สสจ.ภูเก็ตเตือนกินยาล้างไตอำพรางสารเสพติดเสี่ยงทำไตวาย

ศูนย์ข่าวภูเก็ต-แพทย์ สสจ.ภูเก็ต เตือนกินยาล้างไต Methylene Blue ขับสารเสพติดเสี่ยงไตวาย หลังพบเด็กนักเรียนในภูเก็ตหันมาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสารเสพติดหลังเสพยาไอซ์ ระบุเพิ่งพบครั้งแรก แนะเจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะหากพบสีฟ้าตั้งข้อสงสัยเสพยา พร้อมเก็บตัวอย่างส่งกรมวิทยาศาสตร์ฯ ตรวจสอบ เชื่อเด็กเอามารับประทานเนื่องจากมีคนแนะนำ

นายแพทย์ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีเด็กนักเรียนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนำยาล้างไต กลุ่ม Methylene Blue มากินเพื่อทำให้อาเจียนและไม่สามารถตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะหลังจากเสพยาไอซ์เข้าไปได้ว่า การนำยาล้างไต Methylene Blue มากินในกลุ่มนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจหาสารเสพติดพบนั้น เพิ่งได้รับรายงานครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยพบว่ามีกลุ่มผู้เสพยาเสพติดนำยาดังกล่าวมาใช้เพื่อไม่ให้ตรวจหาสารเสพติดเจอ

ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะเร่งดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกระทรวงมหาดไทย และศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัด หรือ ศพส.จ.ภก.ในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติด โดยจะเข้าไปควบคุมการจำหน่ายยากลุ่ม Methylene Blue ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วๆ ไป แต่ถ้ามีการใช้ผิดประเภทก็ต้องควบคุมพิเศษขึ้นมา ซึ่งอาจจะขอความร่วมมือ อย.ออกเป็นกฎระเบียบเฉพาะในส่วนของจังหวัดภูเก็ต หรือใช้ทั้งประเทศในการควบคุมยาตัวนี้ เพื่อไม่ให้มีการจำหน่ายโดยทั่วไป

“ส่วนเด็กรู้ได้อย่างไรว่ายาตัวนี้สามารถปกปิดไม่ให้ มีการตรวจพบสารเสพติดหลังจากเสพเข้าไปแล้ว คิดว่าน่าจะมีผู้รู้ หรือว่าผู้ขายแนะนำให้ใช้เพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งจริงๆ ก็หนีไม่พ้น เพราะส่ออาการพิรุธ เนื่องจากปัสสาวะของคนทั่วไปจะมีขาว เหลือง หรือเหลืองขุ่น แต่ถ้าปัสสาวะเป็นสีฟ้าถือว่าไม่ปกติ ตนจึงขอให้ทางโรงเรียนตามไปดูว่านักเรียนจำเป็นต้องใช้ยาตัวนี้หรือไม่ มีใบแพทย์สั่งหรือไม่ ซื้อยามาจากไหน เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้ส่งมายังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เพื่อจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบและดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป”

นายแพทย์ศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ปกติเราตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เพราะฉะนั้นถ้าเด็กหรือเยาวชนที่ต้องการให้ปัสสาวะสีฟ้าเพื่อปกป้องไม่ให้ตรวจพบปัสสาวะสีม่วงก็ควรเป็นผู้ต้องสงสัย และเก็บปัสสาวะสีฟ้าให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จังหวัดภูเก็ตไปตรวจสอบว่ามีสารเสพติดตัวใดตัวหนึ่งอยู่บ้างหรือไม่ จากนั้นก็ให้ตามไปหาบัตรผู้ป่วย ตามไปว่าโรงพยาบาลไหนจ่ายยาให้เขา ตามไปว่าเขาซื้อยาจากร้านเภสัชร้านไหน แล้วทางเราจะดำเนินการให้กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคไปตรวจสอบว่าร้านไหนที่ขายยากลุ่มเมทีลินบลู เพื่อที่จะขอความร่วมมือให้หยุดจำหน่าย ถ้าไม่มีใบแพทย์สั่ง เพราะเป็นการส่งเสริมให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น

นายแพทย์ศักดิ์กล่าวอีกว่า การรับประทานยาล้างไต Methylene Blue เข้าไปอาจจะส่งผลกระทบต่อไตได้ ถ้ากินบ่อยๆ ก็จะทำให้ไตทำงานหนัก เสี่ยงเกิดภาวะไตวายได้ ซึ่งปกติผู้ป่วยที่จะรับประทานยาล้างไต Methylene Blue จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และแพทย์ต้องสั่งยาให้ แต่ถ้าพบว่ามีการไปหาซื้อมากินเอง เด็กเยาวชนคนนั้นส่ออาการติดยา ซึ่งเรื่องนี้จะต้องร่วมมือกันในการทำงานเพื่อตรวจสอบต่อไป