ตำรวจนครบาลจับหนุ่มใหญ่ ลักพา ด.ช.วัย 10 ขวบ ไปอนาจาร ที่หาดเจ้าสำราญ เมืองเพชรบุรี สารภาพก่อเหตุลักพาตัวเด็กมาแล้ว 2 ราย ส่วนใหญ่ออกอุบายพาไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ส่วนอีกคดีพ่อเลี้ยงโหดจับลูกวัย 3 ขวบ ห้อยคอแล้วใช้เท้าเตะจนเสียชีวิต อ้างแค่หยอกล้อ-ไม่เจตนาให้ตาย
วันนี้ (22 เม.ย.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น.ร่วมกันแถลงจับกุมนายมานัส แก้วใจ อายุ 46 ปี ในข้อหาข้อหาพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ที่ห้องเช่าบริเวณหาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี โดย พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า นายมานัสเป็นคนงานก่อสร้าง อยู่ใกล้บริเวณบ้านของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 10 ปี ก่อนจะเข้ามาตีสนิท พร้อมกับอ้างว่าจะตั้งทีมฟุตบอลอยากให้ไปเล่นด้วย เมื่อ ด.ช.เอ หลงเชื่อ จึงได้ลักพาตัวหนีไปไว้ที่ห้องเช่าหาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี พร้อมกับทำอนาจาร ด.ช.เอ ก่อนเจ้าหน้าที่จะติดตาม และจับกุมตัวได้
นายมานัสให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า ลักพาตัว ด.ช.เอ ไปจริง และเคยก่อเหตุลักพาตัวเด็กเพียง 2 คน โดยจะชักชวนให้ไปเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ก่อนจะลักพาตัวไป ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ที่นายมานัสต้องการลักพาตัวจะมีอายุไม่เกิน 10 ขวบ เพราะง่ายต่อการล่อลวง และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายมานัส เคยถูกกระทำทางเพศตั้งแต่อายุ 12 ปี และเกิดการฝังใจ จึงก่อเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่า นายมานัสเคยถูกจับดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง และมีหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหาพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารอีกด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว นายสุวิทย์ ยิ้มคุ้ม หรือ คิง อายุ 23 ปี ซึ่งก่อเหตุทำร้าย ด.ช.กวินภพ พลซื่อ อายุ 3 ปี ลูกเลี้ยงจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยนายสุวิทย์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง เนื่องจากไม่พอใจที่ลูกเลี้ยงร้องไห้งอแง และปัสสาวะไม่เป็นที่ โดยจับเด็กห้อยคอและใช้เท้าเตะเด็กจริง แต่อ้างว่าเป็นการหยอกล้อ ไม่มีเจตนาจะทำให้เสียชีวิต ซึ่งขณะเกิดเหตุแม่เด็กไม่อยู่บ้าน และเมื่อทราบว่าเด็กเสียชีวิตก็ตกใจ จึงหลบหนี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานเห็นเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่เจตนา โดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย หลังจากแถลงข่าวเสร็จ ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคดีส่งตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป
