ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ -อดีตอาจารย์ภาควิชาชีวเคมี รั้ว มอ.หาดใหญ่ จับกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ตราดินดี มาแล้ว 8 เดือน โดยควบคุมคุณภาพตามหลักวิชาการ และใช้เทคโนโลยีสีเขียว และมีจุลินทรีย์ช่วยยับยั้งเชื้อราต้นเหตุโรครากเน่า ด้วยกำลังการผลิตวันละ 10 ตัน เผยทดลองใช้ในสวนยางเริ่มต้นพบว่าทำให้น้ำยางเพิ่มขึ้น 12%
“ปุ๋ยอินทรีย์” กำลังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชโดยไม่ต้องการให้สารเคมีตกค้างในผลผลิต และทำลายคุณภาพของดิน อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าปุ๋ยเคมี ทว่า ปุ๋ยอินทรีย์ในตลาดนั้นยังมีการปลอมปน ทำให้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เกษตรกรขาดความเชื่อมั่น
ดร.อุตส่าห์ จันทร์อำไพ อดีตอาจารย์ภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (มอ.) เปิดเผยว่า แม้ว่าเกษตรกรจะหันมาสนใจเรื่องของปุ๋ยอินทรีย์ และตลาดยังเติบโตได้อีกมาก แต่ยอมรับว่าเรื่องของการควบคุมคุณภาพของผู้ผลิตนั้น ยังเป็นจุดอ่อนหนึ่ง ทำให้มีความสนใจที่จะผลิตปุ๋ยให้แก่เกษตรกรได้ใช้ในราคาถูก และมีต้นทุนค่าขนส่งน้อย ประกอบกับขณะที่ได้เป็นอาจารย์ของ มอ.หาดใหญ่ ได้ทำการวิจัยเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ และได้ริเริ่มดำเนินการเอง ผลิตปุ๋ยอินทรีย์เกรดพรีเมียม ตราดินดี ในนามบริษัท กรีเทค 074 จำกัด หลังจากที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มนักธุรกิจและบุคลากรที่มีประสบการณ์ด้านงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์
“ตอนที่ทำงานวิจัยก็ยังเป็นงานวิชาการ แต่เมื่อนำมาใช้ก็ต้องปรับให้เหมาะสม ทั้งเรื่องวัตถุดิบที่มีในพื้นที่ ซึ่งต้องหามีอยู่ในพื้นที่ ผนวกกับเทคโนโลยีสีเขียวซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ สูตรของปุ๋ยจึงถูกสร้างขึ้นใหม่โดยไม่มีส่วนผสมของดิน แม่ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้ความร้อนในการผลิต จึงมีปริมาณอินทรียวัตถุไม่ต่ำกว่า 35%” ดร.อุตส่าห์ กล่าวต่อ และว่า
วัตถุดิบหลักของปุ๋ยดินดีส่วนใหญ่มาจากในพื้นที่ เช่น เปลือกไม้ยางพารา หัวกุ้ง ถ่านไม้ ขี้ค้างคาว แร่ธาตุตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของขี้แป้งจากโรงงานน้ำยางข้น จุลินทรีย์จากบ่อบำบัดน้ำเสีย ไขมันบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นของเสียของโรงงานที่ยังไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์ โดยขั้นตอนการผลิตนั้น จะผ่านกระบวนการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์จากธรรมชาติเพื่อย่อยสารอินทรีย์ และเพิ่มจุลินทรีย์ด้วยการฉีดน้ำระหว่างการปั้นเม็ด และลดความชื้นด้วยการผึ่งลม และเป็นการปล่อยให้จุลินทรีย์ได้เติบโตก่อนจะบรรจุถุงจำหน่ายอีกด้วย ซึ่งแต่ละขั้นตอนนั้นมีการเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมี และจุลินทรีย์เป็นระยะทั้งในแล็บของ มอ.หาดใหญ่ และบริษัทเอกชน
ทั้งนี้ นอกจากจะได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่อุดมด้วยจุลินทรีย์ซึ่งช่วยปรับสภาพดินตามธรรมชาติแล้ว ยังประกอบด้วยจุลินทรีย์กลุ่มที่ผลิตเอนไซม์ไคติเนส (chitinase) ซึ่งสามารถทำลายผนังเซลล์ของเชื้อราที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคเน่ากับยางพารา และพืชอื่นๆ อีกด้วย
ดร.อุตส่าห์ กล่าวว่า สำหรับปุ๋ยอินทรีย์ ตราดินดี ประกอบด้วย 1 สูตร คือ ปุ๋ยสูตร 1 ประกอบด้วย ไนโตรเจน 1.0-1.5% และฟอสฟอรัส 1.0-2.0% เหมาะสำหรับการเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต และความแข็งแรงของลำต้น และใบในระยะเริ่มปลูกจนเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น ยางพารา ปาล์ม ผัก หรือไม้ผล
ปุ๋ยสูตร 2 ประกอบด้วยไนโตรเจน 0.8-1.2% และฟอสฟอรัส 1.5-3.0% เหมาะสำหรับการเลี้ยงลำต้น ดอก ผล และใบ ในระยะเก็บเกี่ยวผลผลิตของยางพารา หรือปาล์ม หรือบำรุงดอกและผลสำหรับไม้ผล และปุ๋ยสูตรพิเศษ ประกอบด้วยไนโตรเจน 1.0-1.5% และฟอสฟอรัส 1.5-2.5% เหมาะสำหรับไม้ดอกไม้ประดับ นาข้าว และการเพาะปลูกทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางบริษัทเดินเครื่องผลิตมาแล้วร่วม 8 เดือน ด้วยกำลังการผลิตวันละ 10 ตัน ซึ่งสามารถรองรับการใช้ในพื้นที่ราว 4,000 ไร่ โดยที่ยังไม่มีการทำตลาดจึงยังไม่ถึงมือเกษตรกรรายย่อย มีเพียงกลุ่มเพื่อนๆ คนรู้จักซื้อไปใช้ ทั้งในภาคใต้ และ จ.เชียงราย ซึ่งผลตอบรับของสวนยางขณะนี้พบว่า ทำให้น้ำยางเพิ่มขึ้น 12% เปลือกยางนิ่มขึ้น และประหยัดต้นทุนค่าปุ๋ยได้ถึง 30%
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้อ เป็นตัวแทนจำหน่าย สามารถติดต่อได้ที่ บริษัท กรีนเทค 074 จำกัด เลขที่ 177/4 ม.10 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โทร 0-7447-2091-3