกระทำชำเราบนรถสี่ล้อเล็ก สีแดง ไม่ทราบทะเบียน เหตุเกิดริมชายหาดป่าตอง ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มร่วมชาติที่ร้านไวน์รูม ซ.บางลา ต.ป่าตอง แล้วเกิดพลัดหลงกัน จึงได้ขึ้นรถสี่ล้อรับจ้างบริเวณหน้าซอยบางลากลับที่พักใน ต.ป่าตอง ซึ่งมีชายฉกรรจ์นั่งอยู่ด้านหน้า 2 ด้านหลังอีก 1 คน ก่อนจะถูกชายทั้ง 3 ร่วมกันข่มขืน แต่จากแนวทางการสืบสวน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองป่าตอง คำให้การของพยานแวดล้อม พบข้อพิรุธเกี่ยวกับคำให้การของผู้เสียหาย
และจากพยานหลักฐานต่างๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะทู้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม ประจักษ์พยานและภาพจากกล้องวงจรปิดต่างๆ ในพื้นที่ละแวกที่เกิดเหตุ ไม่ตรงกับคำให้การของผู้เสียหาย เพราะจากการตรวจสอบปรากฏว่าผู้เสียหายไม่ได้ขึ้นรถสี่ล้อเล็กหรือรถตุ๊กตุ๊กออกจากซอยบางลา แต่ได้ขึ้นรถ จยย.คันที่ผู้เสียหายอ้างว่าเป็นผู้ที่มาส่งยังที่พักหลังเกิดเหตุเท่านั้น จึงได้เรียกตัวผู้เสียหายกลับมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เมื่อคืนวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา
จนกระทั่งผู้เสียหายให้การยอมรับสารภาพว่าไม่มีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้น แต่กลัวแฟนหนุ่มร่วมชาติจะโกรธที่กลับโรงแรมที่พักช้า จึงสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนความผิด ทางตำรวจโดยพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา มาตรา 173 ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งฟ้องศาลแล้ว โดยพนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางสาวแบมฟอร์ด สเทวีโรเซลเล สัญชาติออสเตรเลีย เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดภูเก็ต เนื้อหาคำฟ้องมีว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2555 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยได้แจ้งข้อความซึ่งเป็นความเท็จต่อ พ.ต.ต.ประเทือง ผลมานะ พนักงานสอบสวน ประจำสถานีตำรวจภูธรกะทู้ จ.ภูเก็ต ว่า มีคนร้านเป็นชายไทย จำนวน 3 คน ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราตน ที่บริเวณริมชายหาดป่าตอง ความจริงนั้น จำเลยรู้อยู่แล้วว่ามิได้มีคนร้ายดังกล่าว อันเป็นการแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนว่าได้มีการกระทำความผิดเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 ซึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพ
และศาลพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 จำคุก 1 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 15 วัน เนื่องจากการกระทำของจำเลยมีผลให้ จังหวัดภูเก็ตอันเป็นเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทยได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยไม่เป็นความจริง เพื่อให้จำเลยหลาบจำ และมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น จึงไม่รอการลงโทษ แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยเป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในวัยศึกษา อายุ เพียง 21 ปี อาจทำความผิดด้วยมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอ และโทษจำคุกระยะสั้นไม่น่าจะเป็นผลดีต่อจำเลย และฝ่ายอื่น เห็นควรให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 23 โดยให้กักขังจำเลยเป็นเวลา 15 วัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลมีคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว ได้มีเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยมาประกันตัว และรับตัวกลับประเทศไปแล้ว เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (15 มิ.ย.)
ความคืบหน้า นางสาวแบมฟอร์ด สเทวีโรเซลเล นักท่องเที่ยวสาวชาวออสเตรเลีย วัย 21 ปี เข้าแจ้งความกลางดึก วันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน ร่วมกันรุมข่มขืนกระทำชำเราบนรถสี่ล้อเล็ก สีแดง ไม่ทราบทะเบียน เหตุเกิดริมชายหาดป่าตอง ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มร่วมชาติที่ร้านไวน์รูม ซ.บางลา ต.ป่าตอง แล้วเกิดพลัดหลงกัน จึงได้ขึ้นรถสี่ล้อรับจ้างบริเวณหน้าซอยบางลากลับที่พักใน ต.ป่าตอง ซึ่งมีชายฉกรรจ์นั่งอยู่ด้านหน้า 2 ด้านหลังอีก 1 คน ก่อนจะถูกชายทั้ง 3 ร่วมกันข่มขืน แต่จากแนวทางการสืบสวน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองป่าตอง คำให้การของพยานแวดล้อม พบข้อพิรุธเกี่ยวกับคำให้การของผู้เสียหาย
และจากพยานหลักฐานต่างๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะทู้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม ประจักษ์พยานและภาพจากกล้องวงจรปิดต่างๆ ในพื้นที่ละแวกที่เกิดเหตุ ไม่ตรงกับคำให้การของผู้เสียหาย เพราะจากการตรวจสอบปรากฏว่าผู้เสียหายไม่ได้ขึ้นรถสี่ล้อเล็กหรือรถตุ๊กตุ๊กออกจากซอยบางลา แต่ได้ขึ้นรถ จยย.คันที่ผู้เสียหายอ้างว่าเป็นผู้ที่มาส่งยังที่พักหลังเกิดเหตุเท่านั้น จึงได้เรียกตัวผู้เสียหายกลับมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เมื่อคืนวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา
จนกระทั่งผู้เสียหายให้การยอมรับสารภาพว่าไม่มีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้น แต่กลัวแฟนหนุ่มร่วมชาติจะโกรธที่กลับโรงแรมที่พักช้า จึงสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนความผิด ทางตำรวจโดยพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา มาตรา 173 ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งฟ้องศาลแล้ว โดยพนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางสาวแบมฟอร์ด สเทวีโรเซลเล สัญชาติออสเตรเลีย เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดภูเก็ต เนื้อหาคำฟ้องมีว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2555 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยได้แจ้งข้อความซึ่งเป็นความเท็จต่อ พ.ต.ต.ประเทือง ผลมานะ พนักงานสอบสวน ประจำสถานีตำรวจภูธรกะทู้ จ.ภูเก็ต ว่า มีคนร้านเป็นชายไทย จำนวน 3 คน ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราตน ที่บริเวณริมชายหาดป่าตอง ความจริงนั้น จำเลยรู้อยู่แล้วว่ามิได้มีคนร้ายดังกล่าว อันเป็นการแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนว่าได้มีการกระทำความผิดเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 ซึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพ
และศาลพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 จำคุก 1 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 15 วัน เนื่องจากการกระทำของจำเลยมีผลให้ จังหวัดภูเก็ตอันเป็นเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทยได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยไม่เป็นความจริง เพื่อให้จำเลยหลาบจำ และมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น จึงไม่รอการลงโทษ แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยเป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในวัยศึกษา อายุ เพียง 21 ปี อาจทำความผิดด้วยมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอ และโทษจำคุกระยะสั้นไม่น่าจะเป็นผลดีต่อจำเลย และฝ่ายอื่น เห็นควรให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 23 โดยให้กักขังจำเลยเป็นเวลา 15 วัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลมีคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว ได้มีเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยมาประกันตัว และรับตัวกลับประเทศไปแล้ว เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (15 มิ.ย.)
