xs
xsm
sm
md
lg

“สภากาแฟยามเช้า” เชื่อมสัมพันธ์ ขรก.-ประชาชนที่ปลายด้ามขวาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กิจกรรมสภากาแฟยามเช้า เป็นวิถีวัฒนธรรมปกติของคนชายแดนใต้มาช้านานแล้ว แต่ในช่วงที่ความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้บรรยากาศความสัมพันธ์ ความรื่นเริงในยามเช้าก็ถูกความหวาดระแวงก้าวเข้ามาแทนที่ แต่เชื่อว่าไม่นานทุกอย่างจะกลับมาปกติ ด้วยความพยายามของตำรวจชุมชนสัมพันธ์ของ สภ.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา

ทุกครั้งที่มีกิจกรรมสภากาแฟยามเช้า บรรดาหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มพลังมวลชน โต๊ะอิหม่ามมัสยิดต่างๆ รวมทั้งประชาชนกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ต่างมานั่งจิบน้ำชาพูดคุยแลกเปลี่ยนในวงล้อมอย่างเป็นกันเองเสมือนในอดีตที่ผ่านมา ในวงล้อมต่างสับเปลี่ยนหมุนเวียนพูดคุยในเรื่องเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่

“การจัดกิจกรรมสภากาแฟยามเช้านี้ผมถือว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะการรักษากิจกรรมนี้ไว้ ก็เหมือนกับการรักษาความสัมพันธ์ของประชาชนในท้องถิ่นของเราไว้ด้วย ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบแบบนี้ การพบปะแลกเปลี่ยนทุกข์สุขอย่างนี้เป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ให้คงสืบไป” นั่นคือคำทักทายแรกของ พ.ต.ต.สมหมาย มะณีจันทร์ สว.สส.สภ.ยะรม

จากนั้น นายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอเบตง อธิบายถึงที่มาของการจัดกิจกรรมสภากาแฟยามเช้า ว่า ถ้าไม่มี พ.ต.ต.สมหมาย มะณีจันทร์ สว.สส.สภ.ยะรม ที่เป็นคนคิดริเริ่มที่จะให้ความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยพุทธ มุสลิม และจีนในพื้นที่ฟื้นกลับคืนมาอย่างเช่นในอดีต ลดความหวาดระแวงในเชื้อชาติ โดย พ.ต.ต.สมหมาย เสนอให้ นายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอเบตง, พ.ต.อ.อุทัย ชัยมาลา สารวัตรใหญ่ สภ.ยะรม และ พ.ต.อสุวัตต์ วงศ์ไพบูลย์ ผกก.สภ.เบตง จนทำให้ได้ประชาชนสามเชื้อสายเข้าร่วมในกิจกรรมในครั้งนี้
นายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอเบตง
โดยมีจุดประสงค์ของการจัดกิจกรรมสภากาแฟยามเช้านี้ขึ้นมา ก็เพื่อเป็นสร้างพื้นที่พูดคุยเสวนาระหว่างกลุ่มคนที่แตกต่างกัน อันจะช่วยกันหาหนทางสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในพื้นที่ให้ได้ รวมทั้งเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา อุปสรรค หรือข้อเสนอแนะแนวทางในการดำเนินงานของข้าราชการตำรวจ และส่วนราชการในพื้นที่

“กิจกรรมสภากาแฟยามเช้า นอกจากการสานสัมพันธ์ระหว่างสามพี่น้องไทยพุทธ มุสลิม และจีนแล้ว ยังมีภารกิจช่วยเหลือสังคม เช่น มีแผนการเยี่ยมเยือนและดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุไม่สงบ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ หรือประชาชน หญิงหม้าย เด็กกำพร้า และรับฟังข้อเสนอแนะแนวทางในการดำเนินงานของข้าราชการตำรวจ และส่วนราชการในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสานต่องานจากภาครัฐ ที่มีความพยายามที่จะสร้างสันติภาพภาคประชาชนให้เกิดขึ้นให้ได้” นายอำเภอเบตงกล่าวถึงที่มา
พ.ต.อสุวัตต์ วงศ์ไพบูลย์ ผกก.สภ.เบตง
พ.ต.อ.สุวัตต์ วงศ์ไพบูลย์ ผกก.สภ.เบตง กล่าวว่า “ขอให้การจัดกิจกรรมสภากาแฟยามเช้า เป็นต้นแบบในการสร้างความเป็นปึกแผ่นของคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านแนวคิดของผู้ที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ สร้างความรู้สึกกลมเกลียวของคนเบตง และขยายไปสู่ในพื้นที่อื่นต่อไป”

สำหรับบรรยากาศในวงกาแฟของทุกๆ วันนี้เย็นสบาย เพราะโอบล้อมด้วยรอยยิ้มกับร่องรอยสายฝนที่ตกกระหน่ำตั้งแต่เมื่อกลางดึก จนใกล้ถึงเวลาทำงาน แต่ละคนก็แยกย้ายกันไป โดยหวังว่าความสัมพันธ์ต่างศาสนา และเชื้อชาติจะแนบแน่นกลมเกลียวดังเดิม

การจัดกิจกรรมสภากาแฟยามเช้านี้ ทำให้เกิดการลดช่องว่างระหว่างรัฐกับชาวบ้านอย่างเห็นได้ชัด พ.ต.ต.สมหมาย มะณีจันทร์ สว.สส.สภ.ยะรม ในฐานะเป็นเจ้าภาพการจัดกิจกรรมสภากาแฟยามเช้าเมื่อปีที่ผ่านมา เปรียบเทียบในครั้งนี้เป็นเสมือนการลดช่องว่างระหว่างประชาชนกับราชการ

“สิ่งที่ยังแก้ไม่ตก คือ ความหวาดระแวงระหว่างข้าราชการกับประชาชน ซึ่งมันเกิดขึ้นโดยตัวของระบบมันเอง โดยตัวระบบราชการที่ทำให้ประชาชนเข้าไม่ถึง ประชาชนยังรู้สึกว่าการเดินไปหาข้าราชการเป็นเรื่องยุ่งยาก และเข้าถึงยาก”

พ.ต.ต.สมหมาย มะณีจันทร์ สว.สส.สภ.ยะรม พูดถึงข้อดีของวงกาแฟยามเช้าว่า การให้หัวหน้าส่วนข้าราชการ หน่วยกำลังต่างๆ มานั่งจิบน้ำชา กาแฟ กับชาวบ้าน จะทำให้ได้รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่มากขึ้น เพราะจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น นำมาสู่การแก้ไขปัญหาไปด้วย ข้อมูลที่ได้มาก็จะมีผู้นำไปสานต่อ และแก้ปัญหาได้ถูกจุดเร็วขึ้น

บางครั้งบางปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่กลับกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ถ้าไม่มีพื้นที่คุยกัน เช่น ความขัดแย้งระหว่างพี่น้องไทยพุทธและมุสลิม ที่อาจเริ่มต้นมาจากปัญหาส่วนตัว แต่กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างศาสนาไป ถ้าไม่พูดคุยทำความเข้าใจ หาเหตุผลกันเสียก่อน “นับว่าเป็นความโชคดีที่ยังรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ เพราะมีพื้นที่ที่ให้ทั้งสองฝ่ายมานั่งคุยกัน และผู้นำของทั้งสองศาสนาก็ร่วมมือกัน ปัญหาจึงไม่มีโอกาสขยายกว้างออกไปได้อีก”

การจัดกิจกรรมสภากาแฟยามเช้านี้ไม่ได้จบไปเพียงแค่แต่ละคนแยกย้ายกลับบ้านกันไป หากแต่ยังมีกิจกรรมพบปะเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา อุปสรรค และพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะแนวทางในการดำเนินงานของข้าราชการตำรวจ และส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างข้าราชการ ตำรวจกับประชาชน ที่เป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันสืบต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น