สองโจรกรุงเหิม ควงปืนบุกจี้ร้านทองย่านซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 กวาดทองรูปพรรณ 93 เส้น มูลค่าร่วม 2 ล้านบาท ก่อนซิ่งจยย.หลบหนีลอยนวล
วันนี้ (14 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.วัลลภ ศุภภมร พงส.(สบ 2) สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกชิงทรัพย์ภายในร้านทองย่งเซ่งเฮง เลขที่ 513/15-16 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ สินสูงสุด ผกก.สน.บางขุนนนท์ พ.ต.ท.พจนาจ งบพิมาย สว.สส.สนบางขุนนนท์ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น 2 คูหา ชั้นล่างของอาคารเปิดเป็นร้านรับซื้อขายทองรูปพรรณ ซึ่งเจ้าของร้านทอง นางศุภลักษณ์ เจิมสุวรรณรัชต์ อายุ 48 ปี และนายวรวัฒน์ จริยะธีรวงศ์ อายุ 38 ปี ยืนรอให้การเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตกใจ
นายวรวัฒน์กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุฝนกำลังตกหนัก ไม่มีลูกค้าอยู่ภายในร้าน ตนเข้าไปทำธุระที่หลังร้านโดยมีพี่สาวเฝ้าหน้าร้านคนเดียว กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. มีชาย 2 คน อายุประมาณ 35-40 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดบริเวณหน้าร้าน ก่อนจะเข้ามาก่อเหตุปล้นทอง เมื่อวิ่งออกมาดูคนร้ายก็ยกปืนขึ้นขู่ ด้วยความกลัวตนกับพี่สาวจึงหลบอยู่หลังเคาน์เตอร์
นายวรวัฒน์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ชายคนแรกสวมเสื้อแจ็กเกตสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ สวมถุงมือสีขาว สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีขาว ถืออาวุธปืนไม่ทราบขนาดข่มขู่และยืนคุมเชิงอยู่ ส่วนคนร้ายอีกคนสวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงยีนส์ สวมถุงมือสีขาว คาดผ้าปิดจมูกสีขาว สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ เข้าไปทางด้านหลังเคาน์เตอร์แล้วลงมือกวาดสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทไปจำนวน 93 เส้น มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ยัดใส่ในเสื้ออย่างรวดเร็ว จากนั้นพากันขี่รถ จยย.หลบหนีเข้าไปในซอยทันที
“ปกติผมจะอยู่กับพี่สาวเพียงแค่ 2 คนภายในร้าน โดยเปิดร้านเวลาประมาณ 09.00 น. และปิดเวลา 17.00 น. ไม่ได้จ้างพนักงานมาเฝ้า ผมกับพี่สาวจะอยู่กันแค่ 2 คน โดยการป้องกันทางร้านจะติดไว้แค่สัญญาณกันขโมยเท่านั้น แต่ดังไปไม่ถึงโรงพัก ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คนร้ายได้เข้ามาก่อเหตุปล้นชิงทองไป”
พล.ต.ต.อิทธิพลเปิดเผยว่า หลังนำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านที่จับภาพคนร้ายเอาไว้ได้ไปตรวจสอบ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ ทั้งหมดทันที โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อหาภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้ เคียงเพื่อตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี ส่วนลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากคนร้ายสวมถุงมือ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งหาเบาะแสเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด