พะเยา - เผยโฉมนายทุนขี้ฉ้อ ตุ๋นเกษตรกร 4 จว.เหนือรวมเกือบ 20 ล้าน บางรายเจอหลอกเอารถเข้าไฟแนนซ์ 3 คันรวด แถมล่าสุดมีข่าวสะพัดขยายเครือข่ายต้มตุ๋นเข้าสระบุรี และภาคอีสานอีก ย้ำผู้เสียหายทุกจังหวัดเดินขึ้นโรงพักแจ้งความ รอง ปธ.สภาฯ พร้อมส่งเรื่อง “รมว.ยุติธรรม” รับ “คดีพิเศษ” ตำรวจจุน เตรียมออกหมายเรียก หากเบี้ยวเจอหมายจับ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพะเยาว่า นายกาจ ปัญญาหล้า ประธานกลุ่มข้าวอินทรีย์ศรีจอมแจ้ง ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา พร้อมด้วยชาวบ้านศรีจอมแจ้ง และตัวแทนเกษตรกรจาก จ.เชียงราย จ.แพร่ และ จ.น่าน ประมาณ 50 คนได้เดินทางเข้าพบนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกรณีที่กลุ่มเกษตรกรทั้งหมดได้ถูกนายสุริยัน วชิรวงศ์วิชาธร อายุ 46 ปี กรรมการบริษัทเดอะพุทธิพงษ์ฟาร์มมิ่งยูไนเต็ด อันโคออร์โปรเรโตเครเซียล จำกัด กับพวกกว่า 10 คน ร่วมกันกระทำการฉ้อโกงประชาชนเป็นมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท และผู้เดือดร้อนใน อ.จุน จ.พะเยา ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุน ไว้แล้วเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา ทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการเชิญนายสุริยันมาให้ปากคำแล้ว
นายวิสุทธิ์กล่าวหลังรับหนังสือจากเกษตรกรตัวแทนผู้เดือดร้อนจาก 4 จังหวัดว่า ทุกพื้นที่ที่มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อเหตุของนายสุริยัน ขอให้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักฐานเพื่อนำสู่การดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันตนจะนำเรื่องยื่นเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมทันทีที่ตนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ วันนี้ (11 มิ.ย.) เพื่อขอให้รับไว้เป็นคดีพิเศษ ออกหมายเรียกนายสุริยันมาตรวจสอบและดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด เนื่องจากผู้ก่อเหตุเคยเป็นผู้ก่อคดีฉ้อโกงมาแล้ว ถือเป็นบุคคลอันตรายสำหรับประชาชนทุกคน
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เกษตรกรและประชาชนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อนั้น จะต้องมีการดำเนินการให้ถึงขั้นยึดทรัพย์ผู้ก่อเหตุและผู้ร่วมขบวนการมาชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์
“สำหรับนายสุริยัน ขอให้ทางสื่อมวลชนนำรูปภาพใบหน้าของนายสุริยันไปตีแผ่เป็นข่าว เพื่อเตือนให้เกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศที่พบปะระวังตัวไม่ให้ถูกต้มตุ๋น หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่รับผิดชอบคดีเพื่อนำตัวมาลงโทษโดยเร็ว ทั้งนี้ เรื่องการดำเนินการรับจำนำข้าวนั้น ผู้ที่จะดำเนินการได้คือรัฐบาลและโรงสีที่เข้าร่วมโครงการกับรัฐบาลเท่านั้น จะไม่มีเอกชนรายใดมาดำเนินการโดยลำพังได้” นายวิสุทธิ์กล่าว

ด้านนายสกุลรัตน์ ไหล่สัก อดีตผู้ใหญ่บ้านดอนกลาง ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนถูกนายสุริยันหลอกให้นำรถยนต์เข้าไฟแนนซ์ 3 คัน เป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท นำไปมอบแก่นายสุริยัน โดยนายสุริยันอ้างว่าจะให้ค่าตอบแทนคืนจำนวน 2 เท่าของเงินที่ได้รับไป และยังมีบางรายถูกหลอกให้นำโฉนดที่ดินไปจำนองแล้วนำเงินมาให้นายสุริยัน ซึ่งอ้างว่าจะชดใช้คืน 2 เท่าอีกเช่นกัน โดยมีเกษตรกรใน อ.เวียงชัยถูกฉ้อโกงไปประมาณ 2.5 ล้านบาท
ส่วนนายอร่าม ยอดอ้อย ชาวบ้าน ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ เปิดเผยว่า ตนและพวกในตำบลเดียวกันถูกนายสุริยันหลอกให้ไปเปิดบริษัทเพื่อเป็นบริษัทลูกของบริษัทพุทธิพงษ์ฯ ของนายสุริยัน พร้อมทั้งถูกหลอกเอาเงินสดไปประมาณ 500,000 บาท ขณะนี้ตนได้รับคำแนะนำให้ไปดำเนินการแจ้งขอยกเลิกบริษัทที่ไปแจ้งจดทะเบียนไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำชื่อบริษัทไปประกอบกิจการใดๆ อันอาจจะมีความเสียหายตามมาภายหลังได้
นายวิสุทธิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ร้องเรียนว่า กลุ่มของนายสุริยันได้ขยายพื้นที่ฉ้อโกงไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ และภาคอีสาน ล่าสุดทราบว่ามีการติดต่อไปยังนักการเมืองท้องถิ่นในตำบลป๊อกแป๊ก อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และกำลังเตรียมขยายเครือข่ายไปยัง จ.หนองบัวลำภูด้วย ดังนั้น จะต้องนำคนที่ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ ป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกหลอกต้มตุ๋นได้อีกต่อไป
พ.ต.ท.กันต์ศักดิ์ สุรินทชัย รอง ผกก.สส.สภ.จุน จ.พะเยา เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีกำลังดำเนินการออกหมายเรียกเชิญตัวนายสุริยันมาให้ปากคำแล้ว หากมีหมายเรียกไปสองครั้งนายสุริยันยังไม่มาตามนัด ทางตำรวจก็จะต้องร้องขอต่อศาลให้ออกหมายจับนายสุริยันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพะเยาว่า นายกาจ ปัญญาหล้า ประธานกลุ่มข้าวอินทรีย์ศรีจอมแจ้ง ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา พร้อมด้วยชาวบ้านศรีจอมแจ้ง และตัวแทนเกษตรกรจาก จ.เชียงราย จ.แพร่ และ จ.น่าน ประมาณ 50 คนได้เดินทางเข้าพบนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกรณีที่กลุ่มเกษตรกรทั้งหมดได้ถูกนายสุริยัน วชิรวงศ์วิชาธร อายุ 46 ปี กรรมการบริษัทเดอะพุทธิพงษ์ฟาร์มมิ่งยูไนเต็ด อันโคออร์โปรเรโตเครเซียล จำกัด กับพวกกว่า 10 คน ร่วมกันกระทำการฉ้อโกงประชาชนเป็นมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท และผู้เดือดร้อนใน อ.จุน จ.พะเยา ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุน ไว้แล้วเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา ทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการเชิญนายสุริยันมาให้ปากคำแล้ว
นายวิสุทธิ์กล่าวหลังรับหนังสือจากเกษตรกรตัวแทนผู้เดือดร้อนจาก 4 จังหวัดว่า ทุกพื้นที่ที่มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อเหตุของนายสุริยัน ขอให้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักฐานเพื่อนำสู่การดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันตนจะนำเรื่องยื่นเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมทันทีที่ตนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ วันนี้ (11 มิ.ย.) เพื่อขอให้รับไว้เป็นคดีพิเศษ ออกหมายเรียกนายสุริยันมาตรวจสอบและดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด เนื่องจากผู้ก่อเหตุเคยเป็นผู้ก่อคดีฉ้อโกงมาแล้ว ถือเป็นบุคคลอันตรายสำหรับประชาชนทุกคน
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เกษตรกรและประชาชนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อนั้น จะต้องมีการดำเนินการให้ถึงขั้นยึดทรัพย์ผู้ก่อเหตุและผู้ร่วมขบวนการมาชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์
“สำหรับนายสุริยัน ขอให้ทางสื่อมวลชนนำรูปภาพใบหน้าของนายสุริยันไปตีแผ่เป็นข่าว เพื่อเตือนให้เกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศที่พบปะระวังตัวไม่ให้ถูกต้มตุ๋น หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่รับผิดชอบคดีเพื่อนำตัวมาลงโทษโดยเร็ว ทั้งนี้ เรื่องการดำเนินการรับจำนำข้าวนั้น ผู้ที่จะดำเนินการได้คือรัฐบาลและโรงสีที่เข้าร่วมโครงการกับรัฐบาลเท่านั้น จะไม่มีเอกชนรายใดมาดำเนินการโดยลำพังได้” นายวิสุทธิ์กล่าว
ด้านนายสกุลรัตน์ ไหล่สัก อดีตผู้ใหญ่บ้านดอนกลาง ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนถูกนายสุริยันหลอกให้นำรถยนต์เข้าไฟแนนซ์ 3 คัน เป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท นำไปมอบแก่นายสุริยัน โดยนายสุริยันอ้างว่าจะให้ค่าตอบแทนคืนจำนวน 2 เท่าของเงินที่ได้รับไป และยังมีบางรายถูกหลอกให้นำโฉนดที่ดินไปจำนองแล้วนำเงินมาให้นายสุริยัน ซึ่งอ้างว่าจะชดใช้คืน 2 เท่าอีกเช่นกัน โดยมีเกษตรกรใน อ.เวียงชัยถูกฉ้อโกงไปประมาณ 2.5 ล้านบาท
ส่วนนายอร่าม ยอดอ้อย ชาวบ้าน ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ เปิดเผยว่า ตนและพวกในตำบลเดียวกันถูกนายสุริยันหลอกให้ไปเปิดบริษัทเพื่อเป็นบริษัทลูกของบริษัทพุทธิพงษ์ฯ ของนายสุริยัน พร้อมทั้งถูกหลอกเอาเงินสดไปประมาณ 500,000 บาท ขณะนี้ตนได้รับคำแนะนำให้ไปดำเนินการแจ้งขอยกเลิกบริษัทที่ไปแจ้งจดทะเบียนไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำชื่อบริษัทไปประกอบกิจการใดๆ อันอาจจะมีความเสียหายตามมาภายหลังได้
นายวิสุทธิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ร้องเรียนว่า กลุ่มของนายสุริยันได้ขยายพื้นที่ฉ้อโกงไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ และภาคอีสาน ล่าสุดทราบว่ามีการติดต่อไปยังนักการเมืองท้องถิ่นในตำบลป๊อกแป๊ก อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และกำลังเตรียมขยายเครือข่ายไปยัง จ.หนองบัวลำภูด้วย ดังนั้น จะต้องนำคนที่ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ ป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกหลอกต้มตุ๋นได้อีกต่อไป
พ.ต.ท.กันต์ศักดิ์ สุรินทชัย รอง ผกก.สส.สภ.จุน จ.พะเยา เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีกำลังดำเนินการออกหมายเรียกเชิญตัวนายสุริยันมาให้ปากคำแล้ว หากมีหมายเรียกไปสองครั้งนายสุริยันยังไม่มาตามนัด ทางตำรวจก็จะต้องร้องขอต่อศาลให้ออกหมายจับนายสุริยันต่อไป