ยะลา - กลุ่มวิสาหกิจชุมชน จ.ยะลา นำแนวทางพระราชดำริของพ่อหลวง จัดตั้งธนาคารน้ำมันผลิตไบโอดีเซลสู้วิกฤตน้ำมันแพง วอนรัฐช่วยหนุน เพียงให้รถในราชการหันมาใช้น้ำมันไบโอดีเซล ช่วยกระจายผลผลิตสู่ท้องตลาด และเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย
ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน โครงการตามแนวพระราชดำริ ไบโอดีเซล เลขที่ 85/7 หมู่ 1 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจระดับชุมชน ที่คนในชุมชนได้มีการรวมตัวกัน เพื่อก่อตั้งโครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการนำของนายยศพล บุนนาค หัวหน้ากลุ่มที่ริเริ่มก่อตั้งธนาคารน้ำมันจากสมาชิกที่มีอยู่เพียง 9 คน เมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา
นายยศพล บุนนาค เล่าถึงความเป็นมาของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไบโอดีเซล ตามโครงการพระราชดำริให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่จะจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตนเองได้เปิดร้านขายอาหาร และอาของตนเองได้แนะนำให้เก็บน้ำมันที่ผ่านการทอดอาหารจากการค้าขายไว้อย่าเททิ้ง เพราะมันสามารถจะนำไปรีไซเคิลเป็นน้ำมันไบโอดีเซลได้ ซึ่งแรกๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่อาก็ได้ชักชวนให้ตนเองไปดูกลุ่มที่ผลิตไบโอดีเซล ทั้งในพื้นที่ภาคใต้ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และในพื้นที่อื่นๆ ตนเองจึงได้เกิดความสนใจขึ้นมา อีกทั้งได้แรงบันดาลใจจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ได้ทรงชี้นำเป็นแนวทางพระราชดำริให้แก่พสกนิกรชาวไทยได้หันไปใช้พลังงานไบโอดีเซลที่จะช่วยกันประหยัด และลดสภาวะโลกร้อน
“ผมเองจึงได้รวมกุล่มกับคนในชุมชน ซึ่งขณะนั้นมีสมาชิกกลุ่มอยู่เพียง 9 คน ด้วยเงินทุนเพียงน้อยนิดในการลงทุนร่วมกัน และพื้นที่การทำงานที่ใช้ที่ดินในสวนหลังบ้าน ตนเองจึงได้นำที่ดินของแม่ไปจำนองเพื่อกู้เงินอีกก้อนกว่า 500,000 บาท ในการลงทุนทำธนาคารน้ำมัน ผลิตไบโอดีเซล ซึ่งตนเอง และสมาชิกได้เข้ารับการอบรมกระบวนการ ขั้นตอนการผลิตไบโอดีเซล จนเมื่อปี 2552 ได้จดทะเบียนเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไบโอดีเซล และมีสมาชิกในตอนนี้จำนวน 111 คน และรับซื้อน้ำมันพืชที่ผ่านการใช้งานแล้วในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และรวมไปถึง จ.สงขลา ด้วย”
นายยศพล บุนนาค กล่าวว่า ตอนนี้สมาชิกที่เข้าร่วมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไบโอดีเซลมีรายได้เสริม จากการนำน้ำมันพืชใช้แล้วมาขายให้แก่กลุ่ม หรือรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วมาขายจะมีรายได้ประมาณ 3,000-10,000 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสมาชิกบางคนก็รับซื้อน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว บางคนก็เป็นคนเปิดร้านอาหารก็นำน้ำมันที่ใช้แล้วมาขายให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนไบโอดีเซล ที่นี้ก็จะมีรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง
นายยศพล บุนนาค เปิดเผยว่า ขั้นตอนกระบวนการผลิตก็นำเอาวิชาการ และวิธีที่ไปศึกษา และผ่านการอบรมมามาลองผิดลองถูกอีกทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์บางอย่างก็ทำขึ้นเองแบบเรียบง่าย แต่ก็ใช้งานได้ดีเกินคาด ซึ่งจะมีสมาชิกในกลุ่มที่อยู่ประจำที่จุดผลิต 7-8 คน ในการช่วยกันทำงานขั้นตอนกระบวนการผลิตไบโอดีเซล ซึ่งใน 1 วัน จะมีสมาชิกของกลุ่มนำน้ำมันพืชที่ผ่านการใช้งานแล้วมาขายให้แก่กลุ่ม ประมาณ 1,000-2,000 ลิตรต่อวัน และทางกลุ่มก็สามารถที่จะผลิตน้ำมันไบโอดีเซล บี100 ได้ประมาณ 600 ลิตรต่อวัน และขายให้แก่สมาชิก หรือบุคคลทั่วไปในราคาถูกกว่า น้ำมันดีเซลในท้องตลาด ที่ลิตรละ 5 บาท ซึ่งจากการทดลองใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี100 ที่ผลิต ก็พบว่าไม่มีปัญหาใดๆ กับเครื่องยนต์ของรถยนต์กระบะที่เป็นเครื่องคอมมอนเรล
นายยศพล บุนนาค กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาบางครั้งก็ขาดสภาพคล่องบ้าง ก็อยากให้หน่วยงานของภาครัฐเข้ามาสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไบโอดีเซล โดยตนเองไม่ได้ต้องการเงินทุน เพียงแต่อยากให้หน่วยงานภาครัฐที่มีการใช้รถยนต์ได้หันมาใช้พลังงานไบโอดีเซลที่กลุ่มของตนเองได้ผลิตขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการกระจายผลผลิตสู่ท้องตลาด หรืออาจจะมีการจัดตั้งปั๊มน้ำมันไบโอดีเซลที่มีมาตรฐานให้แก่ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยลดรายจ่ายจากสภาวะน้ำมันแพง อีกทั้งช่วยลดภาวะโลกร้อนในขณะนี้ด้วย
นายยศพล บุนนาค บอกว่า สำหรับผู้ที่สนใจชมกระบวนการผลิตไบโอดีเซล ก็สามารถติดต่อเข้าชมหรือศึกษาได้ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนใบโอดีเซล เลขที่ 85/7 ม.1 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา หรือหมายเลขโทรศัพท์ 08-5782-4393