สุราษฎร์ธานี - สถานการณ์น้ำป่าจาก 2 อุทยานแห่งชาติในจังหวัดสุราษฎร์ธานียังคงวิกฤต ชาวบ้านที่ดินถล่มปิดเส้นทางยังคงเดินเท้าออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สภาพอากาศมีฝนตกตลอด ล่าสุด น้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาไหลบ่าระลอก 2 ท่วมทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสกรถผ่านไม่ได้
จากกรณีฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงและน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาสก ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอวิภาวดี อำเภอพนม อำเภอบ้านตาขุน อำเภอท่าฉาง
วันนี้ (8 มิ.ย.) ชาวบ้านจากชุมชนคลองชุน หมู่ที่ 13 ตำบลตระกุกเหนือ ต้องเดินเท้าออกจากพื้นที่อย่างยากลำบาก เนื่องจากต้องเดินลุยโคลนที่ดินจากภูเขาถล่มลงปิดกั้นเส้นทางที่สูงกว่าระดับเข่าออกจากพื้นที่
ในขณะเดียวกัน นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล นายอำเภอวิภาวดี ได้ลงพื้นที่ตรวจจุดเตือนภัยของกรมทรัพฯ ที่บ้านคลองมุย หมู่ที่ 13 พบว่า ใช้การไม่ได้ เนื่องจากในพื้นที่ไฟฟ้าดับติดต่อกันมาเป็นวันที่ 3 แล้ว ชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากมีดินถล่มลงมาทับสายไฟฟ้าขาด
พร้อมกันนี้ นายอำเภอยังได้เรียกประชุมทำความเข้าใจกับชาวบ้าน 60 ครัวเรือนที่ตั้งอยู่ในหุบเขา และเป็นจุดเสี่ยงรับน้ำป่า และดินโคลนถล่มให้เตรียมพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ และขอความร่วมมือให้เชื่อฟังคำเตือนของทางราชการ หากมีการตรวจพบปริมาณน้ำฝนเกินจาก 150 มิลลิเมตร
ส่วนสภาพอากาศในพื้นที่ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และมีรายงานว่า น้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาสกได้ไหลบ่าลงรอบ 2 ท่วมเส้นทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสกรถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ร้านค้าบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายจำนวนมากเนื่องน้ำมาเร็ว และรุนแรงกว่าเดิม
จากกรณีฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงและน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาสก ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอวิภาวดี อำเภอพนม อำเภอบ้านตาขุน อำเภอท่าฉาง
วันนี้ (8 มิ.ย.) ชาวบ้านจากชุมชนคลองชุน หมู่ที่ 13 ตำบลตระกุกเหนือ ต้องเดินเท้าออกจากพื้นที่อย่างยากลำบาก เนื่องจากต้องเดินลุยโคลนที่ดินจากภูเขาถล่มลงปิดกั้นเส้นทางที่สูงกว่าระดับเข่าออกจากพื้นที่
ในขณะเดียวกัน นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล นายอำเภอวิภาวดี ได้ลงพื้นที่ตรวจจุดเตือนภัยของกรมทรัพฯ ที่บ้านคลองมุย หมู่ที่ 13 พบว่า ใช้การไม่ได้ เนื่องจากในพื้นที่ไฟฟ้าดับติดต่อกันมาเป็นวันที่ 3 แล้ว ชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากมีดินถล่มลงมาทับสายไฟฟ้าขาด
พร้อมกันนี้ นายอำเภอยังได้เรียกประชุมทำความเข้าใจกับชาวบ้าน 60 ครัวเรือนที่ตั้งอยู่ในหุบเขา และเป็นจุดเสี่ยงรับน้ำป่า และดินโคลนถล่มให้เตรียมพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ และขอความร่วมมือให้เชื่อฟังคำเตือนของทางราชการ หากมีการตรวจพบปริมาณน้ำฝนเกินจาก 150 มิลลิเมตร
ส่วนสภาพอากาศในพื้นที่ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และมีรายงานว่า น้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาสกได้ไหลบ่าลงรอบ 2 ท่วมเส้นทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสกรถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ร้านค้าบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายจำนวนมากเนื่องน้ำมาเร็ว และรุนแรงกว่าเดิม