ศูนย์ข่าวภูเก็ต- เสมารักษ์-นอภ.เมืองภูเก็ต เรียกผู้ปกครองประชุมรับทราบ ร่วมหาแนวทางแก้ไข พฤติกรรมบุตรหลานหนีเรียนมั่วสุมเสพยา แนะผู้ปกครองรับบุตรหลานกลับบ้านเอง พร้อมสังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด
นายเกรียงไกร บุญตา รองหัวหน้าศูนย์เสมารักษ์ จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเด็กหนีเรียนและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หลังจากมีการสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการออกติดตาม ควบคุมเด็กนักเรียน ที่มีพฤติกรรมหนีเรียน และ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จำนวน 21 คน เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า
หลังจากมีการควบคุมตัวเด็กนักเรียนที่มีพฤติกรรมหนีเที่ยวและเสพยาเสพติดมาแล้ว ทางศูนย์เสมารักษ์ รวมทั้งนายอำเภอเมืองภูเก็ตได้เชิญผู้ปกครองของเด็กนักเรียนทั้ง 21 คน มาร่วมหารือเพื่อที่จะหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน รวมทั้งชี้แจงพฤติกรรมของบุตรหลาน ให้ได้รับทราบ ซึ่งจากการหารือร่วมกันก็ได้ให้คำแนะนำกับผู้ปกครองในการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็กนักเรียนทั้ง 21 คนไป
โดยขอให้ผู้ปกครองมารับบุตรหลานด้วยตัวเอง รวมทั้งให้บุตรหลานไปรอในที่โล่ง ที่ไม่เป็นจุดเสี่ยง พยายามดูแลพฤติกรรม ดูแลการคบเพื่อนฝูง เนื่องจากเด็กในช่วงวัยดังกล่าว คือ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรม ซึ่งถ้าเด็กเดินไปในทางที่ดีก็จะดีไปเลยแต่ถ้าเดินไปในทางที่หลงผิดก็จะเป็นปัญหากับทั้งตัวเด็ก ผู้ปกครอง และ สังคม
ขณะที่ นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายให้ดำเนินการเรื่องยาเสพติด 7 ประการ ทางจังหวัดภูเก็ต และอำเภอได้นำเอาแนวนโยบายดังกล่าวมาปรับใช้เป็นของตนเอง ในการที่จะทำงานร่วมกับส่วนต่างๆ ทั้งร้านขายยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ตำรวจ และฝ่ายปกครองจังหวัด ที่ผ่านมา ก็ค่อนข้างจะได้ผลดีทีเดียว
“และ ณ เวลานี้เราก็ได้นำเอาแนวนโยบายเรื่องยาเสพติด 7 ประการ ดังกล่าวมาใช้กับในโรงเรียน และ นอกโรงเรียน โดยร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐานภูเก็ต ในการดำเนินการด้วยการให้สารวัตรนักเรียนสนธิกำลัง กับฝ่ายปกครองอำเภอเมือง และตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต สนธิกำลังออกตรวจสอบจับกุมเด็กเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเราก็มีข้อมูลอยู่แล้วทั้งจากที่ได้มีการติดตามดูพฤติกรรมของเด็ก เยาวชน และจากข้อมูลที่ประชาชนแจ้งเข้ามา เมื่อวันที่ 30 ม.ค.55 ก็สามารถจับกุมเด็กมีพฤติกรรมหนีเรียน ได้จำนวน 21 คน” นายศุภชัย กล่าวและว่า
จากการดำเนินการดังกล่าวเราได้รับการตอบรับจากประชาชน และส่วนราชการต่างๆ เป็นอย่างดี และขณะนี้ก็มีทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ขอความร่วมมือมายังทางอำเภอในเรื่องคนเร่ร่อน ขอทาน รวมถึงในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดก็ได้ขอความร่วมมือในการตรวจจับพระนอกรีต ที่เข้ามาหากินกับประชาชนและนักท่องเที่ยว ทางอำเภอก็ยินดีที่จะส่งกำลังเข้าไปร่วม