ผวจ.ปัตตานีตรวจเยี่ยมผู้ต้องขังเรือนจำกลางปัตตานี

ปัตตานี - ผวจ.ปัตตานี และคณะเดินทางตรวจเยี่ยมเรือนจำกลางปัตตานี พร้องสั่งกำชับอย่างเข้มงวด เรื่องการลักลอบซื้อยาเสพติดของผู้ต้องขัง ด้านผู้คุมขังยอมรับตรวจค้นอย่างจริงจัง พบโทรศัพท์มือถือ และยาเสพติดเป็นจำนวนมาก

วันนี้ (22 มีค.) ที่เรือนจำกลางปัตตานี นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายเลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา รองผบก.ภจว.ปัตตานี นายอภิรัฐ สะมาแอ นายอำเภอเมืองปัตตานี พร้อมหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด เข้าร่วมตรวจเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำกลางปัตตานี โดยมีนายอาวุธ สุวรรณโณ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานีให้การต้อนรับและกล่าวรายงานสรุปจำนวนผู้ถูกขังในเรือนจำกลางปัตตานีมีจำนวน 1,200 คน ส่วนใหญ่เป็นนักโทษที่มีความผิดฐานมียาเสพติดไว้ครอบครองและเพื่อจำหน่ายมีมากถึง 668 คน อันดับแรกเกี่ยวข้องกับยาบ้า เฮโรอีน และกัญชารองลงมา

นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐมี จำนวน 55 คน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี หรือพิพากษาจากศาล โดยทางเรือนจำยังแยกขังต่างหากกับคดีฐานความผิดอื่นๆ ซึ่งทางเรือนจำปัตตานีได้จัดให้มีโครงการฟื้นฟูอาชีพผู้ถูกขัง เพื่อนำไปประกอบอาชีพภายหลังจากพ้นโทษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผวจ.ปัตตานีได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากพลเมืองดีว่าได้มีการนำยาเสพติดเข้าภายในเรือนจำกลางปัตตานี จึงได้มีการสั่งการให้มีตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องเป็นพิเศษพร้อมกำชับให้ ผบ.เรือนจำเข้มงวดในเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ

ด้านอดีตผู้ถูกขังในเรือนจำกลางปัตตานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภายในเรือนจำกลางปัตตานีมีการระบาดของยาเสพติดไม่แตกต่างจากภายนอกเรือนจำมากนัก มีจำหน่ายในราคาเม็ดละ 500-600 บาท โดยใช้วิธีการโอนเงินเข้าผ่านบัญชีธนาคาร นอกจากนั้นภายในเรือนจำยังมีการนำเข้าเครื่องโทรศัพท์มือถือในราคาเครื่องละหมื่นบาท

ด้านผู้คุมเรือนจำกลางปัตตานียอมรับว่า ทางเรือนจำได้มีมาตรการปราบปรามในเรื่องของการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาสู่ภายในเรือนจำ ซึ่งส่วนใหญ่จะพบจากอาหารหรือสิ่งของอุปโภคบริโภคที่ญาตินำมาฝากซึ่งบางครั้งหลุดลอดเข้าไปบ้าง เนื่องจากมีการซุกซ่อนในขนมต่างๆ ที่นำมาฝาก อย่างไรก็ตาม ทางเรือนจำได้มีการเข้มงวดมาโดยตลอด ส่วนเครื่องโทรศัพท์มือถือนั้นถือเป็นเรื่องต้องห้ามเด็ดขาดไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหาใช้ติดต่อกับคนภายนอก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเคยพบเจอทุกครั้งเมื่อมีการตรวจค้นเฉลี่ย 2-3 เครื่องต่อปี