xs
xsm
sm
md
lg

จากสงขลา-สตูล-ลังกาวี-หลีเป๊ะ / จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์มหาเดร์  ซึ่งผู้นำของมาเลเซียนิยมมอบทรัพย์สินส่วนตัวไว้เป็นสาธารณะประโยชน์มากกว่าเก็บไว้เอง
คอลัมน์ : คนคาบสุมทรมลายู
โดย..จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

11-13 กุมภาพันธ์ 2555 ผู้เขียนและกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลาบางส่วน ประกอบด้วย นายกสภามหาวิทยาลัย(ศ.ดร.วิษณุ เครืองาม) อธิการบดี, (ผศ.ดร.ไพโรจน์ ด้วงวิเศษ) และสมาชิกทั้งหมดรวม 19 คน เดินทางไปทัศนศึกษาประเทศมาเลเซียที่หมู่เกาะลังกาวี เพชรเม็ดงามแห่งรัฐเคดะห์ เกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล และไปดูสถานที่ที่จะก่อสร้างมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาวิทยาเขตสตูล บนที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งสารภี อ.ละงู จ.สตูล

ที่เกาะลังกาวี เราได้จับจ่ายซื้อของกินที่ตลาดกั๊วร้านวิรา กายาเป็นร้านดิวตี้ฟรีของลังกาวีที่รับเงินไทย เจ้าของร้านและพนักงานในร้านส่วนใหญ่พูดและเขียนภาษาไทย สินค้าส่วนใหญ่เป็นขนมขบเคี้ยว ผลไม้แห้ง ปลาเค็ม เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ อาหารมื้อแรกที่ลังกาวีคืออาหารมื้อค่ำที่ร้าน “ว่านไทย” (Wan Thai) เจ้าของร้านและพนักงานโดยเฉพาะกุ๊กเป็นคนไทย เปิดจำหน่ายมาร่วม 15 ปีแล้ว เป็นร้านโปรดของมหาเดร์อดีตผู้นำมาเลเซียและผู้สร้างลังกาวีให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เจ้าของร้านสาวสวยชื่ออารีนา บอกว่าอาหารไทยที่ได้รับความนิยมในหมู่คนมาเลเซียมากที่สุดคือแกงเหลืองหรือแกงส้มและต้มยำ

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของวัน คือ สุสานไหมสุหรี สาวงามเจ้าของตำนานรักวิปโยค ที่สืบเชื้อสายชาวสยาม หรือคนไทยจากเกาะภูเก็ต ผู้เป็นเจ้าของคำสาปเกาะลังกาวีให้ประสบความหายนะเจ็ดชั่วโคตรเพราะนางโกรธที่ถูกสั่งประหารชีวิตโดยไม่มีความผิด

จากตำนานไหมสุหรี (นางเลือดขาวอีกคนหนึ่งในตำนาน) ที่นำมาเป็นจุดขายให้กับลังกาวีดินแดนที่มีแต่ภูเขาและผู้คนหลายเผ่าพันธุ์ จนสามารถสร้างให้ลังกาวีกลายเป็นเพชรเม็ดงามของเคดะห์ ของมาเลซีย ของอาเซียนและของโลกทั้งๆ ที่ไหมสุหรีเป็นชาวภูเก็ตและยังมีทายาทรุ่นที่เจ็ดมีตัวตนอยู่ที่ภูเก็ต เมืองภูเก็ตมีทุกสิ่งทุกอย่างที่บางอย่างลังกาวีไม่ค่อยมี เช่น หาดทรายขาวสะอาด ที่ราบ ข้าวปลา พืชพันธุ์ธัญญาหาร ไม้ดอกไม้ผลอันอุดมสมบูรณ์ทุกฤดูกาล แต่ทำไมเราจึงไม่สามารถขายตำนานนางเลือดขาวที่ชื่อไหมสุหรีทางการท่องเที่ยวได้อย่างมาเลเซีย

และยิ่งน่าเจ็บปวดอีกหลายเท่าเมื่อทราบจากผู้นำเที่ยวลังกาวีว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในลังกาวีไปจากประเทศไทยและไปเที่ยวที่สุสานไหมสุหรีเพื่อกราบไหว้สุสาน บนบานให้มีลูกแล้วจะนำกล้วยน้ำว้าไปแก้บน ไปดูบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ไปฟังตำนานรักรันทดไหมสุหรีจากวิดีโอพรีเซ็นเตชันภาษาไทย ไปดูเรือนไทยจำลองของครอบครัวไหมสุหรี ซึ่งคือเรือนไทยปักษ์ใต้ในอดีต (ไปดูความเป็นไทยที่มาเลเซีย)

แหล่งท่องเที่ยวแหล่งที่สองคือพิพิธภัณฑ์มหาเดร์ หรือ GALERIA PERDANA ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของมีค่าคู่บ้านคู่เมืองอันเป็นสมบัติส่วนตัวของมหาเดร์อยู่ในอาคารอัครฐานสามกลุ่มหรือ 3Blok คือ Blok A, Blok B และBlok C โดยเฉพาะ Blok C จัดแสดงเกี่ยวกับอาวุธมีดและศาสตราวุธ หรือกริชสกุลต่างๆ มากมายคล้ายที่พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ แต่ของเขาอลังการกว่าทั้งของที่จัดแสดงรูปแบบการจัดแสดงและอาคารสถานที่

จากการเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้และอีกหลายแห่งในมาเลเซียพบว่า ผู้นำของมาลเซียทุกระดับมีความแตกต่างอย่างฉกาจอยู่อย่างหนึ่งคือ ผู้นำมาเลเซียนิยมนำเอาสมบัติส่วนตัวมอบให้เป็นประโยชน์หรือสมบัติส่วนตัวมาทุกยุคทุกสมัย และไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการสร้างและบำรุงรักษาพิพิภัณฑ์ โบราณสถานและโบราณวัตถุของชาติอย่างมาเลเซีย

ออกจากลังกาวีเรามุ่งหน้าสู่เกาะหลีเป๊ะ หมู่บ้านเล็กๆ บนเกาะที่ไม่มีอะไร แม้แต่พืชผักที่แพงเป็นหลายเท่าของราคาจากต้นทาง ค่าแรงและวัสดุก่อสร้างแพงร้อยเปอร์เซ็นต์ของราคาบนแผ่นดินใหญ่ แต่ทั้งกลางวันและค่ำคืนของที่นี่เต็มไปด้วยฝรั่งที่เดินบนถนนคนเดินขวักไขว่ไม่แพ้ที่ภูเก็ต

ทราบจากประธานชมรมการท่องเที่ยวของเกาะหลีเป๊ะว่า ที่นี่ไม่มีใครมีเอกสารสิทธิ์เกี่ยวกับที่ดินแม้แต่รายเดียว แต่สามารถจะขายที่ดินในราคาร้อยล้านพันล้านได้เพียงชี้นิ้วบอกว่าอาณาเขตที่ดินของตนจรดใครบ้างเท่านั้น ขยะที่นี่นำไปกำจัดบนแผ่นดินใหญ่ เด็กๆ ที่นี่ส่วนใหญ่จบแค่ระดับการศึกษาภาคบังคับ เพราะมีโรงเรียนประถมขยายโอกาสเพียงโรงเดียวคือโรงเรียนบ้านเกาะอาดัง ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล มีวัดเพียงวัดเดียวแต่ไม่ค่อยมีพระจำพรรษาและบิณฑบาตเป็นเงินแทนก้อนข้าว สิ่งที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือยาเสพติดประเภทยาบ้าเริ่มแพร่เข้ามา ส่วนกัญชาเป็นเรื่องปกติของเมืองท่องเที่ยวที่มีฝรั่งเป็นหลักอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น