ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เลี้ยงวัวลูกผสมสามสายพันธุ์ ทั้งพันธุ์ชาโชเลย์ พันธุ์บรามัน และวัวพื้นบ้าน ด้วยเปลือกข้าวโพด โตเร็ว เนื้อดีกว่าเลี้ยงด้วยหญ้าธรรมชาติ ปลอดโรค และขายได้ราคาดีเป็นที่ต้องการของตลาด
วันนี้ (12 มิ.ย.) เกษตรกรในพื้นที่ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เลี้ยงวัวลูกผสมสามสายพันธุ์ ทั้งพันธุ์ชาโชเลย์ พันธุ์บรามัน และวัวพื้นบ้าน โดยใช้เปลือกข้าวโพดเป็นอาหาร ทำให้โตเร็ว คุณภาพเนื้อดีกว่ากินหญ้าตามธรรมชาติ และยังปลอดโรค ใช้เวลาเลี้ยงสั้น และขายได้ราคาเป็นที่ต้องการของตลาด
นายรีนัน ฝะสกุล อายุ 41 ปี เกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ ม.1 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งหันมาเลี้ยงวัวลูกผสมสามสายพันธุ์จำนวน 10 ตัว บอกว่า วิธีการเลี้ยงวัวลูกผสมสามสายพันธุ์ จะนำพ่อพันธุ์วัวพันธุ์ชาโชเลย์ มาผสมกับแม่พันธุ์วัวพันธุ์บรามัน และแม่พันธุ์ของวัวพื้นบ้าน รวมทั้งใช้พ่อพันธุ์วัวพื้นบ้านผสมกับแม่พันธุ์วัวพันธุ์บรามัน ซึ่งลูกที่ออกมาจะโตกว่าวัวพื้นบ้าน และวิธีการเร่งให้โตเร็ว จะใช้เปลือกข้าวโพดอ่อนมาเป็นอาหารแทนหญ้าธรรมชาติ เนื่องจากมีโปรตีนสูง โดยจะให้กินเช้าและเย็น ที่สำคัญวัวจะชอบกินกว่าหญ้าธรรมชาติทันทีที่เทใส่ท่อจะเข้ามาแย่งกันกินอย่างอร่อย
สำหรับข้อดีของการเลี้ยงวัวลูกผสมสามสายพันธ์ด้วยเปลือกข้าวโพด นอกจากจะโตเร็วแล้ว ยังปลอดภัยจากโรค โดยเฉพาะโรคพยาธิซึ่งมักจะพบในหญ้าธรรมชาติ การขับถ่ายคล่องเครื่องในสะอาด ปริมาณเนื้อมาก ร่นระยะเวลาการเลี้ยง ขายได้ราคากว่าวัวพื้นบ้าน โดยลูกวัวที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปี จะขายได้ตัวละ 8,000-10,000 บาท และวัวรุ่นอายุ 2 ปี อยู่ที่ตัวละ 20,000 บาท ขณะที่วัวพันธุ์พื้นบ้านลูกวัวจะอยู่ที่ตัวละ 6,000 บาท ส่วนวัวรุ่นประมาณ 15,000 บาท ซึ่งราคาจะแตกต่างกันประมาณ 3,000-5,000 บาท ที่สำคัญวัวพันธุ์ลูกผสมจะโตเร็วกว่าวัวพื้นบ้านประมาณ 2 เดือน