สุราษฎร์ธานี - ฝนที่ตกหนักติดต่อกัน 2 วันส่งผลให้น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง และอุทยานแห่งชาติเขาสกไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ สร้างความเสียหายจำนวนมากทั้งถนน คอสะพาน ดินถล่มปิดเส้นทาง ชาวบ้านกว่า 600 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ
จากกรณีที่มีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาเป็นเวลา 2 วัน ส่งผลให้น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านซอยเวียงชัยหมู่ที่ 7 ถนนเชื่อมหมู่บ้านถูกตัดขาด และสะพานข้ามคลองท่าไม้แดงบริเวณบ้านพรุยายชี หมู่ที่ 4 ตำบลปากหมาก อำเภอไชยา ได้รับความเสียหายบางส่วนรถผ่านไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากดินคอสะพานถูกกระน้ำกัดเซาะ เจ้าหน้าที่ อบต.ปากหมากได้อพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซอยเวียงชัยจำนวน 7 ครอบครัวมาอยู่ในที่ปลอดภัย
นายศิริพัฒ พัฒกุล ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงยังไหลบ่าสร้างความเสียหายในพื้นที่ หมู่ที่ 13 บ้านคลองมุย ต.กระกุกเหนือ อำเภอวิภาวดีมีคอสะพานข้ามคลองแจะขาด ดินถล่มปิดเส้นทาง ชาวบ้านในหมู่ที่ 13 ถูกตัดขาดกว่า 100 ครัวเรือน นอกจากนั้นน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาสกได้ไหลบ่าลงคลองสก ส่งผลกระทบบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่ริมคลองสกในพื้นที่ ตำบลเขาสก อำเภอพนมได้รับความเดือดร้อนกว่า 20 ครัวเรือน
นอกจากนั้น น้ำป่าได้ไหลลงสู่พื้นที่ตำบลน้ำหัก ตำบลท่าขนอน ตำบลบ้านยาง อำเภอคีรีรัฐนิคม มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 ครัวเรือน ทางเจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
ในขณะที่ทางจังหวัดได้ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรง เตรียมพร้อมอพยพหากสถานการณ์รุนแรง เนื่องจากทาง อุตุนิยมวิทยาตรวจพบกลุ่มฝนหนาแน่นในพื้นที่อำเภอไชยา ท่าชนะ วิภาวดี และอำเภอพนม
ส่วนปริมาณฝนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาหลายพื้นที่ วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร เช่น ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี วัดได้ 141 มิลลิเมตร อ.บ้านตาขุน วัดได้ 105 มิลลิเมตร ที่ ต.ปากหมากวัดได้ 117 มิลลิเมตร