ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ส.ส.ภูเก็ตเรียกร้องตำรวจจับ 2 คนร้ายฆ่าแหม่มออสซี่ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวกลับมา พร้อมเรียกร้องให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเร่งทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวในต่างประเทศเพื่อเรียกความมั่นใจ
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี คนร้าย 2 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์ และทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่บริเวณหาดกะตะน้อย ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ว่า ในฐานะของคนภูเก็ต และตัวแทนชาวภูเก็ต ต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย และไม่อยากให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มใด
“เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบ และสร้างความเสียหายให้แก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงอยากให้ตำรวจเร่งรัดจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่เดินทางเข้ามาในภูเก็ตช่วงนี้เป็นตลาดระยะสั้น โดยเฉพาะตลาดออสเตรเลีย เนื่องจากมีเที่ยวบินบินตรงมาจากเมืองเพิร์ท ทำให้การท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซันของภูเก็ตมีการเติมเต็ม ดังนั้น ในด้านการท่องเที่ยวหากจะมีการขยายตลาดเพิ่ม เรื่องความปลอดภัยจะต้อง 100% เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมากลำดับต้นๆ และน่าจะมากกว่าเรื่องของการหลอกลวง หรือต้มตุ๋นนักท่องเที่ยวด้วยซ้ำไป” นางอัญชลี กล่าวและว่า
สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการเฉพาะหน้าขณะนี้ นอกจากการที่จะต้องเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้แล้ว ในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะต้องชี้แจงรายละเอียดและข้อมูลที่ถูกต้องแก่นักท่องเที่ยวในต่างประเทศที่มีความต้องการจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และจะต้องมีการวางแผนในระยะยาวในการสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของความปลอดภัยว่ามีมาตรการอย่างไร
นางอัญชลี กล่าวด้วยว่า กรณีที่กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ รวมถึงเจ้าหน้าที่อื่นๆ ด้วย และที่ผ่านมา ก็ได้มีการร้องขอให้เพิ่มกำลังมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง เพราะในการจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ตามรายหัวประชากรในทะเบียนราษฎร ซึ่งภูเก็ตมีเพียง 320,000 คนเท่านั้น ขณะที่มีประชากรแฝง แรงงานต่างด้าว และนักท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ภารกิจของเจ้าหน้าที่ก็เพิ่มมากขึ้น และไม่ทั่วถึง จึงอยากให้มีการเปลี่ยนวิธีการในการจัดสรรเจ้าหน้าที่ลงมาทำงานให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่
ส่วนกรณีที่มีการขอเพิ่มจำนวนสถานีตำรวจอีก 2 แห่ง คือ ต.กะรน กับ ต.วิชิตนั้น ในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็ได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้ไว้แล้ว เหลือเพียงการอนุมัติเท่านั้น และอยากเรียกร้องว่า หากจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาเพิ่มก็ขอให้เป็นผู้ที่มีฝีมือ และทำงานจริงๆ ไม่ใช่มารอเพื่อเปลี่ยนผ่าน เพราะขณะนี้ ไม่ใช่เฉพาะปัญหาอาชญากรรมเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของบ่อนพนันซึ่งมีการเปิดเพิ่มมากขึ้น และเริ่มมีการร้องเรียนเข้ามาแล้ว
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี คนร้าย 2 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์ และทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่บริเวณหาดกะตะน้อย ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ว่า ในฐานะของคนภูเก็ต และตัวแทนชาวภูเก็ต ต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย และไม่อยากให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มใด
“เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบ และสร้างความเสียหายให้แก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงอยากให้ตำรวจเร่งรัดจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่เดินทางเข้ามาในภูเก็ตช่วงนี้เป็นตลาดระยะสั้น โดยเฉพาะตลาดออสเตรเลีย เนื่องจากมีเที่ยวบินบินตรงมาจากเมืองเพิร์ท ทำให้การท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซันของภูเก็ตมีการเติมเต็ม ดังนั้น ในด้านการท่องเที่ยวหากจะมีการขยายตลาดเพิ่ม เรื่องความปลอดภัยจะต้อง 100% เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมากลำดับต้นๆ และน่าจะมากกว่าเรื่องของการหลอกลวง หรือต้มตุ๋นนักท่องเที่ยวด้วยซ้ำไป” นางอัญชลี กล่าวและว่า
สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการเฉพาะหน้าขณะนี้ นอกจากการที่จะต้องเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้แล้ว ในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะต้องชี้แจงรายละเอียดและข้อมูลที่ถูกต้องแก่นักท่องเที่ยวในต่างประเทศที่มีความต้องการจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และจะต้องมีการวางแผนในระยะยาวในการสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของความปลอดภัยว่ามีมาตรการอย่างไร
นางอัญชลี กล่าวด้วยว่า กรณีที่กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ รวมถึงเจ้าหน้าที่อื่นๆ ด้วย และที่ผ่านมา ก็ได้มีการร้องขอให้เพิ่มกำลังมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง เพราะในการจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ตามรายหัวประชากรในทะเบียนราษฎร ซึ่งภูเก็ตมีเพียง 320,000 คนเท่านั้น ขณะที่มีประชากรแฝง แรงงานต่างด้าว และนักท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ภารกิจของเจ้าหน้าที่ก็เพิ่มมากขึ้น และไม่ทั่วถึง จึงอยากให้มีการเปลี่ยนวิธีการในการจัดสรรเจ้าหน้าที่ลงมาทำงานให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่
ส่วนกรณีที่มีการขอเพิ่มจำนวนสถานีตำรวจอีก 2 แห่ง คือ ต.กะรน กับ ต.วิชิตนั้น ในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็ได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้ไว้แล้ว เหลือเพียงการอนุมัติเท่านั้น และอยากเรียกร้องว่า หากจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาเพิ่มก็ขอให้เป็นผู้ที่มีฝีมือ และทำงานจริงๆ ไม่ใช่มารอเพื่อเปลี่ยนผ่าน เพราะขณะนี้ ไม่ใช่เฉพาะปัญหาอาชญากรรมเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของบ่อนพนันซึ่งมีการเปิดเพิ่มมากขึ้น และเริ่มมีการร้องเรียนเข้ามาแล้ว
