xs
xsm
sm
md
lg

สองผัวเมียโร่ฟ้อง “ดีเอสไอ” หลังโดนบริษัทตุ๋นอ้างถูกรางวัล-หลอกจ่ายภาษี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางจันทร์เพ็ญ ดอนปัน แสดงรูปภาพของชุดโฮมเธียเตอร์ที่ถูกหลอกให้เสียภาษี ซึ่งบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือ
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สองผัวเมียชาวสารภี สุดซวย หลังเจอบริษัทส่งจดหมายอ้างเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล แถมไปถึงที่ให้จับสลากได้โฮมเธียเตอร์ ยี่ห้อดังชุดใหญ่ ก่อนออกลายบอกต้องเสียภาษีก่อน ด้านสองผัวเมียหลงเชื่อถอนเงินแบงก์มาจ่าย พอถึงบ้านพบเครื่องเสียงสุดห่วย แถมไม่ใช่ยี่ห้อดัง ต้องโร่ฟ้องดีเอสไอช่วยจับคนโกง

วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายคำปัน ดอนปัน อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 5 ต.สันทราย อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และนางจันทร์เพ็ญ ดอนปัน อายุ 55 ปี ภรรยา เข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ว่า ตนเองและภรรยาถูกฉ้อโกงจากการที่บริษัทแห่งหนึ่งหลอกให้เสียภาษีสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน

โดย นายคำปัน ให้การว่า ตนเองมีอาชีพทำไร่ทำสวน ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้าน เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับจดหมายจากบริษัท ซี.เอ็ม.บายเซอร์วิส (สาขาเชียงใหม่) อาคารพาณิชย์เลขที่ 399/25 หมู่ 4 5 ถ.เชียงใหม่-พร้าว ต.หนองจ๋อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ข้างตลาดรุ่งเจริญ ระบุว่า ทางร้านตนเป็นผู้โชคดีจากการจับรางวัลใบรับประกันสินค้า และขอเชิญให้ตนไปรับสินค้าสมนาคุณ ซึ่งแจกฟรีโดยไม่ต้องซื้อสินค้าใดๆ ก่อน รวมทั้งไม่มีเงื่อนไขและค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยสินค้าสมนาคุณ ประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทีวี ตู้เย็น ชุดโฮมเธียเตอร์ เป็นต้น อีกทั้งในจดหมายยังระบุว่า ตนต้องนำจดหมายฉบับนี้และบัตรประชาชนไปติดต่อที่บริษัทด้วยคตนเองในเวลาทำการ 10.00-18.00 น.ไม่เว้นวันหยุดราชการ

หลังได้รับจดหมาย ตนจึงเดินทางไปที่บริษัทพร้อมครอบครัว เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยบริษัทดังกล่าวเป็นตึกแถว 3 ชั้น ประตูทางเข้าเป็นกระจกเลื่อนติดฟิล์มดำ มองไม่เห็นด้านใน ภายในมีพนักงาน 6-7 คน ทำงานอยู่ ขณะที่มุมห้องด้านหนึ่งมีการจัดโต๊ะวางเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เอาไว้ เมื่อตนเข้าไปในบริษัทได้มีหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาสอบถามว่ามาติดต่อเรื่องอะไร ตนจึงนำจดหมายให้หญิงสาวคนดังกล่าวดู

พร้อมทั้งแจ้งว่าเป็นผู้โชคดีจากการแจ้งข่าวของบริษัท พนักงานหญิงคนดังกล่าวจึงได้ชี้แจงกับตนว่า ผู้โชคดีจะมีสิทธิจับรางวัล 3 ครั้ง เพื่อชิงรางวัล ซึ่งประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ตนจึงทำการจับรางวัลใบแรก แต่ไม่ได้รับรางวัลใดๆ ในครั้งที่สอง จึงได้ให้ภรรยาเป็นผู้จับรางวัลบ้าง ปรากฏว่า ได้รางวัลเป็นชุดโฮมเธียเตอร์ชุดใหญ่ อีกทั้งยังได้เครื่องเล่นดีวีดี และหม้อหุงข้าวขนาด 1.5 ลิตรอีกด้วย

นายคำปัน กล่าวต่อไปว่า หลังจากจับรางวัลดังกล่าวได้ พนักงานหญิงคนดังกล่าวได้อ้างว่าชุดโฮมเธียเตอร์ของรางวัลนั้น เป็นผลิตภัณฑ์ในเครือของยามาฮ่า ราคา 66,000 บาท ซึ่งยังไม่ออกวางจำหน่ายในท้องตลาด เพราะเป็นสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุด อย่างไรก็ตาม ผู้โชคดีได้รับรางวัลต้องเสียภาษีร้อยละ 30 ในราคา 19,900 บาท ด้วยความดีใจที่ได้รับรางวัลใหญ่ ตนจึงออกไปถอนเงินจากธนาคารมาจ่ายค่าภาษีดังกล่าว

นอกจากนี้ พนักงานหญิงคนดังกล่าวยังบอกด้วยว่า บริษัทจะคืนเงินภาษีร้อยละ 25 ให้ในการจัดงานของบริษัทที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 ก.ย.2555 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ซึ่งในงานดังกล่าวยังจะมีการแจกทองหนัก 3 บาทให้กับตน พร้อมทั้งแจกคูปองมูลค่า 10,000 บาทเพื่อใช้ซื้อสินค้าราคาถูกภายในงาน อีกทั้งยังจะมีการจับสลากชิงราวัลรถยนต์โตโยต้าวีโก้ในงานอีกด้วย

ขณะเดียวกัน พนักงานหญิงคนนี้ยังกำชับตนว่าให้เก็บจดหมายที่บริษัทส่งถึงไว้ให้ดี หากได้ครบ 4 ฉบับแล้ว สามารถนำมาแลกรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ ฟรีหนึ่งคัน แต่มีข้อแม้ว่าห้ามนำสินค้าที่ได้ไปจำนำหรือขาย และห้ามพูดให้ร้ายบริษัทเด็ดขาด หากบริษัทตรวจพบว่ามีการขาย หรือจำนำสินค้า หรือพูดในทางที่ไม่ดีเกี่ยวกับบริษัทจะยกเลิกสิทธิพิเศษทุกอย่าง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังนำชุดโฮมเธียเตอร์ดังกล่าวกลับมาใช้ที่บ้าน พบว่า เป็นของที่ไม่ได้มาตรฐาน สัญญาณไม่ชัด และยี่ห้อยังทำขึ้นมาโดยไม่ใช่ยี่ห้อ แต่ใช้ชื่อว่ามิคาโด้ จึงคิดว่า ตนน่าจะถูกหลอก จึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความกับ สคบ.และดีเอสไอดังกล่าว

ด้าน นายชาติชาย โทสินธิติ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวน่าจะเป็นเครือข่ายหลอกขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยอาศัยวิธีการทำทีส่งจดหมายไปยังผู้รับว่าเป็นผู้โชคดี และให้ติดต่อกลับมายังทางบริษัทเพื่อรับรางวัล แต่การรับรางวัลนั้นจะต้องเสียภาษีให้กับบริษัทก่อน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา

โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.5 ขอหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่เพื่อเข้าตรวจสอบบริษัทดังกล่าวอยู่ โดยเตรียมที่จะเข้าไปตรวจสอบในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.) ซึ่งจากการส่งเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเข้าไปตรวจสอบเมื่อวานนี้ พบว่า บริษัทดังกล่าวยังคงเปิดให้บริการอยู่ตามปกติ

นายชาติชาย กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ที่สงสัยว่าถูกบริษัทดังกล่าวต้มตุ๋นหลอกลวง สามารถแจ้งความดำเนินการเอาผิดเพิ่มเติมได้ที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ หากตรวจพบว่าสินค้าที่บริษัทดังกล่าวนำมาเป็นรางวัลนั้นเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะเดียวกัน ขอแจ้งเตือนประชาชนว่าหากได้รับจดหมายดังกล่าว ให้สงสัยอาจกำลังถูกหลอกลวง โดยสามารถปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และทาง สคบ.เชียงใหม่ ได้ในวันและเวลาราชการ



กำลังโหลดความคิดเห็น