ยะลา - ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ลงนามความตกลงร่วมกับ กรมราชทัณฑ์ และ ศอ.บต. เปิดโครงการศรัทธาธรรมนำชีวิต คืนคนดี มีคุณค่า สู่สังคม โดยการช่วยเหลือแนะนำสินเชื่อ ส่งเสริมอาชีพสุจริตแก่ครอบครัว และญาติผู้ต้องขัง
วันนี้ (31 พ.ค.) ที่เรือนจำกลางยะลา ถนนสิโรรส ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา นายสมศักดิ์ รังสิโยภาส รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายพัฒนาพฤตินิสัย พร้อมด้วย นายฐานิส ศรียะพันธ์ รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ นายก่อเกียรติ วงศ์อารี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (I BANK) ได้ร่วมลงนามความตกลงลงร่วมกัน ในการช่วยเหลือ แนะนำสินเชื่อ เพื่อส่งเสริมอาชีพสุจริตแก่ครอบครัว และญาติผู้ต้องขัง ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยมี นายกิตติพัฒน์ เตชะพหุล ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา ดร.อิสมาแอลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา (วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ) เจ้าหน้าที่ธนาคารอิสลาม และเจ้าหน้าที่เรือนจำยะลา ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม
นายก่อเกียรติ วงศ์อารี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2554 กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ลงนามความตกลงร่วมกันในการจัดกิจกรรมบรรยายศาสนธรรม รวมทั้งการให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติแก่ผู้ต้องขังมุสลิม ซึ่งที่ผ่านมา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี จ.ปทุมธานี ที่ได้ประสบความสำเร็จมาแล้ว เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ในปี 2555
ทางธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้มีแผนการดำเนินการโครงการ ศรัทธาธรรมนำชีวิต ในทัณฑสถาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ เรือนจำกลางยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมดูแล และพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง เพื่อคืนคนดี มีคุณค่า สู่สังคม รวมทั้ง ศอ.บต. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการสร้างจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกื้อกูลต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสามัคคี มีทัศนคติที่ดีต่อกัน และมีคุณธรรม ภายใต้ความหลากหลายทางความคิด วิถีชีวิต ในสังคมพหุวัฒนธรรม
ดังนั้น ทั้ง 3 หน่วยงาน มีนโยบายที่สอดคล้องกันในการจัดกิจกรรม เพื่อพัฒนาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเป้าหมายในการจัดกิจกรรมบรรยายศาสนธรรมแก่ผู้ต้องขังมุสลิม เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนพัฒนาทางด้านจิตใจ อารมณ์ และการมีทัศนคติที่ดี รวมทั้ง การปฏิบัติตนของผู้ต้องขังให้สอดคล้องกับหลักธรรมคำสอนทางศาสนา ในขณะที่อยู่ในทัณฑสถาน พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพ แนะนำสินเชื่อแก่ญาติผู้ต้องขัง เพื่อเปิดโอกาสให้ญาติ และครอบครัวผู้ต้องขังได้ประกอบอาชีพสุจริต มีความยั่งยืน และเป็นการรองรับการสร้างอาชีพของครอบครัวหลังจากได้รับการพ้นโทษ เพื่อคืนคนดี มีคุณค่า สู่สังคมต่อไป
