สตม.ชลบุรีขยายผลทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน มูลค่าเสียหายกว่าพันล้านบาท

ศูนย์ข่าวศรีราชา - สตม.ร่วมกับ ตม.ชลบุรี ขยายผลทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน มูลค่าเสียหายเกี่ยวโยงหลายประเทศกว่าพันล้านบาท ได้ผู้ต้องหา 7 คน พร้อมของกลางจำนวนมาก

วันนี้ (17 พ.ค.) พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รองผุ้บังคับการสืบสวนสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ชลบุรี (สตม.) พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สตม.และชุดสืบสวน ตม.ชลบุรี ได้นำหมายศาลจังหวัดพัทยาเลขที่ ค.202/2555 ลงวันที่ 17 พ.ค.55 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 65/2 ม.2 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นศูนย์คอลเซ็นเตอร์ที่มีแก๊งชาวจีนกว่า 20 คนอาศัยอยู่

ในที่เกิดเหตุ เป็นบ้านหรู 2 ชั้น มีรั้วล้อมรอบมิดชิด เนื้อที่กว่า 50 ตารางวา หน้าประตูพบมีกล้องวงจรปิด 2 ตัว เมื่อเข้าตรวจสอบชั้นล่างพบแม่บ้านจำนวน 2 คน ชื่อนางหยี่ซัว แซ่หลี อายุ 51 ปี ชาวจีน และน.ส.เสี่ยวปลิง แซ่หลิว อายุ 37 ปี

จากนั้นขึ้นไปตรวจบนชั้นที่ 2 ซึ่งมีจำนวน 4 ห้อง โดยเป็นห้องนอน 3 ห้อง และห้องทำงานที่มีโต๊ะทำงานจำนวน 13 โต๊ะ แต่ละโต๊ะมีโทรศัพท์ที่ใช้แบบอินเทอร์เน็ตข้ามประเทศ เครื่องคิดเลข รวมทั้งวิธีการทำงาน บทพูด โดยพบชาวจีน 7 คน เป็นชาย 4 คน และหญิง 3 คน โดยมีนายเหลียว จาง เฉิน อายุ 33 ปี ชาวจีนเป็นหัวหน้าแก๊ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวน และตรวจยึดของกลางทั้งหมดมีโทรศัพท์ เครื่องคิดเลข โน้ตบุ๊ก เครื่องปรินต์ เครื่องต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ

เจ้าหน้าที่เผยว่า การเข้าตรวจค้น และจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในครั้งนี้สืบเนื่องจากการขยายผลจากครั้งที่แล้วที่จับได้ประมาณ 22 คน มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท แต่ในวันนี้คนในแก๊งนี้คาดว่าจะมีเกิน 25 คนขึ้นไป ซึ่งสามารถหลบหนีไปก่อนที่ตำรวจเข้าจับกุม และมูลค่ความาเสียหายน่าจะมากกว่า 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ สำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวทาง สตม.ได้ประสานกับสอบสวนกลางจะเข้าค้นทั้งหมด 7 จุดทั่วประเทศไทย และมีทางต่างประเทศสามารถจับคนไทยที่ไปทำลักษณะเดียวกัน ซึ่งมูลค่าความเสียหายที่ประมาณการที่เกิดขึ้นกับ 4-5 ประเทศ ประมาณกว่าพันล้านบาท โดยมีประเทศที่ได้รับความเสียหายคือ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือที่หลบหนีไปก่อนหน้า สตม.จะทำการสอบสวนคนร้ายที่พบในวันนี้เพื่อขยายผลติดตามจับกุม รวมทั้งสืบสวนจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เหลือทั้งหมดที่ใช้พื้นที่ในเมืองไทยเป็นศูนย์ดำเนินการหลอกลวง มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป