จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมืองผู้ดี ตุ๋นฝรั่งลงทุนซื้อขายหุ้น

ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวอังกฤษ เปิดบริษัทบังหน้าต้มตุ๋นชาวยุโรปให้ลงทุนซื้อขายหุ้น ได้ตัวผู้ต้องหา 3 คนยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ชี้ขั้นตอนแนบเนียนกว่าแก๊งไต้หวันและจีน เหตุใช้อุปกรณ์สัญญาณแอร์การ์ดเปลี่ยนซิมไปเรื่อย

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม. พล.ต.ต.มนตรี โปตระนันทน์ รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ รอง ผกก. พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม. แถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวอังกฤกษต้มตุ๋นฝรั่งให้ลงทุนซื้อขายหุ้น ประกอบด้วย นายสโตเวล แมททิว นีล อายุ 37 ปี, นายริชาร์ด เอียน คุก อายุ 35 ปี และนายคาร์โร แมททิว โทมัส ปีเตอร์ อายุ 27 ปี ทั้งหมดสัญชาติบริติช พร้อมของกลางโทรศัพท์บ้าน อุปกรณ์ต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต เครื่องคอมพิวเตอร์ เอกสารข้อมูลเกี่ยวกับเหยื่อจำนวนมาก สามารถจับกุมได้ที่ห้องชุดเลขที่ 501 อาคารเลขที่ 33 ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

พล.ต.ท.วิบูลย์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2555 เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม.ได้นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค.173/2555 ลงวันที่ 19 มิ.ย. 2555 ทำการตรวจค้นห้องชุดเลขที่ 501 อาคารดังกล่าว หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งที่ใช้เป็นสถานที่ก่อเหตุหลอกลวงต้มตุ๋นชาวต่างชาติให้ร่วมลงทุนซื้อขายหุ้น โดยอ้างตัวเป็นบริษัทนายหน้า หรือโบรกเกอร์ ใช้ระบบโทรศัพท์ข้ามประเทศจากเมืองไทยไปยุโรป เพื่อหาเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป เช่น อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี สวีเดน ออสเตรีย เป็นต้น แล้วพูดจาหว่านล้อมเหยื่อให้หลงเชื่อและนำเงินมาร่วมลงทุนด้วย โดยจะให้โอนเงินไปเข้าบัญชีธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้วจึงโอนกลับมาที่ธนาคารในประเทศมาเลเซีย แล้วจึงนำมายังประเทศไทย ซึ่งจะแบ่งส่วนแบ่งให้ทีมเปิดบัญชีธนาคาร 25 เปอร์เซ็นต์ คนโทรศัพท์หลอกลวง 25 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นของหัวหน้าแก๊งทั้งหมด

พ.ต.อ.ชาติชายกล่าวว่า แก๊งดังกล่าวจะมีวิธีการทำโดยหาข้อมูลเหยื่อมาจากบริษัทข้อมูลอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศที่จะมีชื่อ-สกุล ข้อมูลครบถ้วน ด้วยวิธีการขอซื้อข้อมูลมาจะมีรายชื่อเป็นพันๆ ชื่อ แล้วมาเช็กดูข้อมูลว่าบุคคลใดน่าสนใจ จากนั้นจะทำตามขั้นตอนด้วยการโทร.ไปหาเหยื่อเพื่อถามข้อมูลเบื้องต้นแล้วพูดเรื่องการลงทุนให้ฟัง และเปรียบเทียบผลประโยชน์การลงทุน พอเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนก็จะโอนเงินมาให้ หลังจากนั้นจะแบ่งผลประโยชน์ให้เบื้องต้นไม่มากนัก เพื่อให้ตายใจแล้วไปชักชวนคนอื่นต่อไปเป็นลูกโซ่ จากนั้นจะปิดบริษัทหลบหนี ซึ่งวิธีการทำงานของแก๊งนี้จะจับตัวได้ยากต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของไต้หวันและจีนตรงที่ใช้อุปกรณ์สัญญาณเป็นแอร์การ์ดเคลื่อนที่เปลี่ยนซิมไปเรื่อยๆ เหมือนโทรศัพท์มือถือเติมเงินจะไม่มีการลงทะเบียนข้อมูลไว้ แต่ถ้าเป็นการใช้วีโอไอพีนั้น ต้องใช้กับโทรศํพท์บ้านฐานที่ตั้งจึงเคลื่อนย้ายยากสามารถง่ายต่อการจับกุม จากการสอบสวนยังทราบว่าแก๊งนี้จะมีหัวหน้าใหญ่อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ทราบชื่อเพียงนายวิลเลียม ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเป็นเพียงชุดแผนกหลอกหลวง จะมีหน้าที่ให้พูดตามบทสคริปต์เพื่อชักจูงเหยื่อมาร่วมลงทุนเท่านั้น

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เดินทางเข้ามาในประเทศไทยฐานะนักท่องเที่ยว แต่เพื่อมาทำอาชีพนี้โดยเฉพาะและดำเนินการมาเป็นปีแล้ว แต่เพิ่งมาใช้สถานที่ดังกล่าวได้ประมาณ 2 เดือน เช่าเดือนละ 90,000 บาท โดยก่อนหน้านี้เคยเช่าอยู่ที่ The Green Bells ย่านอ่อนนุช และจะไม่ออกจากห้องไปไหนจะโทร.สั่งแต่อาหารให้มาส่งเพื่อไม่ให้ใครเห็น แล้วจะทำการย้ายสถานที่ไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยและยากต่อการสืบสวนจับกุม ยังพบว่านายคาร์โร แมททิว โทมัส ปีเตอร์ มีภรรยาเป็นคนไทยทำงานอยู่ย่านนิด้า บางกะปิด้วย และยังเป็นแก๊งเดียวกันกับที่เคยหลอกอดีตทหารชาวอังกฤษเมื่อเดือนที่ผ่านมาจนหมดตัวแล้วฆ่าตัวตาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง และพิจารณาเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศต่อไป หลังจากนี้จะทำการสืบสวนขยายผลกลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิดอีก และจะประสานงานไปยังหน่วยงานของประเทศที่พบข้อมูลเหยื่อเพื่อให้ตรวจสอบขยายผลต่อไป