สงขลา - ตำรวจส่งสำนวนกรณีชาวบ้านถูกทหารพรานยิงเสียชีวิต 4 ศพให้กับอัยการปัตตานี เพื่อส่งให้ศาลไต่สวนการตายต่อไป พร้อมตั้งคดีอาญากับทั้งฝ่ายทหารพรานและชาวบ้าน คาดญาติผู้ตายได้เงินเยียวยา 7 ล้านบาท
วันนี้ (29 มี.ค.) ในการประชุมคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญตัวแทนฝ่ายรัฐและประชาชนมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ทหารพรานยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 ศพ และบาดเจ็บอีก 4 คน เหตุเกิดที่บ้านกาหยี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในวันที่ 29 มกราคม 2555
โดยมีผู้ที่มาให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ พล.ท. อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค4, พล.ท. มนตรี อุมารี หัวหน้าคณะทำงานเยียวยาและศาสนา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, นายลือชัย เจริญทรัพย์ นายอำเภอหนองจิก, นายปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, พ.ต.อ. โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บังคับการจังหวัดปัตตานี และ นายอนุกูล อาแวปูเตะ ทนายความจากมูลนิธิศูนย์ทนายมุสลิม
พ.ต.อ.โพธ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำสำนวนการชันสูตรพลิกศพผู้ตายเสร็จสิ้นแล้ว และได้ส่งให้พนักงานอัยการปัตตานีไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อทำคำร้องต่อศาลเพื่อให้ไต่สวนการตาย และได้มีคำสั่งว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน ตายอย่างไร ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญาได้กำหนดให้ศาลต้องทำการไต่สวนการตายในกรณีการวิสามัญฆาตกรรมและการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าพนักงานของรัฐในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้ พ.ต.อ.โพธ กล่าวว่า ตำรวจยังได้ตั้งคดีอีก 2 สำนวน ในสำนวนแรก เจ้าพนักงานถูกกล่าวหาว่ากระทำอันเป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตาย โดยในคดีนี้มีผู้ต้องหา 4 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งมีการตั้งข้อหาในประเด็นร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83 และ 288 สำนวนที่สอง คือ เจ้าพนักงานกล่าวหาว่ามีคนร้ายพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ในสำนวนนี้ยังไม่ได้มีการระบุตัวผู้ต้องหาและข้อหาแต่อย่างใด
โดยในการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำตามระเบียบทุกประการ เช่น มีล่ามให้ในกรณีที่ผู้ถูกสอบปากคำใช้ภาษามลายูถิ่น และมีผู้ที่ผู้ถูกสอบปากคำให้การไว้วางใจเข้าร่วมรับฟังทุกครั้ง ในกรณีการสอบปากคำเยาวชนจะมีบิดามารดา และนักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมฟังการการสอบสวนทุกครั้ง
นายกมลศักดิ์ แวลีเมาะ ทนายความจากมูลนิธิศูนย์ทนายมุสลิม ตั้งข้อสังเกตว่าหากมีการดำเนินคดีกับชาวบ้านที่รอดชีวิต การเยียวยาที่ฝ่ายรัฐพยายามทำอยู่นี้จะไม่มีความหมาย
ทางด้านนายโกวิทย์ ธารณา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวว่า ตนเกรงว่าผู้ไม่หวังดีจะเอาเรื่องนี้ไปเป็นประเด็น ถ้าหากว่าชาวบ้านถูกตัดสินว่ามีความผิด เรื่องนี้จะไม่จบ
ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้ว ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะไม่เดินไปถึงขนาดที่นายกมลศักดิ์กล่าว แต่จำเป็นที่จะต้องให้กระบวนการยุติธรรมเดินไป
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม พล.ท.อุดมชัย ได้สรุปถึงผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้แต่งตั้งขึ้นให้กับคณะกรรมาธิการการทหารทราบ โดยคณะกรรมการได้สรุปว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ โดยฝ่ายประชาชนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นก็เนื่องจากสำคัญผิดเพราะว่าสภาพแวดล้อมในขณะนั้นมืด และเวลาเกิดนั้นค่อนข้างดึก
และในส่วนของการหาหลักฐานนั้นยังทำได้ไม่ถึงที่สุด เพราะชาวบ้านไม่ให้ความร่วมมือ โดยแม่ทัพภาคสี่ได้แสดงความเห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมการในการจัดตั้งองค์คณะที่มีความเป็นอิสระในการดำเนินการด้านนิติวิทยาศาสตร์ขึ้นในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมทั้งให้มีนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลทหารที่ทำงานภายใต้ภาวะกดดันเป็นเวลานานด้วย
นายอนุกูล ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการชุดนี้มีคุณค่ามากในการสะสางความคลางแคลงใจของชาวบ้าน แต่การหาหลักฐานก็อาจจะยังมีความติดขัดอยู่ เพราะชาวบ้านไม่เชื่อมั่นและไม่อยากให้ความร่วมมือในการพิสูจน์หลักฐานกับรัฐ ยกตัวอย่างเรื่องการผ่าศพชันสูตรที่หลายครั้งชาวบ้านปฏิเสธ เพราะเชื่อว่าผิดหลักการทางศาสนา ชาวบ้านตั้งคำถามว่าเมื่อผ่าศพแล้วศพเสียหาย แต่ชาวบ้านจะได้ประโยชน์อะไร และไม่เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม
ด้าน นายปิยะ รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ทางเลขาธิการ ศอ.บต. จะได้เสนอเรื่องให้กับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) พิจารณาว่า ผู้ที่เสียชีวิต 4 ศพในเหตุการณ์นี้เข้าข่ายที่จะได้รับเงินเยียวยา 7 ล้านบาทหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้เข้าเงื่อนไขทุกอย่าง แต่จะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับมติของ กพต. โดยในเบื้องต้น ศอ.บต. ได้อนุมัติการจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 4 คนไปแล้วรายละ 500,000 บาท
วันนี้ (29 มี.ค.) ในการประชุมคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญตัวแทนฝ่ายรัฐและประชาชนมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ทหารพรานยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 ศพ และบาดเจ็บอีก 4 คน เหตุเกิดที่บ้านกาหยี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในวันที่ 29 มกราคม 2555
โดยมีผู้ที่มาให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ พล.ท. อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค4, พล.ท. มนตรี อุมารี หัวหน้าคณะทำงานเยียวยาและศาสนา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, นายลือชัย เจริญทรัพย์ นายอำเภอหนองจิก, นายปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, พ.ต.อ. โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บังคับการจังหวัดปัตตานี และ นายอนุกูล อาแวปูเตะ ทนายความจากมูลนิธิศูนย์ทนายมุสลิม
พ.ต.อ.โพธ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำสำนวนการชันสูตรพลิกศพผู้ตายเสร็จสิ้นแล้ว และได้ส่งให้พนักงานอัยการปัตตานีไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อทำคำร้องต่อศาลเพื่อให้ไต่สวนการตาย และได้มีคำสั่งว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน ตายอย่างไร ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญาได้กำหนดให้ศาลต้องทำการไต่สวนการตายในกรณีการวิสามัญฆาตกรรมและการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าพนักงานของรัฐในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้ พ.ต.อ.โพธ กล่าวว่า ตำรวจยังได้ตั้งคดีอีก 2 สำนวน ในสำนวนแรก เจ้าพนักงานถูกกล่าวหาว่ากระทำอันเป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตาย โดยในคดีนี้มีผู้ต้องหา 4 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งมีการตั้งข้อหาในประเด็นร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83 และ 288 สำนวนที่สอง คือ เจ้าพนักงานกล่าวหาว่ามีคนร้ายพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ในสำนวนนี้ยังไม่ได้มีการระบุตัวผู้ต้องหาและข้อหาแต่อย่างใด
โดยในการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำตามระเบียบทุกประการ เช่น มีล่ามให้ในกรณีที่ผู้ถูกสอบปากคำใช้ภาษามลายูถิ่น และมีผู้ที่ผู้ถูกสอบปากคำให้การไว้วางใจเข้าร่วมรับฟังทุกครั้ง ในกรณีการสอบปากคำเยาวชนจะมีบิดามารดา และนักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมฟังการการสอบสวนทุกครั้ง
นายกมลศักดิ์ แวลีเมาะ ทนายความจากมูลนิธิศูนย์ทนายมุสลิม ตั้งข้อสังเกตว่าหากมีการดำเนินคดีกับชาวบ้านที่รอดชีวิต การเยียวยาที่ฝ่ายรัฐพยายามทำอยู่นี้จะไม่มีความหมาย
ทางด้านนายโกวิทย์ ธารณา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวว่า ตนเกรงว่าผู้ไม่หวังดีจะเอาเรื่องนี้ไปเป็นประเด็น ถ้าหากว่าชาวบ้านถูกตัดสินว่ามีความผิด เรื่องนี้จะไม่จบ
ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้ว ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะไม่เดินไปถึงขนาดที่นายกมลศักดิ์กล่าว แต่จำเป็นที่จะต้องให้กระบวนการยุติธรรมเดินไป
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม พล.ท.อุดมชัย ได้สรุปถึงผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้แต่งตั้งขึ้นให้กับคณะกรรมาธิการการทหารทราบ โดยคณะกรรมการได้สรุปว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ โดยฝ่ายประชาชนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นก็เนื่องจากสำคัญผิดเพราะว่าสภาพแวดล้อมในขณะนั้นมืด และเวลาเกิดนั้นค่อนข้างดึก
และในส่วนของการหาหลักฐานนั้นยังทำได้ไม่ถึงที่สุด เพราะชาวบ้านไม่ให้ความร่วมมือ โดยแม่ทัพภาคสี่ได้แสดงความเห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมการในการจัดตั้งองค์คณะที่มีความเป็นอิสระในการดำเนินการด้านนิติวิทยาศาสตร์ขึ้นในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมทั้งให้มีนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลทหารที่ทำงานภายใต้ภาวะกดดันเป็นเวลานานด้วย
นายอนุกูล ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการชุดนี้มีคุณค่ามากในการสะสางความคลางแคลงใจของชาวบ้าน แต่การหาหลักฐานก็อาจจะยังมีความติดขัดอยู่ เพราะชาวบ้านไม่เชื่อมั่นและไม่อยากให้ความร่วมมือในการพิสูจน์หลักฐานกับรัฐ ยกตัวอย่างเรื่องการผ่าศพชันสูตรที่หลายครั้งชาวบ้านปฏิเสธ เพราะเชื่อว่าผิดหลักการทางศาสนา ชาวบ้านตั้งคำถามว่าเมื่อผ่าศพแล้วศพเสียหาย แต่ชาวบ้านจะได้ประโยชน์อะไร และไม่เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม
ด้าน นายปิยะ รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ทางเลขาธิการ ศอ.บต. จะได้เสนอเรื่องให้กับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) พิจารณาว่า ผู้ที่เสียชีวิต 4 ศพในเหตุการณ์นี้เข้าข่ายที่จะได้รับเงินเยียวยา 7 ล้านบาทหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้เข้าเงื่อนไขทุกอย่าง แต่จะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับมติของ กพต. โดยในเบื้องต้น ศอ.บต. ได้อนุมัติการจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 4 คนไปแล้วรายละ 500,000 บาท