“จี้อี่” นำทีมคนหนุ่มลงชิงเก้าอี้นายกนครภูเก็ตอีกสมัย

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “จี้อี่-สมใจ สุวรรณศุภพนา” หัวหน้ากลุ่มคนหนุ่ม นำลูกทีมสมัครชิงเก้าอี้นายก-ส.ท.นครภูเก็ตคึกคัก ท่ามกลางกองเชียร์มาให้กำลังใจเพียบ ยังไร้วี่แววคู่แข่ง

วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งกำหนดให้เป็นสถานที่รับสมัครนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และสมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 21-25 พ.ค.2555 ปรากฏว่า การรับสมัครวันแรกบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีกองเชียร์ของกลุ่มคนหนุ่มเดินทางมาให้กำลังใจผู้สมัครจำนวนมาก โดยช่วงเช้ามีผู้มาลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเพียง 1 คน เท่านั้น คือ น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา หัวหน้ากลุ่มคนหนุ่ม อดีตนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต จึงได้หมายเลข 1 เป็นหมายเลขประจำตัว

ขณะที่ส่วนของผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งมีจำนวน 4 เขตเลือกตั้ง มี ส.ท.ได้เขตละ 6 คน ในส่วนของกลุ่มคนหนุ่มส่งผู้สมัครลงครบทั้ง 4 เขต ซึ่งในส่วนของเขต 1 เขต 2 และเขต 4 ไม่มีปัญหาผู้สมัครทั้ง 3 เขต ได้หมายเลขประจำตัว 1-6 ในขณะที่เขตเลือกตั้งที่ 3 มีผู้สมัครอิสระ 1 คน มาสมัครมา พร้อมกับผู้สมัครจากกลุ่มคนหนุ่ม ทำให้ต้องมาตกลงกันเรื่องของหมายเลขผู้สมัคร ซึ่งปรากฏว่า สามารถตกลงกันได้ โดยในส่วนของกลุ่มคนหนุ่มได้หมายเลข 1-6 ขณะที่ผู้สมัครอิสระ คือ นายอานันท์ ขอมงคลธารากุล ได้หมายเลข 7 ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มคนหนุ่มนั้นก่อนที่จะเดินทางมายื่นใบสมัครได้ไปไหว้ขอพรจากรูปปั้นมังกร ฮ่ายเหล็ง ที่ลานสวน 72 พรรษามหาราชินี ด้วย

นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ตั้งเป้าผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไว้ที่ประมาณ 60% จากจำนวนผู้มีสิทธิประมาณ 40,000 กว่าคน โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ในทุกรูปแบบ ทั้งการติดป้ายโฆษณา การจัดรถประชาสัมพันธ์ และการจัดขบวนรณรงค์ตามชุมชนต่างๆ

ขณะที่ น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต หมายเลข 1 กล่าวว่า นโยบายที่ใช้ยังคงเน้นการสร้างนครภูเก็ตให้เป็นนครแห่งความสุข และน่าอยู่อย่างยั่งยืน โดยเน้นต่อยอดโครงการที่ดำเนินการไว้แล้วในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ในลักษณะสร้างสรรค์และสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของการศึกษา การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพลิกฟื้นเศรษฐกิจในเมือง และเสริมสร้างอาชีพ รวมไปถึงการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมทั้งปัญหาขยะ น้ำเสีย และอื่นๆ

ผลงานในช่วงที่ผ่านมานั้นได้มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา เยาวชน ผู้สูงอายุ การดูแลสังคม การส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรม และประเพณีดั้งเดิม การตกแต่ง และจัดระเบียบเมืองด้วยการนำสายไฟฟ้าลงดิน การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสวนสาธารณะปลายแหลมสะพานหินกับโครงการเลในเมือง หรือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย รวมถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แม้จะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่ได้มีการทำงานร่วมกับเครือข่ายมากขึ้น

จากการดำเนินงานต่างๆ ที่ผ่านมา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเพื่อสร้างนครภูเก็ตให้เป็นนครแห่งความสุข และน่าอยู่อย่างยั่งยืน ส่งผลให้ได้รับรางวัลจากสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งเป็นการประเมินว่า สิ่งที่ได้ดำเนินการพัฒนาเมืองนั้น ผู้ได้รับประโยชน์ คือ ประชาชน แต่สิ่งที่ต้องทำต่อไป คือ ทำจุดอ่อนต่างๆ ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น และจุดด้อยให้เป็นจุดเด่น ส่วนที่ดีอยู่แล้วจะต้องเต็มเติม ทั้งเรื่องการศึกษา สุขภาพ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ

น.ส.สมใจ กล่าวว่า หากได้รับเลือกเข้าไปอีกครั้ง สิ่งแรกที่ต้องดำเนินการ คือ เรื่องการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญมาก นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของสิ่งแวดล้อมก็ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้จะเพิ่มความเข้มข้นในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขยะ หรือน้ำเสีย หรือน้ำประปา นอกจากนี้ จะสานต่อเรื่องการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจในเมือง รวมทั้งเพิ่มเติมในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะการปรับปรุงถนนสายต่างๆ ให้ดีขึ้น สำหรับงบประมาณของเทศบาลนครภูเก็ตมีประมาณ 500 กว่าล้านบาท แต่เงินที่เหลือสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในช่วงปี 2551 และ 2552 ไม่มีเลย เริ่มมามีในปี 2553 และ 2554 จำนวนประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งค่อนข้างน้อย เพราะท้องถิ่นจะต้องดูแลประชาชนตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน หรือตั้งแต่เกิดจนถึงตาย เนื่องจากการเมืองระดับท้องถิ่นเป็นการเมืองที่ใกล้ชิดกับประชาชนอย่างมาก