ชุมพร - พ่อเลี้ยงวัยกว่า 60 ปี สุดทน ลูกเลี้ยงลามปามถึงบุพการี โมโหคว้าอาวุธปืนจ่อยิง 3 นัดตายคาที่ ส่วนตัวเองกลัวความผิดใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงกรอกปากหวังฆ่าตัวตายแต่อาการสาหัส
เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.อภิชาติ ปานแพ ร้อยเวร สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายในบ้านเลขที่ 41 หมู่ 1 ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.วิชิต ขำคชกรรณ สว.สส.สภ.เมืองชุมพร แพทย์ รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ห่างถนนสายบ้านสระเพชร - ขุนแสน ประมาณ 20 เมตร ที่หน้าบ้านมีคนมุ่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณหน้าบ้านพบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ ทราบชื่อ นางปานทิพย์ พันแทน อายุ 44 ปี สวมเสื้อยืดสีชมพู กางเกงสีดำลายจุดขาว มือข้างซ้ายยังกำพวงกุญแจ รถ จยย.อยู่ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .32 เข้าที่ท้ายทอยจำนวน 3 นัด
นอกจากนั้นภายในบ้านบริเวณหน้าประตูห้องนอนมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสุรินทร์ บุญเซียม อายุ 66 ปี ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันเข้าที่ปากทะลุออกศรีษะ 1นัด นอนจมกองเลือดหายใจรวยระรินอยู่ ในมือขวายังกำปืนพกสั้นแบบลูกโม่ขนาด .32 อยู่ 1กระบอก มีกระสุนอยู่รังเพลิง 2 นัด และปลอกกระสุนที่ยิงแล้วค้างอยู่ 4 นัด เจ้าหน้าที่จึงช่วยนำตัวส่งรพ.ชุมพร
จากการสอบสวนทราบว่า นายสุรินทร์ บุญเซียม มือปืนที่ก่อเหตุ อดีตเป็นข้าราชการบำนาญ และเป็นพ่อหม้าย ต่อมาได้มาแต่งงานจดทะเบียนกับนางสมเพียง บุญเซียม 65 ปีอยู่กินที่บ้านหลังดังกล่าว นานหลายปี กระทั่งเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา นางปานทิพย์ พันแทน ลูกของนางสมเพียรได้พาลูกสาววัย 13 ปี เข้ามาขออาศัยอยู่ด้วยเนื่องจากเลิกรากับสามี ซึ่งในช่วงที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน นางปานทิพย์ได้มีปากเสียงทะเลาะกับนายสุรินทร์อยู่เป็นประจำ
กระทั่งก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้มีปากเสียงทะเลาะกันอีกจนเป็นเหตุให้นายสุรินทร์โมโหสุดขีดคว้าปืนออกมาก่อเหตุจ่อยิงนางปานทิพย์ 3 นัดซ้อน ขณะที่นางปานทิพย์กำลังจะขับรถ จยย.ออกไปทำธุระในตัวเมืองชุมพร จนล้มฟุบลงขาดใจตายคาที่ จากนั้นนายสุรินทร์ได้วิ่งเข้าไปในบ้านแล้วใช้ปืนยิงกรอกปากตัวเองหวังฆ่าตัวตายหนีความผิด เจ้าหน้าที่พบนอนหายใจรวยริน จึงนำตัวส่งให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับสาเหตุ พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา ผกก.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุและได้สอบสวนพยานบุคคลและบุคคลใกล้ชิดนายสุรินทร์ผู้ก่อเหตุ ผนวกกับพบจดหมายของนายสุรินทร์ที่ได้เขียนระบายความอึดอัดใจกับลูกเลี้ยง ว่าได้เข้ามาขออาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ทำให้บรรยากาศภายในบ้านเกิดความตรึงเครียดอยู่ตลอดเวลา เพราะนางปานทิพย์ ลูกเลี้ยงไม่เคยให้เกียรติตนเองในฐานะพ่อเลี้ยงซ้ำยังด่าทอดูถูกดูแคลน และด่าลามปามถึงบุพการีของนายสุรินทร์หลายครั้ง แม้จะพยายามทำใจอดทนมาโดยตลอด
เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.อภิชาติ ปานแพ ร้อยเวร สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายในบ้านเลขที่ 41 หมู่ 1 ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.วิชิต ขำคชกรรณ สว.สส.สภ.เมืองชุมพร แพทย์ รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ห่างถนนสายบ้านสระเพชร - ขุนแสน ประมาณ 20 เมตร ที่หน้าบ้านมีคนมุ่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณหน้าบ้านพบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ ทราบชื่อ นางปานทิพย์ พันแทน อายุ 44 ปี สวมเสื้อยืดสีชมพู กางเกงสีดำลายจุดขาว มือข้างซ้ายยังกำพวงกุญแจ รถ จยย.อยู่ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .32 เข้าที่ท้ายทอยจำนวน 3 นัด
นอกจากนั้นภายในบ้านบริเวณหน้าประตูห้องนอนมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสุรินทร์ บุญเซียม อายุ 66 ปี ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันเข้าที่ปากทะลุออกศรีษะ 1นัด นอนจมกองเลือดหายใจรวยระรินอยู่ ในมือขวายังกำปืนพกสั้นแบบลูกโม่ขนาด .32 อยู่ 1กระบอก มีกระสุนอยู่รังเพลิง 2 นัด และปลอกกระสุนที่ยิงแล้วค้างอยู่ 4 นัด เจ้าหน้าที่จึงช่วยนำตัวส่งรพ.ชุมพร
จากการสอบสวนทราบว่า นายสุรินทร์ บุญเซียม มือปืนที่ก่อเหตุ อดีตเป็นข้าราชการบำนาญ และเป็นพ่อหม้าย ต่อมาได้มาแต่งงานจดทะเบียนกับนางสมเพียง บุญเซียม 65 ปีอยู่กินที่บ้านหลังดังกล่าว นานหลายปี กระทั่งเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา นางปานทิพย์ พันแทน ลูกของนางสมเพียรได้พาลูกสาววัย 13 ปี เข้ามาขออาศัยอยู่ด้วยเนื่องจากเลิกรากับสามี ซึ่งในช่วงที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน นางปานทิพย์ได้มีปากเสียงทะเลาะกับนายสุรินทร์อยู่เป็นประจำ
กระทั่งก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้มีปากเสียงทะเลาะกันอีกจนเป็นเหตุให้นายสุรินทร์โมโหสุดขีดคว้าปืนออกมาก่อเหตุจ่อยิงนางปานทิพย์ 3 นัดซ้อน ขณะที่นางปานทิพย์กำลังจะขับรถ จยย.ออกไปทำธุระในตัวเมืองชุมพร จนล้มฟุบลงขาดใจตายคาที่ จากนั้นนายสุรินทร์ได้วิ่งเข้าไปในบ้านแล้วใช้ปืนยิงกรอกปากตัวเองหวังฆ่าตัวตายหนีความผิด เจ้าหน้าที่พบนอนหายใจรวยริน จึงนำตัวส่งให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับสาเหตุ พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา ผกก.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุและได้สอบสวนพยานบุคคลและบุคคลใกล้ชิดนายสุรินทร์ผู้ก่อเหตุ ผนวกกับพบจดหมายของนายสุรินทร์ที่ได้เขียนระบายความอึดอัดใจกับลูกเลี้ยง ว่าได้เข้ามาขออาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ทำให้บรรยากาศภายในบ้านเกิดความตรึงเครียดอยู่ตลอดเวลา เพราะนางปานทิพย์ ลูกเลี้ยงไม่เคยให้เกียรติตนเองในฐานะพ่อเลี้ยงซ้ำยังด่าทอดูถูกดูแคลน และด่าลามปามถึงบุพการีของนายสุรินทร์หลายครั้ง แม้จะพยายามทำใจอดทนมาโดยตลอด