เร่งเสริมความรู้ด้านกฏหมายตำรวจท่องเที่ยว รับมืออาชญากร ที่จะมีเพิ่มขึ้นหลังเปิดเสรีอาเซียน
พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับ หน่วยงานตำรวจ อาทิ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจทางหลวง กองตำรวจรถไฟ กองบังคับการตำรวจน้ำ เข้ารับการอบรมจากนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 ในรูปแบบการจัดเสวนา เรื่อง
องค์ความรู้ด้านกฎหมายที่สามารถปฏิบัติได้ภายใต้กรอบอาเซียน จุดประสงค์เพื่อรองรับการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะมีมากขึ้นภายหลังการเปิดเสรีอาเซียน และ เป้าหมายของรัฐบาลที่วางไว้ภายในปีดังกล่าวจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน สร้างรายได้ 2 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้เพราะอัตรากำลังของตำรวจท่องเที่ยว ปัจจุบันมี 987 คนทั่วประเทศในจำนวนนี้เป็นตำรวจที่คอยตรวจตราในพื้นที่ต่างๆ 600 กว่าคน ทั้งที่ การวิเคราะห์อัตรากำลังตั้งแต่ปี 2536 ระบุว่า ควรจะมีตำรวจท่องเที่ยวทั้งหมด 1,759 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทยขณะนั้นที่ 6-7 ล้านคนเท่านั้น อย่างไรก็ตามกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวได้โควต้า
บรรจุอัตรากำลังได้เพิ่มเป็น 1,036 ตำแหน่ง ทยอยปรับขึ้นใน 3 ปี ซึ่งระหว่างนี้หากกำลังไม่พอก็จะใช้วิธีการทำงานร่วมกับตำรวจท้องถิ่น และตำรวจกองอื่นๆ ไปก่อน
" ภายในปี 2558 ซึ่งไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จำนวนนักท่องเที่ยวก็ต้องมีเพิ่มขึ้น เพราะไทยจะเป็นศูนย์กลางและเดินทางต่อไปยังประเทศใกล้เคียง ซึ่งแน่นอนต้องมีกลุ่มมิจฉาชีพ แฝงตัวมาในรูปแบบนักท่องเที่ยว เข้ามาหลอกลวงคนไทย และ ชาวต่างชาติ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมทั้งกำลังพลและความรู้แก่บุคคลกร เพื่อรับมือปัญหาอาชญากรรม
และอาชญากร ที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจท่องเที่ยวอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลการก่ออาชญากรรมรูปแบบต่างๆ ใหม่ๆ ให้มากที่สุด โดยเฉพาะประเทศที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ
ล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมมือกับสมาคมอัญมณีและเครื่องประดับ จัดลงนามในบันทึกข้อตกลง(เอ็มโอยู) ทำเครื่องหมายรับรองคุณภาพให้ร้านอัญมณีและเครื่องประดับ และรับรองคืนเงินให้นักท่องเที่ยว 100% กรณีที่ถุกหลอกให้ซื้อสินค้าไม่มีคุณภาพ โครงการนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาจับจ่ายซื้อเครื่องประดับอัญมณี และเมื่อมั่นใจก็จะผลักดันให้มียอดขายเพิ่มขึ้น เบื้องต้นยังได้มอบตรารับรองร้านขายอัญมณีกับสมาชิก 50-60 ร้านที่เข้าร่วมโครงการ และจะทยอยใช้กับสมาชิกทั้งหมด 128 ร้าน
พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับ หน่วยงานตำรวจ อาทิ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจทางหลวง กองตำรวจรถไฟ กองบังคับการตำรวจน้ำ เข้ารับการอบรมจากนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 ในรูปแบบการจัดเสวนา เรื่อง
องค์ความรู้ด้านกฎหมายที่สามารถปฏิบัติได้ภายใต้กรอบอาเซียน จุดประสงค์เพื่อรองรับการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะมีมากขึ้นภายหลังการเปิดเสรีอาเซียน และ เป้าหมายของรัฐบาลที่วางไว้ภายในปีดังกล่าวจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน สร้างรายได้ 2 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้เพราะอัตรากำลังของตำรวจท่องเที่ยว ปัจจุบันมี 987 คนทั่วประเทศในจำนวนนี้เป็นตำรวจที่คอยตรวจตราในพื้นที่ต่างๆ 600 กว่าคน ทั้งที่ การวิเคราะห์อัตรากำลังตั้งแต่ปี 2536 ระบุว่า ควรจะมีตำรวจท่องเที่ยวทั้งหมด 1,759 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทยขณะนั้นที่ 6-7 ล้านคนเท่านั้น อย่างไรก็ตามกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวได้โควต้า
บรรจุอัตรากำลังได้เพิ่มเป็น 1,036 ตำแหน่ง ทยอยปรับขึ้นใน 3 ปี ซึ่งระหว่างนี้หากกำลังไม่พอก็จะใช้วิธีการทำงานร่วมกับตำรวจท้องถิ่น และตำรวจกองอื่นๆ ไปก่อน
" ภายในปี 2558 ซึ่งไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จำนวนนักท่องเที่ยวก็ต้องมีเพิ่มขึ้น เพราะไทยจะเป็นศูนย์กลางและเดินทางต่อไปยังประเทศใกล้เคียง ซึ่งแน่นอนต้องมีกลุ่มมิจฉาชีพ แฝงตัวมาในรูปแบบนักท่องเที่ยว เข้ามาหลอกลวงคนไทย และ ชาวต่างชาติ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมทั้งกำลังพลและความรู้แก่บุคคลกร เพื่อรับมือปัญหาอาชญากรรม
และอาชญากร ที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจท่องเที่ยวอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลการก่ออาชญากรรมรูปแบบต่างๆ ใหม่ๆ ให้มากที่สุด โดยเฉพาะประเทศที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ
ล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมมือกับสมาคมอัญมณีและเครื่องประดับ จัดลงนามในบันทึกข้อตกลง(เอ็มโอยู) ทำเครื่องหมายรับรองคุณภาพให้ร้านอัญมณีและเครื่องประดับ และรับรองคืนเงินให้นักท่องเที่ยว 100% กรณีที่ถุกหลอกให้ซื้อสินค้าไม่มีคุณภาพ โครงการนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาจับจ่ายซื้อเครื่องประดับอัญมณี และเมื่อมั่นใจก็จะผลักดันให้มียอดขายเพิ่มขึ้น เบื้องต้นยังได้มอบตรารับรองร้านขายอัญมณีกับสมาชิก 50-60 ร้านที่เข้าร่วมโครงการ และจะทยอยใช้กับสมาชิกทั้งหมด 128 ร้าน
