ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตนำตัวผู้ต้องหาชิงทรัพย์ “ร้านทองธเนศ 2” ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่เจ้าของร้านยังไม่เชื่อในคำให้การของคนร้าย
เมื่อเวลา 14.10 น. วันนี้ (5 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วย รองผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.ต.ยงยุทธ กรองมาลัย สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัว นายกฤตศักดิ์ หรือเด่น หีตแก้ว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ 4 ตำบลบ้านนา อำเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฏร์ธานี ผู้ต้องหาคดีบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทองธเนศ 2 ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา ได้ทองคำรูปพรรณไปจำนวน 261 บาท มูลค่า 5,755,050 บาท มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่คุมเข้ม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมตัวได้ที่ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 แขวงบางกอกน้อย เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนคือ ที่ร้านทองธเนศ 2 ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายขับรถมาจอด และเข้าไปทำทีซื้อทองในร้าน เมื่อเจ้าของร้านหยิบมาให้ดู ก็ได้ชักอาวุธปืนออกมาขู่เจ้าของร้าน ลูกสาวเจ้าของร้านได้ชักอาวุธปืน .38 ออกมาขู่คนร้าย แต่ถูกคนร้ายแย่งเอาอาวุธปืนไป พร้อมกวาดเอาทองคำในตู้โชว์ด้านหลังเคาเตอร์ไป ก่อนที่จะออกจากร้าน และขับรถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าไปทางตลาดท้ายรถ
จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังจุดที่ทิ้งรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ และเดินออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อหลบหนีที่บริเวณปากซอยวิรัชหงษ์หยก 5/3 ภายในหมู่บ้านอนุภาษมโนรมณ์ ส่วนจุดที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปที่ ต้นน้ำอพาร์ตเมนต์ ซึ่งอยู่ด้านหลังเทศบาลเมืองป่าตอง เป็นจุดที่คนร้ายไปพักและเช่ารถจักรยานยนต์ก่อนที่จะมาก่อเหตุ
พ.ต.ต.ยงยุทธ กรองมาลัย พนักงานสอบสวน กล่าวว่า หลังจากนำตัวผู้ต้องหามาถึงภูเก็ตก็ได้สอบปากคำผู็ต้องหาไปแล้ว และยินยอมที่จะมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว เดินทางมาพักที่ภูเก็ตเพียงวันเดียวก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ และจากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาไม่ได้ทำงานอย่างอื่น
อย่างไรก็ตาม สำหรับนายกฤตศักดิ์ หรือเด่น หีตแก้ว ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองจำนวน 4 ครั้ง โดยก่อเหตุครั้งแรกเมื่อ วันที่ 3 ธันวาคม 2551 ชิงทรัพย์ที่ร้านทองเพชรสุวรรณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ทองรูปพรรณ 220 บาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2553 ชิงทรัพย์ที่ร้านทองเจริญมณี ที่กรุงเทพมหานคร ได้ทองรูปพรรณ 100 บาท ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2553 ชิงทรัพย์ที่ห้างทองวังทอง กรุงเทพมหานคร ได้ทองรูปพรรณ 50 บาท และครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2554 ชิงทรัพย์ร้านทองธเนศ 2 จ.ภูเก็ต ได้ทองคำรูปพรรณไปจำนวน 261 บาท
ขณะที่ นายจิรศักดิ์ และนางจันทนา ธเนศธนสมบัติ เจ้าของร้านทองธเนศ 2 กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุตนก็ได้ติดตั้งลูกกรงเหล็กเพื่อป้องกันคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ และที่ผ่านมา ทางร้านไม่ได้ทำประกันไว้แต่อย่างใด ส่วนทองคำที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาได้นั้นมีประมาณ 10 กว่าบาท ไม่อยากเชื่อว่าคนร้ายลงมาก่อเหตุเพียงคนเดียวเหมือนกับที่รับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อเวลา 14.10 น. วันนี้ (5 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วย รองผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.ต.ยงยุทธ กรองมาลัย สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัว นายกฤตศักดิ์ หรือเด่น หีตแก้ว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ 4 ตำบลบ้านนา อำเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฏร์ธานี ผู้ต้องหาคดีบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทองธเนศ 2 ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา ได้ทองคำรูปพรรณไปจำนวน 261 บาท มูลค่า 5,755,050 บาท มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่คุมเข้ม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมตัวได้ที่ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 แขวงบางกอกน้อย เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนคือ ที่ร้านทองธเนศ 2 ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายขับรถมาจอด และเข้าไปทำทีซื้อทองในร้าน เมื่อเจ้าของร้านหยิบมาให้ดู ก็ได้ชักอาวุธปืนออกมาขู่เจ้าของร้าน ลูกสาวเจ้าของร้านได้ชักอาวุธปืน .38 ออกมาขู่คนร้าย แต่ถูกคนร้ายแย่งเอาอาวุธปืนไป พร้อมกวาดเอาทองคำในตู้โชว์ด้านหลังเคาเตอร์ไป ก่อนที่จะออกจากร้าน และขับรถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าไปทางตลาดท้ายรถ
จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังจุดที่ทิ้งรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ และเดินออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อหลบหนีที่บริเวณปากซอยวิรัชหงษ์หยก 5/3 ภายในหมู่บ้านอนุภาษมโนรมณ์ ส่วนจุดที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปที่ ต้นน้ำอพาร์ตเมนต์ ซึ่งอยู่ด้านหลังเทศบาลเมืองป่าตอง เป็นจุดที่คนร้ายไปพักและเช่ารถจักรยานยนต์ก่อนที่จะมาก่อเหตุ
พ.ต.ต.ยงยุทธ กรองมาลัย พนักงานสอบสวน กล่าวว่า หลังจากนำตัวผู้ต้องหามาถึงภูเก็ตก็ได้สอบปากคำผู็ต้องหาไปแล้ว และยินยอมที่จะมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว เดินทางมาพักที่ภูเก็ตเพียงวันเดียวก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ และจากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาไม่ได้ทำงานอย่างอื่น
อย่างไรก็ตาม สำหรับนายกฤตศักดิ์ หรือเด่น หีตแก้ว ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองจำนวน 4 ครั้ง โดยก่อเหตุครั้งแรกเมื่อ วันที่ 3 ธันวาคม 2551 ชิงทรัพย์ที่ร้านทองเพชรสุวรรณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ทองรูปพรรณ 220 บาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2553 ชิงทรัพย์ที่ร้านทองเจริญมณี ที่กรุงเทพมหานคร ได้ทองรูปพรรณ 100 บาท ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2553 ชิงทรัพย์ที่ห้างทองวังทอง กรุงเทพมหานคร ได้ทองรูปพรรณ 50 บาท และครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2554 ชิงทรัพย์ร้านทองธเนศ 2 จ.ภูเก็ต ได้ทองคำรูปพรรณไปจำนวน 261 บาท
ขณะที่ นายจิรศักดิ์ และนางจันทนา ธเนศธนสมบัติ เจ้าของร้านทองธเนศ 2 กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุตนก็ได้ติดตั้งลูกกรงเหล็กเพื่อป้องกันคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ และที่ผ่านมา ทางร้านไม่ได้ทำประกันไว้แต่อย่างใด ส่วนทองคำที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาได้นั้นมีประมาณ 10 กว่าบาท ไม่อยากเชื่อว่าคนร้ายลงมาก่อเหตุเพียงคนเดียวเหมือนกับที่รับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ