สุราษฎร์ธานี - น้ำป่าจาก 2 อุทยานแห่งชาติขยายพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง สร้างความเสียหายเพิ่มเป็น 6 อำเภอ ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศให้พื้นที่ 6 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ว
จากกรณีน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง และน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาสก ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอไชยา ท่าชนะ วิภาวดี และอำเภอพนม ล่าสุด น้ำป่าได้ขยายพื้นที่เข้าท่วมอีก 2 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบ้านตาขุน อำเภอท่าฉาง รวมเป็น 6 อำเภอ
ด้านนายมนตรี เพชรขุ้ม นายก อบจ.สุราษฎร์ธานีลงสำรวจพื้นที่ อำเภอวิภาวดี พบคอสะพานข้ามคลองถนนสายบ้านคลองวาย วิภาวดีขาด สะพานแขวนไม้สลิงข้ามคลองยันระยะทางยาว 80 เมตร บริเวณบ้านบางไต หมู่ที่ 16 ตำบลตระกุกเหนือ ถูกกระแสน้ำพัดขาดเสียหายใช้การไม่ได้ ราษฎรกว่า 500 ครัวเรือนถูกตัดขาด
นอกจากนั้น ที่บ้านปากลาง (ปาก-ลาง) หมู่ที่ 3 ถึงหมู่ที่ 9 ตำบลตระกุกใต้ บ้านเรือนราษฎรกว่า 300 ครัวเรือน พืชสวนการเกษตร สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน ถูกน้ำท่วมขังระดับสูงตั้งแต่ 3-5 เมตร ทางการได้อพยพราษฎรไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว และมีบางส่วนยังไม่ยินยอมทิ้งบ้านเรือน เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน
ด้านนายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้สรุปความเสียหายในเบื้องต้น มีผู้ประสบภัย 16 ตำบล 99 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนจำนวน 8,500 ครัวเรือน 27,838 คน และล่าสุด ทางจังหวัดได้ประกาศให้ทั้ง 6 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว
จากกรณีน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง และน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาสก ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอไชยา ท่าชนะ วิภาวดี และอำเภอพนม ล่าสุด น้ำป่าได้ขยายพื้นที่เข้าท่วมอีก 2 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบ้านตาขุน อำเภอท่าฉาง รวมเป็น 6 อำเภอ
ด้านนายมนตรี เพชรขุ้ม นายก อบจ.สุราษฎร์ธานีลงสำรวจพื้นที่ อำเภอวิภาวดี พบคอสะพานข้ามคลองถนนสายบ้านคลองวาย วิภาวดีขาด สะพานแขวนไม้สลิงข้ามคลองยันระยะทางยาว 80 เมตร บริเวณบ้านบางไต หมู่ที่ 16 ตำบลตระกุกเหนือ ถูกกระแสน้ำพัดขาดเสียหายใช้การไม่ได้ ราษฎรกว่า 500 ครัวเรือนถูกตัดขาด
นอกจากนั้น ที่บ้านปากลาง (ปาก-ลาง) หมู่ที่ 3 ถึงหมู่ที่ 9 ตำบลตระกุกใต้ บ้านเรือนราษฎรกว่า 300 ครัวเรือน พืชสวนการเกษตร สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน ถูกน้ำท่วมขังระดับสูงตั้งแต่ 3-5 เมตร ทางการได้อพยพราษฎรไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว และมีบางส่วนยังไม่ยินยอมทิ้งบ้านเรือน เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน
ด้านนายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้สรุปความเสียหายในเบื้องต้น มีผู้ประสบภัย 16 ตำบล 99 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนจำนวน 8,500 ครัวเรือน 27,838 คน และล่าสุด ทางจังหวัดได้ประกาศให้ทั้ง 6 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว