xs
xsm
sm
md
lg

อานิสงส์ 7.5 ล.!! ชง ครม. 24 เม.ย. นี้ขอ 2 พันล้านเยียวยาไฟใต้ รวมเหตุคาร์บอมบ์ล่าสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เหตุการณ์คาร์บอมบ์ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2555
เหตุการณ์คาร์บอมบ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2555
มูฮำหมัด ดือราแม ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ (DSJ)

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศอ.บต.ส่งสรุปการประชุม กพต.เตรียมนำเข้า ครม. 24 เม.ย.นี้ กรณีพิจารณาหลักเกณฑ์เยียวยา เผยขออนุมัติ 2 พันล้านช่วยเหยื่อไฟใต้ตั้งแต่ปี 2547 รายละ 7.5 ล้าน แบ่ง 4 กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ รวมเหตุคาร์บอมบ์หาดใหญ่-ยะลา และ 4 ศพปุโละปุโย ให้ก่อน 3 ล้าน ที่เหลือทยอยจ่ายรายปี เห็นชอบทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองสนธิกำลังดูแลสงขลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ทำบันทึกข้อความเรื่องสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 2/2555 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2555 ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร ที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่งถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว เพื่อเตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป

ที่ประชุม กพต.ครั้งดังกล่าว มีมติทั้งหมด 12 เรื่อง โดยมี 3 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ 1.เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขออนุมัติเงินงบประมาณ 2,080 ล้านบาทจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) 2.เห็นชอบการช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านตำบลปุโละปุโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ถูกยิงเสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บ 5 ราย และ 3.เห็นชอบการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ 3 จุด เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555

นายสมเกียรติ อ้นทอง ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน ศอ.บต. เปิดเผยว่า ผลการประชุม กพต.ครั้งดังกล่าว จะมีการนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 24 เม.ย.นี้ สำหรับเรื่องแรกมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้ได้รับความเสียหาย และผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขออนุมัติเงินงบประมาณเยียวยา 2,080 ล้านบาท จากคณะรัฐมนตรี

โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2547 จนถึงปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ประชาชนทั่วไป 2.เจ้าหน้าที่รัฐ 3.ผู้ที่ถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือกลุ่มเฉพาะที่คณะกรรมการมีมติให้ช่วยเหลือเยียวยา หรือคนที่ถูกบังคับให้สูญหาย และ 4.ผู้ถูกควบคุมตัว หรือถูกคุมขัง หรือถูกดำเนินคดี ซึ่งต่อมาปรากฏหลักฐานว่าผู้นั้นมิได้เป็นผู้กระทำผิด หรือมีการถอนฟ้อง หรือมีคำพิพากษายกฟ้อง

“ในจำนวนวงเงินงบประมาณ 2,080 ล้านบาทจะแบ่งงบประมาณให้แก่กลุ่มที่ 1 จำนวน 500 ล้านบาท กลุ่มที่ 2 จำนวน 200 ล้านบาท กลุ่มที่ 3 จำนวน 1,000 ล้านบาท และกลุ่มที่ 4 จำนวน 300 ล้านบาท” นายสมเกียรติกล่าวและว่า

เรื่องที่ 2 การช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านตำบลปุโละปุโย ถูกยิงเสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บ 5 ราย ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ กระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้ช่วยเหลือเยียวยารายละ 3 ล้านบาท และให้เป็นเงินออมระยะยาว รายละ 4 ล้านบาท โดยจ่ายเป็นรายปี ปีละ 1 ล้านบาท

และเรื่องที่ 3 การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ 3 จุด เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา คือบริเวณถนนรวมมิตร อำเภอเมือง จังหวัดยะลา บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรแม่ลาน อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี และบริเวณศูนย์การค้าและโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

นายสมเกียรติกล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กพต.เห็นชอบให้ ศอ.บต.ขอขยายวงเงินช่วยเหลือเยียวยาจากกรมบัญชีกลางจาก 230 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท ให้ ศอ.บต.ร่วมกับทางจังหวัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายและขอรับการจัดสรรงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

ส่วนด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย เห็นชอบตามข้อเสนอของจังหวัดสงขลา ที่ขอให้มีตำรวจ ทหาร เข้ามาสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง ขอเพิ่มอัตรากำลังของฝ่ายปกครอง รวมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ในงานความมั่นคง เช่น กล้องวงจรปิด โดยมอบให้จังหวัดสงขลา ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และกระทรวงมหาดไทยไปพิจารณา

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบที่จังหวัดยะลาเสนอขอรับการสนับสนุนโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่เสี่ยงและในเขตเทศบาลนครยะลา จำนวน 138 จุด 150 ตัว งบประมาณ 99 ล้านบาท

ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ประชุมมอบให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับสำนักงบประมาณ สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จังหวัดสงขลา และ ศอ.บต. พิจารณาสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยว เป็นเวลา 5 ปี ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาลดภาษีโรงเรือนและภาษีป้าย ลงร้อยละ 30 เป็นเวลา 2 ปี เป็นต้น
เหตุการณ์ จยย.บอมบ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2555
*** เปิดมติ กพต.ว่าด้วยการเยียวยาเหยื่อไฟใต้

ต่อไปนี้เป็นบันทึกข้อความของ ศอ.บต. ที่ นร 5202.1 เรื่อง สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 2/2555 ที่ส่งถึง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีสาระสำคัญในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้

ศอ.บต./สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ได้จัดประชุม กพต. ครั้งที่ 2/2555 เมื่อวันพุธที่ 11 เมษายน 2555 ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ โดยมี รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ปฏิบัติหน้าที่ประธาน กพต. เป็นประธานการประชุม สรุปผลการประชุม ได้ดังนี้

เรื่องเพื่อพิจารณา จำนวน 12 เรื่อง โดยมี 3 เรื่องที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเนื้อหาดังนี้
เห็นชอบหลักเกณฑ์-ขอ 2,080 ล้านช่วยเหยื่อ

ขอความเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขออนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

สาระสำคัญ 1. หลักเกณฑ์และวิธีการ ให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 ถึงปัจจุบัน ดังนี้ 1.1 บุคคลที่เป็นผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟู แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มที่ 1 ประชาชนทั่วไป, กลุ่มที่ 2 เจ้าหน้าที่ของรัฐ, กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้ก่อเหตุรุนแรงที่คณะกรรมการฯมีมติช่วยเหลือเยียวยาเฉพาะกรณี ที่ต้องช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหายที่ถึงแก่ความตาย หรือทุพพลภาพ หรือกรณีการบังคับบุคคลให้สูญหาย ให้นำระเบียบ กพต. ว่าด้วยการช่วยเหลือเยียวยาฯ พ.ศ.2555 ข้อ 7 (1) และ (2) มาใช้โดยอนุโลม และกลุ่มที่ 4 กรณีผู้ถูกควบคุมตัว หรือถูกคุมขัง หรือถูกดำเนินคดีเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย และถูกควบคุมตัวหรือคุมขัง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ต่อมาปรากฏหลักฐานว่าผู้นั้นมิได้เป็นผู้กระทำผิด หรือมีการถอนฟ้อง หรือมีคำพิพากษายกฟ้องและคณะกรรมการเยียวยาฯ พิจารณาว่าต้องได้รับการเยียวยา

2. หลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหายและได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ ได้แก่ การรักษาพยาบาล การส่งต่อฟื้นฟูผู้พิการหรือฟื้นฟูสมรรถภาพทางด้านจิตวิญญาณ 3. กรอบวงเงินงบประมาณสำหรับการช่วยเหลือ จำนวน 2,080 ล้านบาท และ 4. การขับเคลื่อนงาน : คณะกรรมการเยียวยาฯ ได้แต่งตั้งอนุกรรมการ จำนวน 8 คณะ เมื่อคณะกรรมการเยียวยาฯ หมดวาระ ให้อำนาจหน้าที่และการดำเนินงานของคณะกรรมการเยียวยาฯ เป็นของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.)

มติที่ประชุม 1.ให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2.อนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,080 ล้านบาท 3.ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาอนุมัติต่อไป

เยียวยา 4 ศพให้ก่อน 3 ล้าน ที่เหลือปีละล้าน

การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐอันสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามระเบียบ กพต. ว่าด้วยการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐอันสืบเนื่อง มาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555

สาระสำคัญ 1) เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2555 ชาวบ้านตำบลปุโละปุโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ถูกยิงถึงแก่ความตาย จำนวน 4 ราย และได้รับบาดเจ็บ 5 ราย กอ.รมน.ภาค 4 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ 10/2555 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2555 และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้มีมติและความเห็นเป็นเอกฉันท์ สรุปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ กระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์

2) ตามระเบียบ กพต.ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555 คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐจังหวัดปัตตานี ในการประชุม ครั้งที่ 1/2555 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2555 พิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยารายละ 500,000 บาท และครั้งที่ 2/2555 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 ได้มีมติ เสนอเลขาธิการ ศอ.บต. ให้นำเสนอ กพต. ตามระเบียบ กพต. ข้อ 7 (1) และรายการท้ายระเบียบ กพต. ว่าด้วยอัตราค่าช่วยเหลือ (1) และ(2) กพต. โดยการเสนอของเลขาธิการ ศอ.บต. กรณีการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเฉพาะกรณี ให้ช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมอีกไม่เกิน จำนวนเงิน 7 ล้านบาท ทั้งนี้ กพต. อาจจะกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการจ่ายเงินช่วยเหลือด้วยก็ได้

มติที่ประชุม เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเฉพาะกรณี กพต. มีมติให้ความเห็นชอบช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม กรณีผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย รายละไม่เกินจำนวนเงิน 7 ล้านบาท โดยกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการจ่าย ดังนี้ 1. ช่วยเหลือเยียวยา รายละ 3 ล้านบาท 2. ช่วยเหลือเยียวยา เป็นเงินออมระยะยาว เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือตั๋วเงินธนาคาร ในวงเงินอีกรายละ 4 ล้านบาท โดยจ่ายเป็นรายปี ปีละ 1 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพ หรือใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาของทายาท ครอบครัวผู้เสียชีวิต หรือประโยชน์อื่น เช่น อุปการะบุตร หรือประกอบพิธีฮัจญ์
เยียวยาเหยื่อคาร์บอมบ์หาดใหญ่ - ยะลา

การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 สาระสำคัญ 1) ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิด เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 จำนวน 3 จุด คือ 1) บริเวณถนนรวมมิตร อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 2) บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรแม่ลาน อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี และ 3) บริเวณศูนย์การค้าลี การ์เดนส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

2) ข้อเสนอของจังหวัดสงขลาและจังหวัดยะลา 2.1) ด้านการช่วยเหลือเยียวยา 2.1.1) จังหวัดสงขลาได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเยียวยา จำนวน 100 ล้านบาท 2.1.2) จังหวัดยะลา ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเยียวยา จำนวน 70 ล้านบาท

2.2) ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย 2.2.1) จังหวัดสงขลาเสนอขอรับการสนับสนุน ดังนี้ - ขอปรับสถานะของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดจังหวัดสงขลา จากประเภทที่ 2 เป็นประเภทที่ 1 เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เข้ามาสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง - ขอปรับเพิ่มกรอบอัตรากำลังปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือพนักงานราชการประจำตำบลทุกตำบลจำนวน 39 อัตรา - ขอปรับเพิ่มอัตรากำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนของกองร้อย อส.จ.สงขลา จาก 60 อัตรา เป็น 120 อัตรา กองร้อย อส.อ.สะเดา และกองร้อย อส.อ.เมืองสงขลา จากที่มีอยู่กองร้อยละ 24 อัตรา เป็นกองร้อยละ 120 อัตรา เพื่อทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในเขตเมืองชายแดนและศูนย์ราชการ - ขอสนับสนุนอุปกรณ์ในงานความมั่นคง เช่น กล้องวงจรปิด รถจักรยานยนต์ อาวุธปืนพกสั้น เสื้อเกราะประจำกาย 2.2.2) จังหวัดยะลาเสนอขอรับการสนับสนุนโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่เสี่ยงและในเขตเทศบาลนครยะลา จำนวน 138 จุด 150 ตัว งบประมาณ 99,375,300 ล้านบาท

2.3) ด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังสาธารณภัย จังหวัดสงขลาขอสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชน ดังนี้ (1) เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ MLR -2.75 - วงเงิน 3,000 ล้านบาท สำหรับกิจการเกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยว ตั้งแต่โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าย่อย ในจังหวัดสงขลา ระยะเวลา 5 ปี - ธนาคารที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลาม และ SME แบงก์ (2) การขอยกเว้นภาษีโรงเรือน และภาษีป้ายร้อยละ 30 เป็นระยะเวลา 2 ปี (3) การจ่ายสินไหมประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดสงขลา ที่มีวีซ่าหรือหนังสือเดินทางถูกต้องจำนวน 1 ล้านบาท ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ.2548 จำนวน 100,000 บาท ระเบียบกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 25,000 บาท ถ้าเป็นหัวหน้าครอบครัวจะได้เพิ่มอีก 25,000 บาท ระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จำนวน 6,000 บาท และสินไหมประกันภัยจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน 309,000 บาท รวม 440,000 บาท โดยจะขอให้รัฐบาลเพิ่มในส่วนการเยียวยาตามมติคณะรับมนตรี พ.ศ.2548 จ่ายให้แก่นักท่องเที่ยวที่มีวีซ่าและหนังสือเดินทางถูกต้องเพิ่มจากเดิมจนครบ 1 ล้านบาท คือจ่ายเพิ่ม 560,000 บาท (4) ขอลดค่า Landing fee ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ให้แก่เครื่องบินเช่าเหมาลำ หรือสายการบินจากต่างประเทศให้เป็นกรณีพิเศษ

มติที่ประชุม 1. ด้านการช่วยเหลือเยียวยา เห็นชอบให้ ศอ.บต. ขอขยายกรอบวงเงินทดรองราชการ ไปยังกรมบัญชีกลางจากเดิม 230 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท สำหรับงบประมาณที่ขอจัดสรรจำนวน 170 ล้านบาท ให้ ศอ.บต. ร่วมกับทางจังหวัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายและขอรับการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้ในลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไปอยู่แล้ว

2. ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย 2.1 ให้ความเห็นชอบตามข้อ 2.2.1 และมอบให้จังหวัดสงขลา ร่วมกับ กอ.รมน. และกระทรวงมหาดไทย ไปพิจารณาในรายละเอียดและเสนอขอตั้งกรอบอัตรากำลังและงบประมาณ ในปีงบประมาณ 2556 ต่อไป 2.2 ให้ความเห็นชอบตามข้อ 2.2.2 โดยขออนุมัติงบประมาณ จากงบกลางปี 2555 จำนวน 99,375,300 ล้านบาท รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นและให้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้เน้นเพื่อการป้องกันและการเตือนภัยมากกว่าการใช้เป็นหลักฐานทางคดีหลังเกิดเหตุ

3. ด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังสาธารณภัยเห็นชอบดังนี้ 3.1 มอบให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับสำนักงบประมาณ สศช. จังหวัดสงขลา และ ศอ.บต. พิจารณาสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยว ตั้งแต่ โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าย่อย ระยะเวลา 5 ปี 3.2 ให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาลดภาษีโรงเรือน และภาษีป้าย ลงร้อยละ 30 ระยะเวลา 2 ปี 3.3 ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาการจ่ายค่าสินไหมประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยวเพิ่มเติมตามที่เสนอ 3.4 ให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาลด Landing fee ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ตามที่เสนอ
กำลังโหลดความคิดเห็น