สุราษฎร์ธานี - สถานการณ์น้ำป่าจาก 2 อุทยานแห่งชาติในจังหวัดสุราษฎร์ธานียังคงน่าห่วง ถึงแม้ฝนทิ้งช่วง น้ำที่ท่วมขังลดลงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านเริ่มทำความสะอาดบ้านเรือน ในขณะที่ อบจ.ส่งเครื่องมือจักรกลหนักเข้าซ่อมแซมคอสะพานที่ขาดแล้ว และมีรายงานเมื่อคืนที่ผ่านมา ดินจากภูเขาถล่มปิดเส้นทางเข้าชุมชนบ้านคลองชุน หมู่ที่ 13 ตำบลตระกุกเหนือ ประชาชนถูกตัดขาดกว่า 20 ครัวเรือน
จากกรณีฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงไหล และน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาสกไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอวิภาวดี อำเภอพนม อำเภอบ้านตาขุน อำเภอท่าฉาง
ล่าสุด ในวันนี้ (7 มิ.ย.) สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หลายพื้นที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากฝนทิ้งช่วงหยุดตกเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนที่บ้านปากลาง (ปาก-ลาง) หมู่ที่ 3 ตำบลตระกุกใต้ อ.วิภาวดี ระดับน้ำได้ลดลงจากเมื่อวานประมาณ 2.50 เมตร แต่ระดับน้ำยังคงท่วมขังอยู่ที่ 1-3 ในที่ลุ่ม ชาวบ้านส่วนหนึ่งเริ่มทยอยเข้าทำความสะอาดบ้านเรือนของตนเอง
ด้านนายวิทยา โสมะเกิด กำนันตำบลตระกุกใต้ได้กล่าวว่า หากฝนไม่ตกลงมาคาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเย็นของวันนี้ สำหรับในพื้นที่ตำบลตระกุกใต้ มีผู้ประสบภัยกว่า 300 ครัวเรือน ประมาณ 1,500 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 3,000 ไร่
ในขณะเดียวกัน องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้จัดส่งเครื่องจักรกลหนักเข้าซ่อมแซมคอสะพาน ข้ามคลองแจะ ถนนสายบ้านคลองวาย-วิภาวดี สามารถใช้สัญจรได้ตามปกติแล้ว ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า มีดินจากภูเขาถล่มปิดทับเส้นทางเข้าชุมชนหมู่บ้านคลองชุน หมู่ที่ 13 ตำบลตระกุกเหนือ มีราษฎรถูกตัดขาดกว่า 20 ครัวเรือน
ส่วนสภาพอากาศถึงแม้ฝนจะทิ้งช่วงหยุดตกเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ในเช้าวันนี้ ท้องฟ้ามีเมฆปกคลุมหนาแน่น และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมเฝ้าระมัดระวังติดตามการพยากรณ์อากาศของอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และขอให้เชื่อฟังคำเตือนของทางราชการ และผู้นำชุมชน
จากกรณีฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงไหล และน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาสกไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอวิภาวดี อำเภอพนม อำเภอบ้านตาขุน อำเภอท่าฉาง
ล่าสุด ในวันนี้ (7 มิ.ย.) สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หลายพื้นที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากฝนทิ้งช่วงหยุดตกเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนที่บ้านปากลาง (ปาก-ลาง) หมู่ที่ 3 ตำบลตระกุกใต้ อ.วิภาวดี ระดับน้ำได้ลดลงจากเมื่อวานประมาณ 2.50 เมตร แต่ระดับน้ำยังคงท่วมขังอยู่ที่ 1-3 ในที่ลุ่ม ชาวบ้านส่วนหนึ่งเริ่มทยอยเข้าทำความสะอาดบ้านเรือนของตนเอง
ด้านนายวิทยา โสมะเกิด กำนันตำบลตระกุกใต้ได้กล่าวว่า หากฝนไม่ตกลงมาคาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเย็นของวันนี้ สำหรับในพื้นที่ตำบลตระกุกใต้ มีผู้ประสบภัยกว่า 300 ครัวเรือน ประมาณ 1,500 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 3,000 ไร่
ในขณะเดียวกัน องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้จัดส่งเครื่องจักรกลหนักเข้าซ่อมแซมคอสะพาน ข้ามคลองแจะ ถนนสายบ้านคลองวาย-วิภาวดี สามารถใช้สัญจรได้ตามปกติแล้ว ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า มีดินจากภูเขาถล่มปิดทับเส้นทางเข้าชุมชนหมู่บ้านคลองชุน หมู่ที่ 13 ตำบลตระกุกเหนือ มีราษฎรถูกตัดขาดกว่า 20 ครัวเรือน
ส่วนสภาพอากาศถึงแม้ฝนจะทิ้งช่วงหยุดตกเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ในเช้าวันนี้ ท้องฟ้ามีเมฆปกคลุมหนาแน่น และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมเฝ้าระมัดระวังติดตามการพยากรณ์อากาศของอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และขอให้เชื่อฟังคำเตือนของทางราชการ และผู้นำชุมชน