พะเยา - “เกษตรกรกลุ่มข้าวอินทรีย์ศรีจอมแจ้ง” ครวญถูกนายทุนฉ้อโกงหลอกซื้อข้าวอ้างนำส่งออก ก่อนจ่ายเช็คให้รวมมูลค่ากว่า 10 ล้าน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครได้เงิน เผยบางรายแทบเป็นบ้า บางรายครอบครัวแตกแยก บอกเทียวร้องเรียนหลายหน่วยงานแต่ยังไร้ความคืบหน้า ล่าสุดโร่ร้อง “วิสุทธิ์” เล็งชงเป็นคดีพิเศษล่าตัวคนโกงต่อ
วันนี้ (7 มิ.ย.) นายกาจ ปัญญาหล้า ประธานกลุ่มข้าวอินทรีย์ศรีจอมแจ้ง หมู่ 1 ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา กล่าวว่า ตนกับพวกรวมเกือบ 20 รายได้รับผลกระทบจากการถูกฉ้อโกง โดยโครงการผลิตข้าวเพื่อการส่งออกของบริษัท เดอะพุทธิพงษ์ฟาร์มมิ่งยูไนเต็ด อันโคออร์โปรเรโตเครเซียล จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น การเกษตรฟาร์มพุทธิพงษ์พัฒนานครจังหวัดพะเยา จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.หงส์หิน อ.จุน บนถนนสายจุน-แม่ลอย) ซึ่งหลอกให้ตนและกลุ่มชาวนาในพื้นที่เซ็นสัญญาเป็นนิติกรรมอำพรางฉ้อฉล และออกเช็คให้ชาวนาช้าเกินกำหนด จาก 45 วัน เป็น 2-3 เดือน และจนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้วยังไม่มีใครได้รับเงินเลย
นายกาจกล่าวอีกว่า นอกจากเกษตรกรใน จ.พะเยาที่ถูกหลอกแล้ว ยังมีเกษตรกรหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากเอกชนรายนี้ เช่น จ.เชียงราย จ.น่าน จ.แพร่ และ จ.สระบุรี คาดว่าไม่น้อยกว่า 50 ราย รวมเงินที่ถูกฉ้อโกงไปกว่า 14 ล้านบาท
นายกาจกล่าวต่อว่า พฤติกรรมของบริษัทดังกล่าว ที่มีนายสุริยัน วชิรวงศ์วิชาธร อายุ 46 ปี กรรมการบริษัทฯ กับพวก คือ 1. หลอกให้แกนนำกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดพะเยาจัดตั้งสหกรณ์ฟาร์มพุทธิพงษ์จังหวัดพะเยาพัฒนานคร จำกัด และอ้างทำโครงการผลิตข้าวเพื่อส่งออก และกองทุนข้าวโลก เพื่อหลอกให้กลุ่มแกนนำและชาวนากลุ่มข้าวอินทรีย์ศรีจอมแจ้ง ทำสัญญาซื้อขายข้าว ซึ่งเป็นสัญญาฉ้อฉลและนิติกรรมอำพราง
2. หลอกใช้แรงงานแล้วไม่จ่ายค่าตอบแทน 3. นายสุริยัน ปธ.บริษัทฯ มีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล ยิงปืนในที่สาธารณะกลางงานผ้าป่าสามัคคี เมื่อวันที่ 2 มกราคม 55 และ 4. นายสุริยันกับพวก ใช้กฎหมายและคำว่าบริษัทเป็นเครื่องมือฉ้อโกง ซึ่งเป็นภัยต่อสังคมโดยรวมและขยายวงกว้างต่อไปเรื่อยๆ เหตุเกิดระหว่างเดือนตุลาคม 2554-มีนาคม 2555 มูลค่าเงินที่ชาวนาใน 4-5 จังหวัดถูกโกงไปรวมประมาณ 14 ล้านบาท
“ผมและกลุ่มชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อน จึงต้องรวมตัวกันเข้าร้องขอความเป็นธรรมจากส่วนราชการ ตั้งแต่นายอำเภอจุน ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุน เพื่อขอให้ดำเนินคดี และล่าสุดนำเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเมตตาให้ชาวบ้านที่ถูกฉ้อโกงเงินและข้าวไปได้รับความเป็นธรรมด้วย”
ด้านนายสำเร็จ กองแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.หงส์หิน กล่าวว่า ตนเป็นอีกรายหนึ่งที่ถูกกลุ่มดังกล่าวฉ้อโกง โดยได้ขายข้าวเปลือกให้แก่บริษัทดังกล่าว และได้รับเช็คมาจำนวนกว่า 40,000 บาท จนถึงขณะนี้ตนไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด ติดต่อนายสุริยัน ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้นายสุริยันไม่อยู่ในพื้นที่หายหน้าไปนานแล้ว ชาวนาบางรายขายข้าวเปลือกเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านบาทก็ไม่ได้รับเงิน เดือดร้อนจนแทบกลายเป็นบ้าไปแล้ว
ขณะที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ กล่าวว่า ตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่เป็นภัยสังคม เพราะนายสุริยันมีพฤติกรรมกระทำการฉ้อโกงผู้อื่นในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเรื่องนี้ตนจะนำคดีเข้าขอให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเป็นคดีพิเศษที่จะต้องเร่งดำเนินการ พร้อมทั้งร้องขอให้ตำรวจกองปราบฯ เข้ามาดำเนินการอย่างเร่งด่วน และนำนายสุริยันมาดำเนินคดีรับผิดให้ถึงที่สุด และต้องนำเงินมาคืนผู้เสียหายทั้งหมดด้วย
