สาวใหญ่ร้อง “ผู้ว่าฯกระบี่” ถูกตามฆ่า แต่ ตร.ขู่พยานหวังพลิกคดี

กระบี่ - สาวใหญ่ตบเท้าร้องผู้ว่าฯ ขอความเป็นธรรม หลังเป็นคดีความกับชาวต่างชาติแล้วถูกทนายความจ้างวานฆ่า จึงแจ้งความตำรวจ สภ.ลำทับ ซ้ำแต่ถูกเรียกพยานมาข่มขู่ให้กลับคำให้การและคดีไม่คืบหน้า ด้าน ผกก.สั่งเปลี่ยนพนักงานสอบสวน พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง

วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น.ชาวบ้านในอำเภอลำทับกว่า 30 คน นำโดยนางสาวจุรีย์พร สงคง อายุ 35 ปี อาชีพประกอบธุรกิจท่องเที่ยว อยู่บ้านเลขที่ 29/52 ถ.วัชระ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลกลางจังหวัดกระบี่ และถือป้ายข้อความประณามการทำหน้าที่ของเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.ลำทับ ใช้อำนาจโดยมิชอบ และยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่

ทั้งนี้ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีที่ได้ไปแจ้งความกับเจ้าพนักงานสอบสวน แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรม และพยายามข่มขู่พยานให้กลับคำให้การ อันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมี นายสุนทร เครือหลี ป้องกันจังหวัดกระบี่ ออกมารับเรื่องพร้อมประสานไปยังผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

นางสาวจุรีย์พร กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมาร้องเรียน เนื่องจากเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา ตนมีปัญหากับชาวต่างชาติ และมีการฟ้องร้องกันเรื่องอยู่ในการพิจารณาของศาลจังหวัดกระบี่ จนต่อมาทราบว่ามีคนพยายามตามฆ่า โดยมี นายโชติเชาว์ อินทรโชติ อาชีพทนายความ ซึ่งเป็นบุตรของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อำเภอลำทับ ได้ทำการจ้างวานฆ่าตน โดยมีพยานหลักฐานเป็นภาพถ่าย และเงินมัดจำของผู้ถูกจ้างวาน จำนวน 50,000 บาท จึงได้นำเรื่องเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.โกเมท ชูชมชื่น พนักงานสอบสวน สภ.ลำทับ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2555 เพื่อร้องทุกข์และให้ดำเนินคดีกับนายโชติเชาว์

แต่หลังแจ้งความ การสอบสวนล่าช้า ซ้ำร้ายทางพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวกลับนำสำนวนคดีไปแจ้งให้คู่กรณีของตนรับทราบ และยังเรียกพยานของตน คือ นายประภาส เรืองทอง และ นายชาติ ชุมทอง ไปข่มขู่เพื่อให้กลับคำให้การเพื่อเข้าข้างคู่กรณีด้วย

จากพฤติกรรมดังกล่าว จึงทำให้ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.โกเมท และ นายโชติเชาว์ เป็นผู้มีอิทธิพลที่สามารถกระทำการใดๆ ได้โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ฉะนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม จึงให้ขอย้าย พ.ต.ท.โกเมท ออกจากพื้นที่โดยด่วน รวมทั้งมิให้ทนายโชติเชาว์พร้อมพวกทำคดีในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อไม่ให้ไปข่มขู่พยานและสร้างอิทธิพลอีกต่อไป

จากนั้น นางสาวจุรีย์พร พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ โดยมี พล.ต.ต.จำรูญ รื่นรมย์ ผบก.ภ.จว.กระบี่ เป็นผู้รับเรื่องและได้เชิญนางสาวจุรีย์พร พร้อมพยานรวม 3 คน ไปประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อยุติ

พล.ต.ต.จำรูญ กล่าวว่า เบื้องต้นทางผกก.สภ.ลำทับได้ให้ทำการเปลี่ยนตัวเจ้าพนักงานสอบสวนแล้ว และให้ทาง พ.ต.อ.เบญจมันต์ จันทร์เกิด รองผบก.ภ.จว.กระบี่ รับผิดชอบดูแลคดีดังกล่าวด้วยตัวเอง และจะรับรองความปลอดภัยให้ทั้งผู้ร้องและพยาน

ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนเจ้าพนักงานสอบสวนนั้น ก็จะได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป หากมีความผิดก็จะดำเนินการไปตามกฎหมาย ทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็พอใจ และแยกย้ายกันกลับในที่สุด