ยะลา - ศอ.บต.ให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหาย และได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และดึงผู้ได้รับผลกระทบเข้าเป็นคณะอนุกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (เลขาฯ ศอ.บต.) เป็นประธานในการประชุมถอดบทเรียน 8 ปี การเยียวยาฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบ โดยมี นายปิติกาญจน์ สิทธิเดช รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายฐานิส ศรียะพันธุ์ รองเลขาฯ (ฝ่ายยุติธรรม) ศอ.บต. นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ดร.พิมพ์รภัช ดุษฏีอิสริยะกุล และผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส และ จ.สงขลา กว่า 300 คนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น
พ.ต.อ.ทวีได้เปิดประเด็นในหัวข้อ ควรทำอย่างไรให้ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยได้สรุปหลักเกณฑ์ และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหาย และได้รับผลกระทบ โดยการรักษาพยาบาลทางด้านร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งการส่งเสริมอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับผู้พิการ ตลอดจนการเยียวยาทางด้านจิตวิญญาณในการเดินทางไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่สำคัญคือ การการสนับสนุนด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงถึงการประกอบอาชีพในการทำมาหากิน
สำหรับอาคารบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายก็จะได้รับการซ่อมแซม ซึ่งจะทำให้ผู้ได้รับผลกระทบไม่รู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้ง เพราะจะมีกลุ่มสหวิชาชีพเข้าไปเยี่ยมเยียนถึงสภาพความเป็นอยู่ โดยต่อไปนี้ จะได้รับความช่วยเหลือให้มีความปลอดภัย ตลอดจนการช่วยเหลือเยียวยาด้านกฎหมาย การฟ้องร้องคดี หรือการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในการเข้าถึงความเป็นธรรม โดยรัฐจะจ่ายเงินขั้นต้นรายละ 500,000 บาท นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับผลกระทบเข้าเป็นคณะอนุกรรมการในการร่วมกันแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ส่วนข้อเสนอแนะต่างๆ จะนำไปพิจารณาถึงความเหมาะสมในการดำเนินการอย่างเป็นธรรม และทั่วถึง
ด้านน.ส.คอลีเยาะห์ หะหลี ผู้ได้รับผลกระทบจาก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจและพอใจที่ทางเลขาฯ ศอ.บต.เข้าใจ และเห็นถึงความสำคัญของผู้ได้รับผลกระทบ ประกอบกับที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมายังพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาพร้อมชี้แจงประเด็นการเยียวยาที่ชัดเจนและเป็นธรรม โดยรวมตนรู้สึกพอใจกับการทำงานของรัฐบาล ถึงแม้ตัวเงินจะไม่สามารถลบล้างความรู้สึกได้ แต่ก็สามารถบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นได้ โดยต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างเอกภาพ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากรัฐบาล แต่ประชาชนต้องระมัดระวังมากขึ้น และควรหามาตรการกับผู้ก่อการร้ายถึงการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ
