xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมฯ ต้านโลกร้อน ค้านการเคหะฯ ขายพื้นที่แก้มลิงคลองจั่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศรีสุวรรณ จรรยา (แฟ้มภาพ)
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์ ค้านการเคหะฯ ขายที่ดินบึงรับน้ำตามธรรมชาติข้างโครงการเคหะคลองจั่น ระบุผิดนโยบายรัฐบาล และมติ ครม. เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง หากยังดึงดันประมูลขายพื้นที่แก้มลิง

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์คัดค้านการเคหะแห่งชาติ ขายแก้มลิงพื้นที่ชุมน้ำแนวป้องกันน้ำท่วม

แถลงการณ์ระบุว่า ตามที่การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ประกาศขายที่ดินบริเวณที่เป็นบึงรับน้ำหรือแก้มลิงตามธรรมชาติบริเวณข้างโครงการเคหะชุมชนคลองจั่น ริมถนนเสรีไทย บริเวณสี่แยกนิด้า ในเนื้อที่ประมาณ 22-1-12.7 ไร่ ให้กับเอกชนหรือผู้ที่สนใจนำไปพัฒนาแสวงหากำไรและผลประโยชน์ส่วนตัวในทางธุรกิจได้นั้น

สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ไม่อาจทนเห็นพฤติกรรมของหน่วยงานรัฐดังกล่าวได้ และขอคัดค้านการกระทำดังกล่าวมา ณ ที่นี้ เหตุเพราะการเคหะแห่งชาติ อันเป็นหน่วยงานของรัฐที่ต้องให้ความสำคัญต่อวิถีชีวิตของชุมชนและสภาพแวดล้อมเป็นที่ตั้ง แต่กลับมีพฤติการณ์แสวงหากำไรและผลประโยชน์บนความเดือดร้อนของประชาชน อันผิดต่อหลักการของการก่อตั้งการเคหะแห่งชาติขึ้นมา อีกทั้งผิดต่อนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำและการฟื้นฟูคูคลองแหล่งน้ำตามธรรมชาติ

ผิดต่อมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2552 ที่กำหนดให้พื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศโดยเฉพาะพื้นที่ชุ่มน้ำแหล่งน้ำจืดเป็นพื้นที่สีเขียวและมิให้ส่วนราชการเข้าไปใช้ประโยชน์เพื่อสงวนไว้เป็นแหล่งรองรับน้ำและกักเก็บน้ำต่อไป, ผิดต่อประกาศกระทรวงมหาดไทยปี 2549 ว่าด้วยการควบคุมการใช้พื้นที่ทะเลสาบของกรุงเทพมหานคร และผิดต่อนโยบายการกำกับดูแลที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR ของการเคหะแห่งชาติที่ลงทุนโฆษณาสร้างภาพมาอย่างต่อเนื่อง การกระทำดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการเบียดบังพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับการพัฒนาแล้วโดยกรุงเทพมหานคร เป็นการทำลายแหล่งรองรับน้ำตามธรรมชาติที่มีอยู่เดิม ยังผลอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการสูญเสียพื้นที่รองรับน้ำของชุมชนกว่า 300,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่ต่อเนื่องเดียวกันกับพื้นที่รองรับน้ำโครงการแก้มลิงตามแนวพระราชดำริบึงลำพังพวย อันเป็นพื้นที่ที่ใช้สำหรับการดักรับน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เขตบางกะปิ และเขตบึงกุ่มของกรุงเทพมหานครด้วย

การที่การเคหะแห่งชาติได้กำหนดให้ที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่จัดประโยชน์เพื่อหารายได้โดยการเช่าหรือขาย ตามแผนการบริหารสินทรัพย์ของการเคหะแห่งชาตินั้น ถือว่าเป็นแผนการใช้ที่ดินที่สังคมต้องประณาม เพราะเป็นการเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวขององค์กร โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม และไม่มองถึงผลกระทบที่จะตามมามหาศาล อันจักสร้างความเดือดร้อนและเสียหายต่อชาวบ้านโดยรอบพื้นที่ดังกล่าวและชาวบ้านโดยทั่วไปโดยชัดแจ้ง

สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ขอประกาศต่อสาธารณชนมา ณ ที่นี้ว่าจะไม่ยอมให้หน่วยงานรัฐดังกล่าว กระทำการโดยใช้อำนาจโดยอำเภอใจ ยังผลให้ต้องสูญเสียพื้นที่ชุ่มน้ำหรือพื้นที่แก้มลิงแหล่งรองรับน้ำในเมืองหลวง ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนและเสียหายต่อประชาชน และคุณภาพสิ่งแวดล้อมต่อไปได้ และหากการเคหะแห่งชาติยังคงเดินหน้าที่จะเปิดประมูลการขายพื้นที่แก้มลิงดังกล่าวให้จงได้ในวันที่ 26 มิถุนายน 2555 นี้ สมาคมฯ ก็จะร่วมกับชาวบางกะปิ ชาวบึงกุ่ม และชาวกรุงเทพมหานครทั้งปวง ฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพิกถอนการกระทำดังกล่าวตามสิทธิต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น