ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มสตรีนราธิวาสตอบรับโครงการ “นรายิ้ม” พร้อมพัฒนาศักยภาพสตรีในทุกด้าน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสให้การสนับสนุนเต็มที่ หวังให้องค์กรสตรีมีความเข้มแข็ง มีบทบาทในการพัฒนาสังคม และยกระดับสตรีสู่เวทีอาเซียน
“โครงการคืนรอยยิ้มให้สตรีนราธิวาส หรือโครงการ “นรายิ้ม” เป็นโครงการหลักของจังหวัดนราธิวาสที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของสตรีในทุกด้าน และยกระดับความเป็นอยู่ของสตรีให้ดีขึ้น อันจะนำไปสู่การคืนรอยยิ้มให้แก่สตรีในจังหวัดนราธิวาส โดยนายอภินันท์ ซื่อธานวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน ๗,๗๐๐,๐๐๐. บาท ให้แก่กลุ่มสตรีจำนวน ๗๗ ตำบลๆ ละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อใช้ในการพัฒนาองค์กรสตรีตามความต้องการของสตรี และให้แต่ละตำบลมีการจัดทำประชาพิจารณ์ หรือการจัดวงเสวนาเพื่อระดมความคิดในการกำหนดแนวทางการพัฒนากลุ่มตามความต้องการของสตรีในพื้นที่ของตนเอง”
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า “จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส สตรีเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบโดยตรงทั้งการสูญเสียสามี หรือลูก นอกจากนี้ บางคนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว และให้สตรีมีรอยยิ้มแทนเสียงร้องไห้ จึงได้มีโครงการคืนรอยยิ้มให้สตรีนราธิวาส ซึ่งมุ่งส่งเสริมบทบาทสตรีในฐานะองค์กรภาคประชาชนให้เข้ามามีบทบาทในการเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่
โดยอันดับแรก ต้องพัฒนาสตรีให้มีความพร้อม หรือมีศักยภาพก่อน ซึ่งจากการดำเนินงานในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มสตรีได้รวมตัวกันอย่างเข้มแข็งในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเอง โดยประเมินจากการตื่นตัวของสตรีในการสนใจสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีถึง 240,713 คน ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ และเป็นอันดับ 5 ของประเทศ และจนถึงขณะนี้ ยังมีสตรียื่นใบสมัครอย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่ลงไปพบปะสตรีในวงเสวนาหรือการจัดทำประชาพิจารณ์ ได้มีการเสนอแนวทางการพัฒนาหลายเรื่อง นับตั้งแต่ ด้านองค์ความรู้ การศึกษา สุขภาพ อาชีพ บางกลุ่มได้เสนอให้มีการจัดตั้งสถาบันพัฒนาสตรีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาสตรีอย่างยั่งยืน ซึ่งทางจังหวัดนราธิวาสได้นำข้อเสนอแนะทั้งหมดมาประมวล และกำหนดกรอบการดำเนินงานร่วมกับสตรีแต่ละตำบล โดยเปิดโอกาสให้สตรีคิดเอง ทำเอง เพื่อจะได้พัฒนาตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่ม
ขณะนี้ หลายตำบลสามารถพัฒนาอาชีพได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้ครอบครัว และมีอาชีพที่มั่นคง บางกลุ่มได้มีการต่อยอดจากโครงการเดิมที่อยู่ เช่น การเปิดตลาดสินค้าประเภทงานหัตถกรรม การจัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านอาชีพ ด้านการศึกษา การพัฒนาครอบครัว ซึ่งเหล่านี้ล้วนทำให้สตรีมีความเข้มแข็ง และเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้ส่งเสริมให้สตรีเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนองค์กรภาครัฐ โดยหลายหน่วยงานได้แต่งตั้งสตรีเป็นที่ปรึกษา และเป็นคณะกรรมการ คณะทำงาน ในการพิจารณา และกำหนดแนวทางการดำเนินโครงการต่างๆ ซึ่งกลุ่มพลังสตรีสามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีหลังจากการประเมินผลการดำเนินงานในปีนี้ ทางจังหวัดจะจัดสรรงบประมาณต่อเนื่องในปีหน้าเพื่อพัฒนาสตรีในจังหวัดนราธิวาสสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง มีศักยภาพที่จะก้าวสู่เวทีในระดับประเทศ หรือกลุ่มอาเซียนต่อไป ที่สำคัญคือ มีรอยยิ้มที่สดใสซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้”
ด้านนางสารีปะ สะเมาะ ประธานกลุ่มสตรีจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า “นับเป็นครั้งแรกของกลุ่มสตรีในจังหวัดนราธิวาสที่ได้รับการพัฒนาอย่างครบวงจร และมีสิทธิในการคิดเอง ทำเอง โดยภาครัฐเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นพี่เลี้ยงที่คอยให้คำปรึกษา และให้ความช่วยเหลือ
นอกจากนี้ ยังได้มีบทบาทต่อการดำเนินงานในหลายด้าน มีเวทีได้แสดงความสามารถ ความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ทำให้สตรีมีโอกาสทางสังคมมากขึ้น โดยสตรีทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มสตรีทั่วไป สตรีหม้าย ยุวสตรี และสตรีที่อยู่นอกระบบ ได้มีการรวมตัว ผนึกกำลังกันอย่างเข้มแข็งพร้อมที่จะพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพชีวิตของตัวเองที่ดีขึ้น
ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มสตรีได้ลงพื้นที่ไปพบปะทำความเข้าใจกับกลุ่มสตรีพร้อมกับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ให้เพื่อนสมาชิกได้ทราบถึงเป้าหมาย และการเตรียมความพร้อมของสตรีในการพัฒนาตนเองเพื่อก้าวสู่เวทีสากล ซึ่งนอกจากการพัฒนาด้านอาชีพเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การพัฒนาองค์ความรู้ในด้านการศึกษา การพัฒนาบุคลิกภาพ การดูแลครอบครัว และการเรียนรู้ที่ปรับตัวเพื่อรองรับการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของตนเอง เป็นเรื่องที่สมาชิกมีความตื่นตัวและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้ตนเองมั่นใจว่า โครงการนี้จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตสตรีในจังหวัดนราธิวาสให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน”