รวบลูกชาย ผญบ.ตรัง ถูกจ้างวานฆ่าแก๊งต้มตุ๋น

ตรัง - ตำรวจรวบลูกชาย ผญบ. มือฆ่าสมาชิกแก๊งต้มตุ๋นรายใหญ่ของภาคใต้ ซึ่งที่ตระเวนหลอกเหยื่อทำทีขอเช่าที่ดินตั้งเสาสัญญาณมือถือ 3 จี สารภาพถูกหว่านล้อมให้ช่วยยิง และกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน ส่วนสาเหตุการจ้างวานมาจากการหักหลังกันเองระหว่างสมาชิกด้วยกัน

วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง, พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านหนองตรุด ร่วมกันแถลงข่าวจับ นายอนุชาติ หรือบอย ดำทอง อายุ 22 ปี ลูกชายผู้ใหญ่บ้านชื่อดังในพื้นที่ อ.เมืองตรัง อยู่บ้านเลขที่ 224/2 หมู่ที่ 5 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า นายพิศาล วงศ์จินดา หนึ่งในสมาชิกแก๊งต้มตุ๋น พร้อมของกลางยาบ้า 1 เม็ดครึ่ง, อาวุธปืน ขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมกระสุน 35 นัด, อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุน 6 นัด

จากการสอบสวน นายอนุชาติ ให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้รู้จัก หรือมีสาเหตุขัดแย้งกับ นายพิศาล ผู้ตายมาก่อน แต่ก่อนเกิดเหตุ ได้ไปรู้จักกับ นายสมชาย พหุนันท์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/3 หมู่ที่ 10 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง และ นายวิรัตน์ บัวดำ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 1 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนพูดจาหว่านล้อมให้ตนไปช่วยยิงผู้ตาย โดยอ้างว่า ผู้ตายมีปัญหาชู้สาวกับชาวบ้าน และหักหลังเรื่องงาน แต่ไม่ได้ระบุเรื่องใด กระทั่งเพิ่งมาทราบภายหลังว่า ทั้งนายสมชายและนายวิรัตน์ อยู่ในแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงชาวบ้าน ประกอบกับตนกำลังเครียดเรื่องปัญหาหนี้สินจำนวนมาก จึงรับปากที่จะทำงานให้

โดยนายสมชายได้นัดเจอนายพิศาล ผู้ตายยังที่จุดเกิดเหตุ และเมื่อเห็นคนตายนั่งรถเก๋งมากับนายวิรัตน์ตามแผนที่วางไว้ นายสมชายจึงใช้อาวุธปืน ขนาด.38 ยิงใส่ผู้ตายก่อน จำนวน 3-4 นัด ส่วนตนใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นของพ่อยิงซ้ำไปอีกจำนวน 2 นัด เพื่อให้แน่ใจว่าเหยื่อเสียชีวิตแล้ว จึงได้ลากศพคนตายไปทิ้งในป่าสงวนแห่งชาติ บ้านเกาะหวายเล็ก หมู่ที่ 1 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง

ทั้งนี้ หลังจากก่อเหตุได้ประมาณ 2 วัน นายสมชายก็โทรศัพท์ไปหาตน เพื่อให้ตนมารับเงินจำนวน 10,000 บาท ที่ร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่ง กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมตัว และแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาจากการสืบสวนทราบว่า มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องรวม 3 คน จึงได้ขออนุมัติจากศาล จ.ตรัง เพื่อจับกุมนายสมชาย และนายอนุชาติ ส่วนนายวิรัตน์ยังอยู่ระหว่างหลบหนี แต่คาดว่าจะได้ตัวมาภายในสัปดาห์นี้

โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือ นายสมชาย และนายวิรัตน์ รวมทั้งนายพิศาลผู้ตายนั้นถือเป็นแก๊งต้มตุ๋นรายใหญ่ของภาคใต้ ก่อนเกิดเหตุ ได้ใช้ให้ผู้ตายเข้าไปทำงานในพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จนสามารถหลอกลวงเหยื่อได้เงินมาประมาณ 600,000 บาท แต่เมื่อนัดแบ่งเงินกัน ผู้ตายกลับโกหกว่าได้เงินจากเหยื่อมาแค่ 50,000 บาทเท่านั้น จึงทำให้นายสมชายและนายวิรัตน์เกิดความแค้น

นอกจากนั้น แก๊งต้มตุ๋นดังกล่าวยังได้ไปหลอกชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ ของ จ.ตรัง เพื่อขอเช่าที่ดินตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ 3 จี รวมทั้งยังหลอกเหยื่อลงทุนเล่นการพนันด้วย หลังจากนั้น แก๊งต้มตุ๋นก็จะฉ้อโกง และหลอกเงินได้ไปเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะมาเกิดการหักหลังและฆ่ากันเองในที่สุด