ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้การภูเก็ตปรับแผนดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ดึงหน่วยปฏิบัติการพิเศษช่วยงานตำรวจท้องที่ หวังสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวกลับมา ระบุ เดือนที่ผ่านมาพบพื้นที่ สภ.ฉลอง เกิดเหตุบ่อยสุด ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดย้ำทุกหน่วยต้องให้ความสำคัญในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว
นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ประกอบไปด้วย กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ตำรวจทางหลวง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นายอำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ ถึงมาตรการในการดูแลความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว ว่า
เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวหลายครั้ง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวภูเก็ตเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนในพื้นที่จะต้องร่วมกันดูแล และแก้ไขปัญหา ซึ่งตนเองก็ได้มีการประชุมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยแบบรูปธรรมไปแล้ว พร้อมทั้งกำหนดแผนรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
นายตรี ยังได้กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของคดีชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีก 1 คน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อจังหวัดภูเก็ต ซึ่งคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว ตนก็ต้องขอชมเชยการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ช่วยกันอย่างจริงจัง แต่อย่างไรก็ตาม ให้ขอทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เนื่องจากภูเก็ตถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก และสามารถนำรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมากเช่นกัน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวได้
เพราะฉะนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว จังหวัดก็ได้มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวเข้มงวดขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจแก้ผู้ที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตต่อไป ส่วนปัญหายาเสพติดก็ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการอย่างจริงจังต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากจังหวัดภูเก็ต
ขณะที่ พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงภาพรวมการปราบปรามอาชญากรรมในห้วงเวลาที่ผ่านมาว่า จากการวิเคราะห์ปัญหาอาชญากรรมในห้วงเดือนที่ผ่านมา พื้นที่สถานีตำรวจภูธรฉลองมีปัญหาการเกิดอาชญากรรมมากที่สุด ทั้งคดีฆ่าชิงทรัพย์นักท่องเที่ยว คดีพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่เรือนจำ และคดีทะเลาะวิวาท ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจึงได้ปรับแผนในการดูแลความปลอดภัยเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ ต้องยอมรับว่าภูเก็ตมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอในการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามคดีต่างๆ จึงนำหน่วยปฏิบัติการพิเศษมาเป็นกำลังเสริมในการปฏิบัติงานให้แก่ตำรวจในท้องที่ โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษออกตรวจตราตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น หาดกะตะ กะรน ในเวลา 21.00-04.00 น.ของทุกวัน พร้อมทั้งสั่งการชี้แจงทำความเข้าใจผู้ปฏิบัติงานให้ร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชนในการดำเนินงานในการป้องกันอาชญากรรม และดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวกลับคืนมา
นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ประกอบไปด้วย กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ตำรวจทางหลวง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นายอำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ ถึงมาตรการในการดูแลความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว ว่า
เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวหลายครั้ง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวภูเก็ตเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนในพื้นที่จะต้องร่วมกันดูแล และแก้ไขปัญหา ซึ่งตนเองก็ได้มีการประชุมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยแบบรูปธรรมไปแล้ว พร้อมทั้งกำหนดแผนรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
นายตรี ยังได้กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของคดีชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีก 1 คน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อจังหวัดภูเก็ต ซึ่งคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว ตนก็ต้องขอชมเชยการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ช่วยกันอย่างจริงจัง แต่อย่างไรก็ตาม ให้ขอทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เนื่องจากภูเก็ตถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก และสามารถนำรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมากเช่นกัน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวได้
เพราะฉะนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว จังหวัดก็ได้มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวเข้มงวดขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจแก้ผู้ที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตต่อไป ส่วนปัญหายาเสพติดก็ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการอย่างจริงจังต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากจังหวัดภูเก็ต
ขณะที่ พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงภาพรวมการปราบปรามอาชญากรรมในห้วงเวลาที่ผ่านมาว่า จากการวิเคราะห์ปัญหาอาชญากรรมในห้วงเดือนที่ผ่านมา พื้นที่สถานีตำรวจภูธรฉลองมีปัญหาการเกิดอาชญากรรมมากที่สุด ทั้งคดีฆ่าชิงทรัพย์นักท่องเที่ยว คดีพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่เรือนจำ และคดีทะเลาะวิวาท ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจึงได้ปรับแผนในการดูแลความปลอดภัยเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ ต้องยอมรับว่าภูเก็ตมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอในการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามคดีต่างๆ จึงนำหน่วยปฏิบัติการพิเศษมาเป็นกำลังเสริมในการปฏิบัติงานให้แก่ตำรวจในท้องที่ โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษออกตรวจตราตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น หาดกะตะ กะรน ในเวลา 21.00-04.00 น.ของทุกวัน พร้อมทั้งสั่งการชี้แจงทำความเข้าใจผู้ปฏิบัติงานให้ร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชนในการดำเนินงานในการป้องกันอาชญากรรม และดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวกลับคืนมา
