ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูเก็ตรวบ “โรงฮิงยา” ขณะขึ้นฝั่งขออาหารชาวบ้านที่หาดในหาน ต.ราไวย์ อ้างเหมาเรือหางยาวมากันกว่า 100 คน เบื้องต้นจับได้ 90 คน เร่งค้นหาส่วนที่เหลือ
วันนี้ (26 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต รับแจ้งจากชาวบ้านมีชายฉกรรจ์ชาวโรฮิงยาจำนวนมากเดินออกมาขออาหารชาวบ้านกิน ขอให้ตรวจสอบและจับกุม ภายหลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจน้ำ ด่านตรวจค้นเข้าเมือง ปกครองจังหวัด ระดมกำลังเข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบชาวมุสลิมโรฮิงยาตามสถานที่ต่างรอบๆ หนองน้ำในหาน หน้าวัดในหาน บริเวณชายหาด ตามแนวป่าโดยช่วงแรกสามารถจับกุมตัวได้จำนวน 85 คน และจากการตรวจสอบพบบริเวณชายหาดในหานมีเรือหางยาวจอดติดอยู่บริเวณชายฝั่ง 1 ลำ สภาพลำเรือแตก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรฉลอง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่สภาพอิดโรย เจ้าหน้าที่ได้นำอาหารและน้ำมาให้ดื่มกินเพื่อประทังความหิว
อย่างไรก็ตาม ในการนำตัวชาวโรฮิงยาทั้งหมดมาสอบปากคำนั้นนายจำเริญ ทิพยพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.กฤตภาศ เดชอินทรศร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมสอบปากคำด้วย ซึ่งจากสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าชาวโรฮิงยาทั้งหมดเดินทางมาโดยเรือหางยาวเป็นเวลากว่า 7 วันแล้ว โดยปล่อยให้เรือลอยไปเรื่อยเพื่อที่จะเดินทางไปยังประเทศมุสลิม แต่เรือที่ใช้เดินทางเข้ามา เกิดแตกและลอยเข้าฝั่งที่จังหวัดภูเก็ต จึงขึ้นจากเรือเพื่อไปขออาหารจากชาวบ้านรับประทาน
สำหรับเรือลำดังกล่าวมีผู้เดินทางมาพร้อมกันจำนวนประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์อายุระหว่าง 13-40 ปี โดยส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมตัว อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวมาได้เพิ่มอีก 5 คน ทำให้ยอดการจับกุมในครั้งนี้อยู่ที่ 90 คน แล้ว ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ยังระดมกำลังติดตามจับกุมอยู่
นายจำเริญกล่าวว่า จากการสอบถามทราบว่าการเดินทางในครั้งนี้ต่างก็ลงขันกันในการซื้อเรือเพื่อที่จะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 และใช้เวลาในการเดินทางมาแล้วหลายวัน เมื่อมาขึ้นฝั่งที่จังหวัดภูเก็ตก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายซึ่งหลังจากทำประวัติเสร็จก็จะส่งมอบให้กับทางด่านตรวจค้นเข้าเมืองเพื่อผลักดันต่อไป
